MLM or แชร์ลูกโซ่ กับจริตของคนไทย

นั่งดูข่าวการทลายแก๊งแชร์ลูกโซ่ที่มีเครือข่ายขนาดใหญ่ทั่วไทยอย่าง Ufun แล้วก็อดแปลกใจไม่ได้กับการเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเครือข่ายแบบนี้ ซึ่งมีมาในหลายรูปแบบมาก ๆ ในช่วงหลัง ๆ จึงอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเครือข่ายเหล่านี้ถึงไม่หมดไปจากสังคมไทยเสียที

จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ แชร์แม่ชม้อย ชื่อดังในอดีต ที่ได้สร้างความเสียหายกับคนไทยเป็นจำนวนมากแล้วนั้น คนไทยก็ไม่เข็ดกับเรื่องเหล่านี้เสียที กับรูปแบบการจูงใจในการหาเงินง่าย ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานที่ผิดหลักการทางเศรษฐศาสตร์ ซึ่งก็มักจะหลงเชื่อไปกับคำชักจูงที่สวยหรู และการที่นิสัยมนุษย์ทั่วไปนั้นความขี้เกียจถือเป็นพื้นฐานทางจิตใจที่สำคัญของมนุษย์ทุกคนอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะถูกชักจูงให้ทำงานที่ได้เงินง่ายๆ  โดยไม่คำนึงถึงจริยธรรมในการหาเงิน

ซึ่งรูปแบบของ MLM หรือแชร์ลูกโซ่ ก็จะมีหลายรูปแบบ ซึ่งมีหลักการทำงานที่แทบไม่ต่างกันคือหลักของ Binary Compensations Plan ซึ่งก็คือการเติบโตแบบ exponential ซึ่งเป็นตัวเลข magic ของแทบจะทุก  ๆ MLM แต่อยู่ที่จริยธรรมของบริษัทแต่ละบริษัทจะต่างกันมากขนาดไหน ซึ่งข่าวล่าสุดของ Ufun นั้นแทบจะไม่มีส่วนของ Product อยู่เลย เป็นการใช้ money game แบบเงินต่อเงินล้วน ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้โดนตามจับอย่างรวดเร็วแตกต่างจาก เครือข่าย MLM อื่นๆ  ในไทย ที่มักจะมี key product ที่มีราคาแพง และใช้หลักการของ Binary Compensations Plan เพื่อสร้าง network ให้แข็งแกร่ง แต่โดยพื้นฐานแล้วนั้นแทบจะทุก  MLM ในไทย ก็จะประสบกับปัญหาในตอนหลังแทบจะทุกบริษัท เมื่อเครือข่ายกระจายไปเป็นจำนวนมากแล้วนั้น ก็ไม่สามารถหาเครือข่ายมาต่อยอดอีกได้

ซึ่งวิธีการที่แต่ละบริษัททำนั้นอาจจะต่างกันเมื่อ เครือข่ายถึงทางตันไม่สามารถต่อยอดรากแก้วของเครือข่ายลงไปได้อีก ทำให้แรงจูงใจในการหาคนนั้นมีน้อยลง ซึ่งเป็นที่มาของรายได้จำนวนมากของบริษัท หลายบริษัทใช้รูปแบบการเปลี่ยนการเรียกชื่อเครือข่าย เพื่อให้คนสับสน ว่าเป็นธุรกิจใหม่ เพราะถ้าเป็นชื่อเดิมนั้นคนก็แทบจะไม่สนใจจะทำแล้ว  และอีกหลายเครือข่ายก็จะโดนแย่งสายงานของตัวเองออกไปแล้วไปอยู่ในบริษัทใหม่ ซึ่งถ้าเราได้ติดตามข่าวนั้นก็จะพบว่าระดับ head ของพวกเครือข่าย network MLM นั้นจะมีอยู่เพียงไม่กี่คน แต่จะย้ายไปอยู่บริษัทต่าง ๆ เรื่อย ๆ เมื่อถึงทางตันนั่นเอง หรือไม่ก็ออกไปก่อตั้งเครือข่ายบริษัทตัวเองใหม่

ซึ่งการสร้างระบบเครือข่ายนั้น แทบจะทุกบริษัทก็จะมี pattern การสร้างเครือข่ายแทบจะเหมือนๆ กัน ต่างกันแค่รายละเอียดปลีกย่อยหรือการเรียกชื่อเครือข่าย แต่อยู่บนพื้นฐานของ Binary Compenstations Plan ทั้งหมด คือ หา product ที่เป็น key product ในต้นทุนราคาที่ไม่แพง และมาขายสินค้าให้กับเครือข่ายในราคาแพงกว่าปรกติ ซึ่งความจริงนั้นตามหลักควรจะเป็นสินค้าที่ราคาถูกกว่าปรกติ เพราะได้ตัดงบการโฆษณาผลิตภัณฑ์ออกไปเป็นการขายตรงเท่านั้น และอ้างถึงสรรพคุณต่างๆ  นา ๆ ที่เว่อร์เกินจริง และ สิ่งหลักที่เครือข่ายจะใช้ในการจูงใจคือแผนการหาคนเป็นหลัก ไม่ใช่เน้นไปที่ product เป็นหลักจะเห็นได้ว่าผิดหลักการพื้นฐานของระบบเศรษฐศาสตร์ หรือหลักการทำธุรกิจ และความจริงนั้นบริษัทเหล่านี้ก็ไม่ได้ต่างจากการทำรูปแบบของแชร์ลูกโซ่ แต่เป็นการทำแชร์ลูกโซ่แบบถูกกฏหมายแค่นั้นเอง โดยมีหน่วยงานรัฐรองรับว่าถูกกฏหมายให้อีกต่างหาก ซึ่งเนื่องจากรายได้มหาศาลเหล่านี้นั้นก็ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลเลยก็เลือกที่จะละเลยและทำการตรวจสอบ จนเครือข่ายเหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อพบความเสียหายอย่างกรณีตัวอย่าง Ufun นี่ก็ใช้เวลาเพียงปีนิด ๆ ก็เติบโตจนมีจำนวน account กว่า แสนรายและ ยอดรวมความเสียหายกว่า 20,000 ล้านบาทไปแล้ว

แต่ก็ต้องยอมรับว่าใครที่ได้เข้าไปอยู่ในวังวนเหล่านี้ ก็จะตกอยู่ในสภาพเดียวกันก็คือ เหมือนอยู่ในลัทธิ ที่จะมี pattern แทบจะเหมือนกันในทุก ๆ คน ญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงก็จะถูกต้อนเข้าไปฟังและพยายามชักจูงโน้มน้าวให้เข้าร่วม ซึ่งตรงนี้หลายคนก็ได้เสียเพื่อนฝูง หรือ ญาติพี่น้องไปก็เป็นได้หากเขาไม่ได้สนใจในเครือข่ายเหล่านั้น และ ถูกตามตื้ออยู่ตลอดเวลา ซึ่งผมก็เคยมีประสบการณ์เหล่านี้เช่นกัน เราก็ต้องพยายามเลี่ยง ๆ ที่จะพบหากรู้ว่าเพื่อนหรือญาติคนใดนั้นเข้าสู่เครือข่ายเหล่านี้ ซึ่งจากประสบการณ์ตรงนั้น ยังไม่เคยเห็นเพื่อนหรือญาติคนใดประสบความสำเร็จจากการทำงานกับเครือข่ายเหล่านี้แม้แต่รายเดียว บางคนนั้น เหมือนจะร่ำรวยในตอนแรก ๆ แต่ก็จะประสบปัญหาเช่นเดียวกันในตอนหลัง เนื่องจากเครือข่ายถึงทางตัน ซึ่งมันไม่ได้เป็นไปตามที่ทางเครือข่ายเหล่านี้โฆษณาว่าจะสามารถเกษียณตัวเองได้แม้แต่รายเดียว

สรุปเรื่องนี้ก็น่าจะไม่ได้ทำให้คนไทยเข็ดกับเรื่องแบบนี้ แต่ก็จะเกิดลักษณะใหม่ๆ  ของการทำแชร์ลูกโซ่ออกมาอีก ซึ่งก็น่าจะพัฒนาวิธีการเพิ่มขึ้นเพื่อให้เส้นแบ่งระหว่าง แชร์ลูกโซ่กับMLM นั้นน้อยลงไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายในที่สุด เราอาจจะได้เห็นพัฒนาการของเครือข่ายเหล่านี้ กลายเป็นแชร์ลูกโซ่แบบถูกกฏหมายจริง ๆ ก็ได้ หากเรายังไม่มาปฏิรูปหรือจัดการแบบเด็ดขาดกับรูปแบบธุรกิจเหล่านี้ หรืออาจจะมีการออกกฏหมายที่เด็ดขาดเพื่อจัดการกับเครือข่ายเหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต