Bionic Eye กับอุปกรณ์เชื่อมต่อสมองโดยตรงเพื่อช่วยเหลือคนตาบอด

Bernardeta Gómez ผู้ซึ่งตาบอดมาเป็นเวลา 16 ปีแล้ว แต่ด้วยการใช้ดวงตาไบโอนิค (Bionic Eye) ที่พัฒนาโดยนักประสาทวิทยาชาวสเปน Eduardo Fernandez เธอก็สามารถมองเห็นได้อีกครั้งโดยไม่ต้องใช้ดวงตาเดิม ๆ ของเธออีกเลย

ระบบซึ่งจะสร้างโดย Fernandez ที่มหาวิทยาลัยของมิเกลเอร์นานเด ซึ่งห้องแล็บของเขาที่ได้สร้าง Bionic Eye ขึ้นมานั้น ประกอบด้วยชิ้นส่วนที่แตกต่างกันไม่กี่ชิ้น ที่มีการแสดงรายละเอียดที่เพิ่งได้รับการตีพิมพ์ ใน MIT Technology Review

อย่างแรก คือ แว่นที่ติดตั้งกล้องที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์จะทำการแปลฟีดวิดีโอสด ๆ ของกล้องให้เป็นสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ สัญญาณเหล่านั้นจะถูกส่งผ่านสายเคเบิลไปยังพอร์ตที่ Fernandez ทำการผ่าตัดฝังไว้ที่ด้านหลังของกะโหลกศีรษะของ Gómez  ซึ่งพอร์ตนั้นเชื่อมต่อกับอวัยวะเทียมในสมองส่วนมองเห็นของ Gómez

ถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาหกเดือนแล้ว ที่ Fernandez ได้รับการอนุมัติให้ทดสอบดดวงตาไบโอนิคกับ Gómez

อย่างไรก็ตามในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา Gómez ได้กลับมาที่แล็บสี่ครั้งต่อสัปดาห์ โดยระบบดวงตาไบโอนิคนั้นสามารถมองเห็นโลกที่มีความละเอียดต่ำที่อยู่รอบตัวเธอ แม้ว่าสิ่งที่เธอเห็นนั้นมีอะไรมากกว่าจุดส่องแสงเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็ยังเพียงพอที่จะทำให้เธอสามารถระบุตัวอักษรและผู้คนได้

โดยเธอยังสามารถเล่นเกมคอมพิวเตอร์ที่คล้ายกับ Pac-Man อย่างง่าย ๆ ที่ส่งตรงไปยังสมองของเธอ 

เมื่อ Fernandez ได้รู้ว่าดวงตาไบโอนิคของเขาสามารถทำงานได้จริง เขากำลังมองไปข้างหน้าเพื่อก้าวต่อไป สิ่งเหล่านี้จะรวมถึงวิธีการทดสอบผลกระทบที่มากขึ้น และทดสอบระบบทั้งหมดกับผู้คนจำนวนมากขึ้น

“ Gómez เป็นผู้ป่วยรายแรกของเรา แต่ในช่วงสองสามปีข้างหน้าเราจะติดตั้งอุปกรณ์นี้ในอีกผู้ป่วยอีก 5 ราย” เขาบอกกับ MIT Tech Review  “ เราทำการทดลองที่คล้ายคลึงกันในสัตว์ แต่ปัญหาคือ แมวหรือลิงไม่สามารถอธิบายสิ่งที่เห็นได้เหมือนกับการทดลองในมนุษย์”

Fernandez ไม่ใช่นักวิจัยเพียงคนเดียวที่พัฒนาดวงตาไบโอนิคที่สามารถคืนการมองเห็นให้กับผู้ป่วยได้ และวิธีการใหม่นี้อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนคนตาบอดมากขึ้นในอนาคต ให้พวกเขามีความหวังในการกลับมามองเห็นอีกครั้ง

“ ก่อนหน้านี้ความพยายามทั้งหมดในการสร้าง ‘ดวงตาไบโอนิค’ จะมุ่งเน้นไปที่การฝังเข้าไปในดวงตา” Alex Shortt ศัลยแพทย์ที่โรงพยาบาลจักษุ Optegra บอกกับ The Daily Mail ในเดือนกรกฎาคม ปี 2019 โดยการทำงานของ ดวงตาไบโอนิคของเขานั้น จะมีระบบที่ทำงานคล้ายกับของ Fernandez  เพราะสุดท้ายความผลลัพธ์ที่สูงสุดของการวิจัยเหล่านี้คือ ต้องการให้ผู้ป่วยมีดวงตาที่ทำงานได้ , ประสาทตาที่ใช้งานได้ และเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยตาบอด คนอื่น ๆ อีกมากมาย ในอนาคตด้วยเทคโนโลยีนี้นั่นเอง”

ความคิดเห็นเพิ่มเติมจากผู้เขียน

เราได้เห็นเทคโนโลยี ที่มีการเชื่อมต่อสมองเข้ากับคอมพิวเตอร์ (Brain Machine Interface) ที่มีการวิจัยเรื่องราวเหล่านี้เป็นจำนวนมากในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงโครงการ NeuralLink ของ Elon Musk ด้วยเช่นกัน

เช่นเดียวกับเทคโนโลยี Brain Machine Interface เทคโนโยโลยีอย่าง Bionic Eye นั้นก็ใช้รูปแบบคล้าย ๆ กัน คือทำการเชื่อมต่อข้ามไปยังสมองโดยตรง ให้ผู่ป่วยตาบอดสามารถรับรู้ และมองเห็นได้เหมือนคนปรกติ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ดวงตาแบบเดิม ๆ อีกต่อไป

ซึ่งผมก็เชื่อว่า เราจะเห็นเทคโนโลยีเหล่านี้ ที่กำลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีปัญหากับอวัยวะต่าง ๆ ของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นดวงตา แขนขา ที่พิการ หรือ อื่น ๆ ได้อีกมากมายในอนาคตอย่างแน่นอนครับ

References : https://www.technologyreview.com/s/615148/a-new-implant-for-blind-people-jacks-directly-into-the-brain/ https://medicalfuturist.com/future-of-vision-and-eye-care/

Bionic Eyes กับอนาคตในการมองเห็นภาพแบบ Infrared

นักวิจัยจาก บริษัท  Second  Sight Medical  ได้สร้างระบบดวงตาไบโอนิครูปแบบใหม่ที่ส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังสมองของผู้สวมใส่ผ่านการใส่อุปกรณ์ทำให้คนตาบอดสามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง

และแน่นอนว่าเทคโนโลยีดังกล่าวในอนาคตวันหนึ่งอาจไม่เพียงแค่ช่วยให้คนตาบอดในการมองเห็นเท่านั้น แต่มันยังสามารถทำให้ผู้สวมใส่สามารถที่จะเห็นคลื่นอินฟราเรดได้เช่นเดียวกัน ตามรายงานของ Engadget

ระบบ Orion Visual Cortical Prosthesis ที่ถูกสร้างขึ้นโดย Second Sight ประกอบด้วยกล้องขนาดเล็กที่ติดอยู่กับแว่น กล้องจะทำการแปลงสิ่งที่จับภาพได้ให้กลายเป็นสัญญาณไฟฟ้าจากนั้นจะถูกส่งไปยังสมองของผู้สวมใส่เพื่อสร้างภาพขึ้นมา

ซึ่งเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีรูปแบบเก่า ๆ อย่างการปลูกถ่ายสมองนั้นจะต้องมีการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล พร้อมทั้งเวลาในการพักฟื้นร่างกาย ซึ่งเมื่อทำสำเร็จนั้นผู้ที่ถูกปลูกถ่ายจะสามารถกระตุ้นเยื่อหุ้มสมองในส่วนของภาพของผู้สวมใส่ เพื่อสร้างแผนที่และ ซึ่งจะช่วยให้ผู้สวมใส่ สามารถมองเห็นภาพได้ แต่มันเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงมาก ๆ เมื่อเทียบกับอุปการณ์แบบสวมใส่ของ Second Sight Medical

นักวิจัยกำลังคิดล่วงหน้าว่าจะทำการเพิ่มความสามารถในการแปลงสิ่งที่จับภาพได้ให้กลายเป็นสัญญาณความร้อนแบบ Infrared เหมือนความสามารถของ “Predator” ในหนัง Hollywood นั่นเอง

“ซึ่งแน่นอนว่ามันจะดีสำหรับผู้ป่วยหรือผู้ที่สวมใส่ หากเพิ่มความสามารถในการสลับโหมดไปเป็นสัญญาณความร้อนแบบ Infrared ได้” CEO ของ  Second Sight  (Will McGuire) บอกกับสำนักข่าว Engadget

“และแน่นอนว่าจะทำให้พวกเขาสามารถระบุตำแหน่งผู้คนที่อยู่ในห้องมืดในเวลากลางคืนได้ง่ายขึ้นนั่นเอง” เขากล่าวเสริม “ ซึ่งอาจจะนำไปใช้ในการระบุส่วนที่ร้อน ๆ  ของเตา หรือถ้วยกาแฟก็เป็นไปได้เช่นกัน”

References : 
https://www.engadget.com