สงครามการเมือง กับเบื้องหลังความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญของ Google Plus ที่มีต่อ Facebook

Google+ ได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกปิดตัวลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  หลังจากที่ บริษัท ใช้เงินไปหลายร้อยล้านดอลลาร์กับโปรเจ็คดังกล่าว Google Plus ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะต่อสู้กับ Facebook ได้เลย 

มันเป็นความล้มเหลวครั้งสำคัญของ Google ในโลกออนไลน์ที่พวกเขาถนัด ซึ่งหลังจากอดีตนักออกแบบของ Google Plus ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมที่ทำงานกับผลิตภัณฑ์ กล่าวว่าสาเหตุหลัก ๆ คือ เรื่องของการเมืองภายในองค์กร และการขาดวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่

หนึ่งวันหลังจากที่ Google ประกาศเกี่ยวกับบริการที่ไม่มีใครสนใจ Google ยอมรับว่า 90% ของผู้ใช้ นั้นอยู่ในบริการของ Google+ น้อยกว่าห้าวินาที อดีตพนักงานของ Google ชื่อ Morgan Knutson ได้กล่าวย้อนอดีตถึง ผลงานภายในของ Google Plus

Knutson ทำงานเป็นนักออกแบบกับ Google+ ระหว่าง 2011 และ 2012 เขาได้ทวีตมากกว่า 200 ครั้ง เพื่ออธิบายรายละเอียดการดำรงตำแหน่งระยะสั้นของเขาที่ Google+ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อมีเป้าหมายในการเอาชนะ Facebook

สิ่งที่ Knutson กล่าวในทวีต อธิบาย เรื่องราวของความหลงใหล การทรยศ การจัดการที่ผิดและ การเมืองในสำนักงานของ Google เอง จากนั้นเขาก็อธิบายว่าทำไมเขาถึงได้เข้ามาทำงานในโครงการใหม่ของ Google ที่ชื่อว่า Google+

หนึ่งในปัญหามากมายของ Google+ ตามที่พนักงาน Google เคยอธิบายไว้ คือ การขาดวิสัยทัศน์ Knutson กล่าวว่า การมองผลิตภัณฑ์ของ Google ใน Google+ นั้น เป็นการขึ้นอยู่กับความกลัวที่จะสูญเสียการแข่งขันที่มีต่อ Facebook แทนที่จะสร้างสิ่งที่แปลกใหม่อย่างแท้จริงตามวิถีทางแบบเก่า ๆ ของ Google

“วิสัยทัศน์ผลิตภัณฑ์ของ Vic เต็มไปด้วยความกลัว” Knutson เขียนอ้างถึง “Vic” Gundotra ผู้บริหาร Google ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการ Google+ ก่อนที่เขาจะออกจาก บริษัท ในปี 2014 ท่ามกลางข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ 

Vic Gundotra อดีตหัวเรือใหญ่ของ Google+
Vic Gundotra อดีตหัวเรือใหญ่ของ Google+

“Google ได้สร้างกราฟขององค์ความรู้และ Facebook ได้สร้างกราฟของเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งหากเราไม่ได้เป็นเจ้าของกราฟเครือข่ายสังคมออนไลน์ เราก็ไม่สามารถอ้างสิทธิ์ที่จะจัดทำดัชนีข้อมูลในโลกนี้ได้ทั้งหมด” เขาเขียนไว้ในทวีตหนึ่งไว้อย่างน่าสนใจ

อย่างไรก็ตามการมองผลิตภัณฑ์ ไม่ได้เป็นปัญหาเดียวกับโครงการที่ทะเยอทะยานของ Google 

Knutson กล่าวในรายละเอียด และอธิบายว่า ทีมต่าง ๆ ที่ทำงานในโครงการไม่ได้ทำงานพร้อมเพรียงกัน ทีมทั้งหมดทำงานในโมดูลแยกต่างหาก โดยไม่มีความรู้ในสิ่งที่เขาอธิบายว่าเป็น “วิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่” “ทุกสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นล้วนไม่มีความต่อเนื่อง มันเป็นการสร้างและคัดลอก มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อเอาชนะ Facebook”

โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิสัยทัศน์เหล่านี้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะแพลตฟอร์มของ Google+ เท่านั้น แต่รวมถึงระบบนิเวศของ Google โดยรวมทั้งหมด เห็นได้ชัดว่าเมื่อ Knutson ออกแบบอินเทอร์เฟซผู้ใช้ทั้งหมดของ Google+ ใหม่ ซึ่งยังอยู่ในช่วงการพัฒนาในเวลานั้นเพื่อรวมแอพอื่น ๆ ของ Google เข้ากับการนำทางในแถบด้านข้าง

แต่เขากลับถูกล้มแนวคิดดังกล่าว โดยผู้บริหารอาวุโส เนื่องจากถูกมองว่ามันไปคล้ายกับส่วนขยายของ Chrome ซึ่ง Google วางแผนที่จะเปิดตัวที่ Google I / O

อีกปัญหาหนึ่งของ Google+ คือข้อเท็จจริงที่ว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมันไม่ได้ถูกพิจารณาโดยระบบนิเวศทั้งหมดของ Google

Knutson อธิบายสิ่งนี้ว่าเป็นความไม่มีความเสมอภาคในการออกแบบในเรื่องประสบการณ์ของลูกค้า “ไม่มีสิ่งใด ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยคำนึงถึงผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในระบบนิเวศของ Google นักออกแบบ UX นั้นไม่ได้สนใจประสบการณ์ของลูกค้าอย่างแท้จริง” เขาเขียน

Google Plus ที่ออกแบบมาโดยไม่คำนึงถึงประสบการณ์ของผู้ใช้
Google Plus ที่ออกแบบมาโดยไม่คำนึงถึงประสบการณ์ของผู้ใช้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Google ได้ปรับปรุงระบบนิเวศทั้งหมดในภายหลัง ซึ่งประกอบไปด้วย Gmail, Google Drive และ G-Suite ในหกปีต่อมา โดยนำความสอดคล้องการออกแบบและเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ๆ ให้กับพวกมัน และประสบความสำเร็จอย่างสูง

นอกเหนือจากความไม่เสมอภาคในการออกแบบและวิสัยทัศน์ สิ่งที่ฆ่า Google+ คือการเมืองภายในบริษัท เมื่อคนทำงานเป็นทีม และมีความพยายามในการเล่นการเมืองระหว่างแต่ละทีม ซึ่งมักจะส่งผลเสียต่อโปรเจ็ค ซึ่งเห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับ Google+ เช่นกัน

Knutson พบกับการเมืองในสำนักงานระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งใน Google ในที่สุดเมื่อเขาได้รับการอนุมัติให้นำทีมสำหรับการออกแบบส่วนต่อประสานผู้ใช้ เขาต้องเผชิญกับการต่อต้านจากนักออกแบบคนอื่น

“Jim” ผู้ซึ่งอยู่ในทีม Google+ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง เมื่อ Knutson พยายามแก้ไขปัญหากับ Jim โดยการสนทนาแบบตัวต่อตัว แต่เขาก็ไม่เคยมาปรากฏตัว เมื่อเขาไปหาหัวหน้าของ Jim คือ Greg แต่ดูเหมือนปัญหามันก็ถูกซ่อนไว้ใต้พรมตามเดิมที่ไม่ได้รับการแก้ไข

แต่ Greg กลับให้ท้าย Jim โดยบอกกับ Knutson ว่าจะให้ Jim เป็นผู้จัดการของเขาหลังจากที่ Project เปิดตัว ” เขายังจำบทสนทนาดังกล่าวได้อย่างดี

สองสามเดือนต่อมา Knutson ก็ได้ออกจาก Google เพื่อเข้าร่วมงานกับ Dropbox

Google อาจจะตัดสินใจยุติโครงการ Google+ ไปแล้ว แต่ชัดเจนว่าข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยเป็นเพียงข้ออ้างที่ Google พยายามแถลงต่อสาธารณะเพื่อไม่ให้พวกเขาเสียหน้าเท่านั้น

Google+ ไม่สามารถบรรลุสิ่งที่ บริษัทคาดหวัง ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ Facebook และตัวเลขผู้ใช้งาน Google+ ที่ลดน้อยลงต่างหาก ที่เป็นสิ่งบังคับให้ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีตัดสินใจยุติโครงการดังกล่าวในท้ายที่สุด

จะเห็นได้ว่า แม้ Google+ ตอนเปิดตัวนั้น จะมีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมด้วย Features ต่าง ๆ มากมาย แต่เราจะได้เห็นถึงความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญครั้งแรกของ Google ไม่ว่าจะมาจากปัญหาการเมืองภายในองค์กร รวมถึงวิสัยทัศน์ที่คิดเพียงแค่จะล้ม Facebook ให้ได้เพียงเท่านั้น

ซึ่งมันเป็นการผิดวิสัยของบริษัทอย่าง Google ที่มักจะสร้างนวัตกรรมต่าง ๆ ออกมาให้เป็นที่ยอมรับ ก็ต้องให้เครดิตกับ Mark Zuckerberg ที่สามารถทำให้ Facebook เอาชนะในศึกครั้งนั้นมาได้ ซึ่งดูเหมือนว่า ในเรื่องของเครือข่ายสังคมออนไลน์นั้น คงไม่มีใครจะเข้าใจมันได้ดีไปกว่า Mark Zuckerberg ที่ทำให้ตอนนี้แพลตฟอร์มของเขาครองใจผู้ใช้งานส่วนใหญ่ทั่วโลกมาจวบจนถึงปัจจุบันได้นั่นเองครับ

References : https://www.the-vital-edge.com/fall-of-google-plus/
https://mashable.com/2015/08/02/google-plus-history/
https://www.indiatoday.in/technology/features/story/former-google-designer-explains-why-google-s-social-media-play-failed-1370662-2018-10-18
http://dansator.blogspot.com/2019/02/rip-google-plus.html