ในปี 2014 โลกต้องตะลึงกับการประกาศครั้งสำคัญของ Elon Musk สุดยอดซีอีโอแห่ง Tesla เขาได้เปิดเผยว่าสิทธิบัตรทั้งหมดของบริษัทจะกลายเป็น “open source” ซึ่งต้องบอกว่านี่ไม่ใช่แค่การตัดสินใจทางธุรกิจธรรมดา แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อวงการยานยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด
Elon ประกาศด้วยความมุ่งมั่นว่า “สิทธิบัตรทั้งหมดของเราเป็นของคุณ” เขาอธิบายว่า Tesla จะไม่ฟ้องร้องใครที่ต้องการใช้เทคโนโลยีของบริษัทโดยสุจริต
ต้องบอกว่านี่เป็นการเคลื่อนไหวที่กล้าหาญและน่าประหลาดใจเป็นอย่างมากสำหรับผู้คนที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมรถยนต์ เพราะโดยทั่วไปแล้วบริษัทมักจะปกป้องสิทธิบัตรของตนอย่างเข้มงวด แต่ Elon มีเหตุผลที่น่าสนใจ
เขาเชื่อว่าการเปิดเผยสิทธิบัตรจะช่วยเร่งการพัฒนาการขนส่งที่ยั่งยืน ในมุมมองของ Elon คู่แข่งที่แท้จริงของ Tesla ไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้ออื่น แต่เป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินที่ผลิตออกมามหาศาลทุกวัน เขาต้องการให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตเร็วขึ้น เพื่อต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
แต่การเปิดเผยสิทธิบัตรของ Tesla ไม่ได้หมายความว่าใครก็สามารถทำอะไรก็ได้กับเทคโนโลยีของบริษัท มีเงื่อนไขสำคัญ คือผู้ที่ใช้เทคโนโลยีของ Tesla ต้องทำด้วยความสุจริต ไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของ
Tesla ไม่ท้าทายการใช้เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทอื่น และไม่ขายหรือช่วยขายผลิตภัณฑ์ Tesla ปลอม นี่เป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการแบ่งปันความรู้ แต่ยังคงปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท
น่าสนใจที่ Elon ไม่ได้เชื่อมั่นในระบบสิทธิบัตรมาตลอด ในช่วงแรกของอาชีพ เขาเคยคิดว่าสิทธิบัตรเป็นสิ่งที่ดีและได้รับสิทธิบัตรมากมาย แต่ประสบการณ์ทำให้เขาเปลี่ยนความคิด เขาเปรียบเทียบสิทธิบัตรกับการซื้อสลากกินแบ่งเพื่อการฟ้องร้อง โดยอ้างถึงคดีความระหว่าง Apple และ Samsung ที่ในที่สุดแล้วผู้ที่ได้ประโยชน์จริงๆ คือทนายความเท่านั้น
แต่ทำไม Elon ถึงกล้าเปิดเผยสิทธิบัตรของ Tesla? คำตอบอยู่ที่ปรัชญาของเขาเกี่ยวกับนวัตกรรม Elon เชื่อว่าวิธีที่แท้จริงในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาคือการสร้างนวัตกรรมให้เร็วพอต่างหาก
เขากล่าวว่าถ้าอัตราการสร้างนวัตกรรมของคุณสูง คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา เพราะคู่แข่งจะกำลังลอกเลียนแบบสิ่งที่คุณทำเมื่อหลายปีก่อน ไม่ใช่สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ในปัจจุบัน
นี่เป็นมุมมองที่น่าสนใจและท้าทายเป็นอย่างมาก มันแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจอย่างสูงในความสามารถของทีมงานและวิสัยทัศน์ของบริษัท Tesla ไม่กลัวที่จะแบ่งปันความรู้ เพราะเชื่อว่าจะยังคงเป็นผู้นำในการสร้างนวัตกรรมต่อไป
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของ Elon ไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงสุญญากาศ มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่น่าสนใจของอุตสาหกรรมยานยนต์
ในปี 2014 เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน Toyota ซึ่งเคยเป็นพันธมิตรของ Tesla ได้หันไปสนใจการผลิตรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนแทน
การเปิดเผยสิทธิบัตรของ Tesla เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจาก Toyota ประกาศยุติความร่วมมือกับ Tesla และเพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่ Toyota จะเปิดตัวรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนรุ่นแรก นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการตอบโต้เชิงกลยุทธ์ของ Elon เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า
การเปิดเผยสิทธิบัตรของ Tesla ส่งผลให้บริษัทได้เปรียบในระยะยาว เพราะทำให้ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ มีแนวโน้มที่จะนำเทคโนโลยีของ Tesla ไปใช้มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนและบริษัทพลังงานลงทุนในเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นด้วย นี่เป็นการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าในภาพรวม
แต่กลยุทธ์นี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่เสี่ยงเลยซะทีเดียว เราสามารถเห็นตัวอย่างจากประวัติศาสตร์ของ IBM PC ที่ใช้สถาปัตยกรรมแบบเปิดเช่นกัน ในตอนแรก IBM ประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ในที่สุดก็สูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งที่ผลิตคอมพิวเตอร์ที่เข้ากันได้กับ PC จนต้องขายธุรกิจ PC ทั้งหมดให้กับ Lenovo ในปี 2005
แต่ Elon และทีมงานของ Tesla ดูเหมือนจะไม่กังวลกับความเสี่ยงนี้ พวกเขามีความมั่นใจในความสามารถและเทคโนโลยีของตนเอง และเชื่อว่าจะยังคงเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าต่อไป นี่คือความมั่นใจที่มาจากการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอย่างแท้จริง
การตัดสินใจของ Elon ในการเปิดเผยสิทธิบัตรของ Tesla เป็นการเดิมพันที่กล้าหาญ มันแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลที่มองเห็นประโยชน์ของการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในภาพรวมมากกว่าผลประโยชน์ระยะสั้นของบริษัท นี่เป็นตัวอย่างที่ดีของการคิดนอกกรอบและการกล้าท้าทายแนวปฏิบัติทางธุรกิจแบบเดิมๆ
แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่บริษัทอื่นๆ จะทำตามแนวทางนี้ เพราะระบบสิทธิบัตรยังคงมีข้อได้เปรียบหลายประการ แต่การกระทำของ Elon ก็ได้จุดประกายการสนทนาที่สำคัญเกี่ยวกับบทบาทของทรัพย์สินทางปัญญาในโลกที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว มันท้าทายให้เราคิดใหม่เกี่ยวกับวิธีที่เราสามารถส่งเสริมนวัตกรรมและความร่วมมือ โดยยังคงรักษาแรงจูงใจสำหรับการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา
ในท้ายที่สุด การตัดสินใจของ Elon Musk ในการเปิดเผยสิทธิบัตรของ Tesla ไม่ใช่แค่เรื่องของบริษัทเดียว แต่เป็นการเคลื่อนไหวที่ส่งผลกระทบต่อทั้งอุตสาหกรรมและได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์ของการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า มันแสดงให้เห็นว่าบางครั้งการแบ่งปันความรู้และการร่วมมือกันอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงในวงกว้างให้เกิดขึ้นได้นั่นเองครับผม