ซึ่งผู้ควบคุมฝูงบินโดรนจะไม่ทำอย่างนั้นที่โต๊ะและจอยสติ๊กเหมือนเก่าอีกต่อไป แต่พวกเขาจะใช้อินเทอร์เฟซเสมือนจริงอย่างเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถมองผ่านโดรนแต่ละตัวได้ สิ่งนี้สร้าง “มุมมองเสมือนจริงที่สามารถโต้ตอบได้แบบเรียลไทม์ของสภาพแวดล้อมในขณะที่มีการรบ” Clark กล่าว
“คุณสามารถมองไปด้านหลังอาคารเพื่อเข้าถึงมุมมองของสถานที่ที่โดรนเข้าถึง และใช้สภาพแวดล้อมเสมือนจริงเพื่อทดสอบและดูว่าภารกิจของคุณเป็นไปได้หรือไม่” Clark อธิบาย
ทีมงานยังได้สร้างอินเทอร์เฟซเสียงพูดที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถสั่งงานด้วยเสียงกับฝูงบินได้ Clark เสริมว่าสิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานดำเนินการได้อย่างรวดเร็วในขณะที่ยังคงตระหนักถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในภารกิจนั้น ๆ
จากนั้นพวกเขาจะใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากนักเล่นเกมเพื่อสร้าง AI ขั้นสูงเพื่อที่จะสามารถประสานการทำงานของกองยานยนต์ของหุ่นยนต์ AI ที่ใช้เทคโนโลยีการขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ
ท้ายที่สุดนักวิจัยหวังว่าจะได้ AI ที่สามารถเป็นแนวทางในการทำงานของกลุ่มหุ่นยนต์ 250 ตัวทั้งบนพื้นดินและในอากาศ ทำให้กองยานหุ่นยนต์ใหม่นี้ สามารถที่จะสำรวจสภาพแวดล้อมที่ไม่สามารถคาดเดาได้ด้วยตนเองในอนาคต
“ มนุษย์สามารถสร้างกลยุทธ์ที่ไม่เหมือนใครซึ่ง AI อาจไม่เคยเรียนรู้มาก่อน” Chowdhury กล่าวกับ Digital Trends“ สิ่งที่เราเห็นใน AI นั้นอยู่ในแอปพลิเคชั่นที่มีสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างแน่นอน แต่ในแง่ของการให้เหตุผลเชิงบริบทในสภาพแวดล้อมจริง เพื่อทำสิ่งต่างๆ นั้น ยังอยู่ในช่วงตั้งไข่ เพียงเท่านั้น ยังต้องมีการเรียนรู้จากมนุษย์อีกเยอะมาก ๆ ”
ความคิดเห็นเพิ่มเติมจากผู้เขียน
เป็นอีกหนึ่งงานวิจัยที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับการนำ AI มาเรียนรู้จากผู้เล่นเกม แน่นอนว่าเรื่องทำนองนี้เคยสำเร็จมาแล้วอย่างยิ่งใหญ่ในเกมโกะ ที่ Alpha Go ที่เริ่มต้นก็เรียนรู้จากหมากกระดานของผู้เล่นทั่วโลกก่อนพัฒนาตัวเองจนสามารถเอาชนะแชมป์โลกได้สำเร็จ