Geek Daily EP36 : Artificial Skin กับเทคโนโลยีผิวหนังอัจฉริยะที่รับรู้ความรู้สึกได้เหมือนผิวหนังมนุษย์

นักวิจัยได้พัฒนาผิวหนังเทียมแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตอบสนองต่อความเจ็บปวดได้เช่นเดียวกับผิวหนังจริงของมนุษย์ ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะเปิดทางไปสู่อวัยวะ แขน ขา เทียมที่ดีขึ้น และก้าวไปถึงการพัฒนาหุ่นยนต์ที่ชาญฉลาดขึ้น

อุปกรณ์ดังกล่าวจะเลียนแบบการตอบสนองตอบกลับของร่างกายในทันทีและสามารถตอบสนองต่อความรู้สึกเจ็บปวดด้วยความเร็วแสงเช่นเดียวกับที่สัญญาณประสาทเดินทางไปยังสมองของมนุษย์

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3bQN21X

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
http://bit.ly/2kxHtQ3

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/3ird7Hy

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/tHi515Zkrsk

References : https://techxplore.com/news/2020-09-electronic-skin-react-pain-human.html

Geek Monday EP44 : China’s AI Awakening การเติบโตอย่างเฟื่องฟูของ AI ในประเทศจีน

ขณะที่กระแสของเทคโนโลยีทางด้าน AI ซึ่งกำลังมีบทบาทอยู่ในทั่วโลกนั้น จีนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ  กำลังดำเนินการในการสร้างและพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ทางรัฐบาลของจีนได้ทำการเทเงินกว่า หนึ่งแสนล้านหยวน หรือ ประมาณ หนึ่งหมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในเทคโนโลยีดังกล่าว

ขณะที่ภาคเอกชนของจีน ก็ทำการลงทุนขนาดใหญ่กับ AI เทคโนโลยีของอนาคต ซึ่งถ้าหากความพยายามดังกล่าวของจีนประสบความสำเร็จนั้น และขณะนี้ก็มีสัญญาณหลายอย่างที่ปรากฏว่าจีน จะกลายเป็นผู้นำด้าน AI ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งก็จะทำให้สามารถเพิ่ม productivity ของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของจีน

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน Podbean : https://bit.ly/2ReIg5r

ฟังผ่าน Apple Podcast :https://apple.co/2lEqPPg

ฟังผ่าน Google Podcast :  https://bit.ly/2UK66rP

ฟังผ่าน Spotify : https://spoti.fi/3bYye0p 

ฟังผ่าน Youtube https://youtu.be/UZhlEkwgyCI

References Images : https://www.digitalcrew.com.au/blogs-and-insights/chinas-artificial-intelligence-dominance/

โคลนนิ่งความทรงจำกับการทำให้สัตว์เลี้ยงอยู่กับคุณตลอดกาล

Garlic เป็นลูกแมวขนปุยที่มีจมูกสีชมพูและหูสีเทาขนาดเล็ก มันดูเหมือนกับแมวที่ถูกโคลนนิ่ง  “แมวของฉันเสียชีวิตจากโรคระบบทางเดินปัสสาวะ” เจ้าของ Garlic Huang Yu บอกกับ Globaltimes “ ฉันตัดสินใจที่จะโคลนนิ่งมันเพราะมันมีความพิเศษและน่าจดจำมากสำหรับตัวฉัน”

แต่ในขณะที่ Garlic มีคุณสมบัติทางชีวภาพเหมือนกับบรรพบุรุษของมัน  แต่มันไม่ใช่แมวตัวเดียวกัน โดยมันมีบุคลิกภาพของตัวเองและตอนนี้มันกำลังสร้างความทรงจำของตัวเอง

ตอนนี้ บริษัท เทคโนโลยีชีวภาพ Sinogene ของจีนได้เปิดตัวแมวโคลนนิ่งตัวแรกของประเทศ โดยที่ได้กล่าวว่าในอนาคตบริษัทจะใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการถ่ายโอนความทรงจำจากสัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รักของคุณไปยังตัวที่ถูกโคลนนิ่ง

ผู้จัดการทั่วไปของ Sinogene บอกกับผู้เข้าร่วมประชุมในงานแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า“ เพื่อให้สัตว์เลี้ยงโคลนนิ่งเหล่านี้สามารถถ่ายทอดความทรงจำเดียวกันกับตัวต้นแบบของมันได้

ซึ่ง บริษัท กำลังพิจารณาใช้ปัญญาประดิษฐ์หรือเทคโนโลยี man-machine interface เพื่อทำการจัดเก็บหรือส่งผ่านความทรงจำไปยัง สัตว์ที่ถูกโคลนนิ่ง” จากรายงานของ สำนักข่าว Global Times ของประเทศจีน 

โดย Sinogene กำลังมองหาตลาดที่แน่นอนว่าเหล่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่แสนรักของเขาล้วนมีความผูกพันและเมื่อตัวหนึ่งต้องตายไปไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม พวกเขาก็มีความต้องการสัตว์เลี้ยงที่เหมือนกันทั้งร่างกายและวิญญาณ ซึ่งเปรียบเสมือนสัตว์ตัวเดียวกันนั่นเอง

นักวิทยาศาสตร์อ้างว่าสัตว์โคลนนิ่งเหล่านี้จะไม่แข็งแรงเท่า และยังมีอายุขัยที่สั้นกว่าสัตว์ที่เกิดตามธรรมชาติ ในขณะที่นักเคลื่อนไหวสัตว์บางคนแย้งว่าการโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยงนั้นผิดจรรยาบรรณเนื่องจากยังมีจำนวนสัตว์จรจัดอีกจำนวนมากที่ต้องการบ้านอยู่

แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ได้ทำให้  Barbra Streisand , Simon Cowell และคนที่ไม่ใช่คนดังมากมายที่ต้องเสียเงินหลายพันดอลลาร์เพื่อให้สัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รักของพวกเขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง

ในขณะเดียวกันเจ้า Garlic ที่มีอายุเพียงหนึ่งเดือนและ Sinogene กล่าวว่า มีเจ้าของสัตว์เลี้ยงอีกเป็นจำนวนมาก ที่พร้อมจ่ายเงินประมาณ 250,000 หยวน (35,400 ดอลลาร์) เพื่อให้แมวของตัวเองถูกโคลน

และหาก บริษัท สามารถหาวิธีที่จะเลียนแบบความทรงจำของสัตว์เลี้ยงได้ ก็ไม่มีใครบอกได้ว่าสัตว์จำนวนมากจะถูกทิ้งไว้ในที่พักพิง ในขณะที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่รู้สึกเศร้าใจจากการสูญเสียก็ได้หันไปหาหนทางทางวิทยาศาสตร์เพื่อช่วยให้พวกเขาได้อยู่กับสัตว์เลี้ยงแสนรักของพวกเขาไปตลอดกาลได้นั่นเองครับ

References : 
http://www.globaltimes.cn

Facebook แอบดักฟังการสนทนาของเราจริงหรือไม่?

หลายคนอาจจะสงสัยว่า Facebook นั้นได้ทำการดักฟังบทสนทนาของผู้ใช้ ที่เป็นความลับจริงหรือไม่ หลังจากที่่บางครั้งเราแค่พูดแต่กลับมาโฆษณาในสิ่งที่เราพูดโผล่มาในหน้า Feed อย่างรวดเร็ว

ซึ่งล่าสุดได้มีรายงานข่าวจากสำนักข่าวใหญ่อย่าง Bloomberg ว่า สื่อโซเชียลยักษ์ใหญ่แห่งนี้แอบบันทึกการสนทนาผ่านไมโครโฟนในโทรศัพท์ของผู้ใช้งาน

นั่นเป็นไปตามบริษัท Sub-Contract ของ Facebook ที่ได้มีการพูดคุยกับ  Bloomberg เกี่ยวกับการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายจาก Facebook  ซึ่งทางบริษัทได้กล่าวว่าพวกเขาได้รับเงินเพื่อฟังบทสนทนาที่หยาบคายเป็นครั้งคราวในหมู่ผู้ใช้งาน Facebook Messenger

แม้ว่าบริษัทจะไม่เคยอธิบายให้พวกเขาฟังว่าทำไมมันถึงต้องมีการถอดข้อความเสียงจาก Facebook  ซึ่งทาง Facebook ได้กล่าวกับ Bloomberg ว่าการแอบบันทึกเสียงเหล่านี้ เป็นการทำเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของเทคโนโลยี speech-recognition artificial intelligence ของทาง Facebook เอง ซึ่งถือเป็นการยอมรับอย่างหนักใจว่า บริษัทได้ละเมิด ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเป็นประจำ

Facebook บอกกับ Bloomberg ว่าจะหยุดโครงการลับเหล่านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ในการพิจารณาคดีต่าง ๆ นานาในสภาคองเกรส CEO Mark Zuckerberg ยืนยันว่า Facebook เข้าถึงไมโครโฟนของผู้คนเมื่อได้รับอนุญาตจากผู้ใช้งานเท่านั้น เพื่อคุณสมบัติในบาง Features  เช่น การส่งข้อความเสียงเป็นต้น โดยตัว Zuckerberg ไม่เคยเปิดเผยว่า Facebook ได้ส่งข้อมูลเสียงเหล่านี้ไปยังบริษัท Sub-Contract ที่เป็นบริษัท third party แต่อย่าใด

ซึ่งชัดเจนว่ามันเป็นความแตกต่างกับข้อมูลที่ได้เปิดเผยจากทาง Facebook เอง ซึ่งสำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานว่า Facebook ไม่ได้กล่าวถึงการบันทึกเสียงของผู้ใช้งาน ในนโยบายการใช้ข้อมูลที่เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องยอมรับก่อนเข้าใช้งาน Facebook แต่อย่างใด

References : 
https://www.bloomberg.com

Startup จีนสร้าง AI ตามหาสุนัขที่หายไปด้วยภาพของจมูก

Megvii เป็น Startup ด้าน AI ของจีนที่สร้างซอฟต์แวร์จดจำใบหน้าสำหรับโปรแกรมการเฝ้าระวังของรัฐบาลจีน กำลังขยายเทคโนโลยีให้มากกว่าที่จะใช้ในมนุษย์เพียงเดียว โดยมีการสร้างระบบเพื่อจดจำใบหน้าสัตว์เลี้ยงที่แตกต่างกัน 

ตามรายงานของ Abacus News โปรแกรมใหม่ของ Megvii ได้รับการฝึกฝนให้รู้จักสุนัขด้วยการรูปแบบของจมูก ซึ่งเป็นการเลียนแบบการระบุตัวตน เหมือนกับที่มนุษย์ใช้ลายนิ้วมือในการระบุตัวตนแต่ละบุคคลได้นั่นเอง

การใช้แอพ Megvii นั้น ทางบริษัท บอกว่าสามารถลงทะเบียนสุนัขของคุณได้ง่ายๆเพียงสแกนจมูกด้วยกล้องในโทรศัพท์ของคุณ เช่นเดียว กับที่โทรศัพท์ลงได้สร้างระบบจดจำลายนิ้วมือของคุณเพื่อปลดล็อคนั่นเอง ซึ่งแอพจะขอให้คุณถ่ายรูปจมูกสุนัขของคุณจากหลายมุม

โดยทาง Megvii กล่าวว่ามันมีอัตราความแม่นยำในการระบุตัวสุนัขได้สูงถึง 95 เปอร์เซ็นต์และตอนนี้ได้รวมตัวฐานข้อมูลสัตว์เลี้ยงจำนวนกว่า 15,000 ตัว ผ่านแอพดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

การจดจำใบหน้าสำหรับสัตว์เลี้ยงเริ่มแพร่หลายมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวคิดที่ได้รับการใช้งานโดยนักวิจัยเพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่า ในสหรัฐอเมริกา แอปที่ชื่อว่า Finding Rover ก็ได้ใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าเพื่อค้นหาแมวและสุนัขที่ถูกรายงานว่าหายไปเช่นเดียวกัน

แต่ในประเทศจีน Megvii กล่าวว่าแอปนี้จะใช้งานได้มากกว่าแค่ใช้ในการค้นหาสัตว์เลี้ยงที่หายไป ด้วยความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับรัฐบาล ทางบริษัทได้กล่าวว่าแอพนี้สามารถใช้ในการตรวจสอบ “การดูแลสุนัขที่ไม่ดี” สำหรับเหล่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ ไม่มีจิตสำนึกในสาธารณะ ซึ่งอาจจะเป็นการปล่อยให้สัตว์เลี้ยงไปถ่ายเรี่ยราดตามที่สาธารณะได้นั่นเอง

References : 
https://www.theverge.com