Geek Story EP20 : Masayoshi Son สุดยอดนักลงทุนอัจฉริยะแห่งวงการเทคโนโลยี

ต้องบอกว่าประวัติที่ผ่านมาของ Masayoshi Son นั้น ถือเป็นนักลงทุนที่น่าทึ่ง แม้เขาจะผิดพลาดในการลงทุนกับ WeWork หรือ Uber

แต่คำ ๆ หนึ่ง นั่นก็คือ คำว่า “Believe” ที่เขามักพูดออกสื่ออยู่บ่อย ๆ นั้น สิ่งที่เขาพูดมักจะกลายเป็นความจริงในทุก ๆ ครั้ง ด้วยความเชื่อ และประสบการณ์ของเขานั้น แม้จะมีความผิดพลาดบ้าง

แต่ความเชื่อของเขาโดยส่วนใหญ่นั้นสามารถทำนายอนาคตของเราได้ว่า เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในด้านไหน ที่จะมีบทบาทที่สำคัญอย่างมาก กับการดำรงชีวิตของมนุษย์ในอนาคตนั่นเองครับ

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/2FSHJmQ

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/31v9Fpp

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/2Ejh3vl

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/x4fojSAwPpk

ใคร ๆ ก็ไม่รัก ARM ก็เอาด้วย ประกาศหยุดทำธุรกิจกับ Huawei

ARM ผู้ออกแบบชิปในสหราชอาณาจักรได้บอกพนักงานว่าต้องระงับธุรกิจกับหัวเว่ยตามเอกสารภายในที่ได้รับจาก BBC โดยบริษัท ARM สั่งให้พนักงานหยุด “สัญญาที่ใช้งานอยู่ทั้งหมดรวมถึงการสนับสนุนและการนัดหมายใด ๆ ที่ค้างอยู่” กับ Huawei และ บริษัทในเครือเพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งการระงับการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯในช่วงที่ผ่านมา

การออกแบบของ ARM เป็นพื้นฐานของโปรเซสเซอร์อุปกรณ์พกพาส่วนใหญ่ทั่วโลก

ในบันทึกย่อของ บริษัท กล่าวว่าการออกแบบมี “เทคโนโลยีที่ถูกผลิตขึ้นในสหรัฐฯ” ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่ามันได้รับผลกระทบจากการขึ้นบัญชีดำของประธานาธิบดี ทรัมป์

ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้มันจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสามารถของ บริษัท ในการพัฒนาชิปของตัวเองซึ่งส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีพื้นฐานของ ARM ซึ่ง Huawei ได้จ่ายค่าใบอนุญาตในเทคโนโลยีต่าง ๆ เหล่านี้จาก ARM

ARM เป็นหัวใจของอุปกรณ์มือถือแทบจะทุกแบรนด์
ARM เป็นหัวใจของอุปกรณ์มือถือแทบจะทุกแบรนด์

สำนักงานใหญ่ของ ARM ในเคมบริดจ์ได้อธิบายว่า ARM นั้นเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักรจนกระทั่งถูกยึดครอง Softbank ของ ญี่ปุ่น โดยมีพนักงาน 6,000 คน และมีสำนักงานในสหรัฐอยู่ 8 แห่ง

ในแถลงการณ์กล่าวว่า “มันเป็นการปฏิบัติตามกฎระเบียบล่าสุดที่กำหนดโดยรัฐบาลสหรัฐฯ” แต่ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม

หัวเว่ยได้ออกแถลงการณ์สั้น ๆ ว่า

“ เราให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับคู่ค้าของเรา แต่รับรู้ถึงแรงกดดันบางอย่างที่อยู่ภายใต้ผลของการตัดสินใจทางการเมืองที่มีแรงจูงใจให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว” 

“เรามั่นใจว่าสถานการณ์ที่น่าเศร้านี้สามารถแก้ไขได้และเรายังคงดำเนินการต่อไปเพื่อส่งมอบเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ระดับโลกให้กับลูกค้าของเราที่มีอยู่ทั่วโลก”

หัวเว่ยปัจจุบันจัดหาชิปบางส่วนจาก HiSilicon ซึ่ง หัวเว่ยนั้นเป็นเจ้าของ อย่างไรก็ตามชิปของ HiSilicon นั้นก็ถูกสร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีพื้นฐานที่สร้างโดย ARM

ต้องใช้ชิปบางส่วนจาก HiSilicon
ต้องใช้ชิปบางส่วนจาก HiSilicon

ในขณะที่ HiSilicon และ Huawei มีอิสระที่จะดำเนินการใช้และผลิตชิปที่มีอยู่เดิม การห้ามใช้หมายความว่า บริษัท จะไม่สามารถหันไปใช้ ARM และการขอความช่วยเหลือในการพัฒนาส่วนประกอบสำหรับอุปกรณ์ในอนาคต

หน่วยประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง Kirin 985 ของ HiSilicon จะถูกใช้ในอุปกรณ์ Huawei ในปลายปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามกระบวนการที่ใช้ในการผลิตซ้ำครั้งต่อไปของชิปนั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งมีแนวโน้มว่าทางหัวเว่ยจะต้องสร้างขึ้นมาใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น แหล่งข่าวกล่าว

Huawei ยังใช้การออกแบบ ARM สำหรับชิป Kunpeng ที่เพิ่งเปิดตัว โดยจะใช้พลังงานเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ TaiShan ของตน ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้ระบบ Cloud ในการจัดเก็บข้อมูลให้กับลูกค้า

ความสัมพันธ์ระหว่าง ARM และวิศวกรของ Huawei นั้นยังมีความเหนียวแน่น – เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Huawei ได้ประกาศความตั้งใจที่จะสร้างศูนย์วิจัยแห่งใหม่ ที่อยู่ห่างเพียง 15 นาทีจากสำนักงานใหญ่ของ ARM ในเคมบริดจ์สหราชอาณาจักร

“ARM เป็นรากฐานของการออกแบบชิปสมาร์ทโฟนของ Huawei ดังนั้นนี่จึงเป็นอุปสรรคสำหรับ Huawei ที่ยากที่จะก้าวผ่านไปได้ มันหนักกว่ากรณีของ Google” Geoff Blaber จาก CCS Insight กล่าว

สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนคือ การออกนโยบายใหม่ของ ARM ในครั้งนี้นั้น พวกเขาคิดตีความด้วยตัวเอง หรือ ถูกบีบบังคับจากรัฐบาลสหรัฐหรือไม่

“หากการตีความนั้นถูกต้อง ก็จะส่งผลกระทบต่อทุก บริษัท เซมิคอนดักเตอร์ในโลกทันที” Lee Ratliff นักวิเคราะห์จาก IHS Markit กล่าว

“พวกเขาจะไม่สามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายอย่างแน่นอน ด้วยการที่ต้องออกแบบภายในใหม่ทั้งหมด – เพราะตอนนี้อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศจีนกำลังตั้งไข่เท่านั้น”

Masayoshi Son นักลงทุนอัจฉริยะผู้ครอบครอง ARM

ข่าวใหญ่ที่สุดของวันคงจะหนีไม่พ้นเรื่องการยกเลิกธุรกิจของ ARM ยักษ์ใหญ่ทางด้านชิปของโลก ที่มีต่อ Huawei เรียกได้ว่าตอนนี้ สถานการณ์หัวเว่ย นั้นหนักหนาสาหัสพอสมควรที่เรียกได้ว่าโดนโจมตีจากรอบด้านเลยก็ว่าได้

การแบนของ Google นั้นต้องบอกว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเลยเมื่อเทียบกับการแบนโดย ARM เนื่องจากเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนและเทคโนโลยีหลักของชิป ในมือถือเกือบจะแทบทั้งโลกเลยด้วยซ้ำ เรียกได้ว่า มือถือค่ายไหน  ๆ ก็ต้องพึ่งพาชิปของ ARM แทบจะทั้งสิ้น

และแน่นอนว่าเจ้าของ ARM ตัวจริงอย่าง Softbank ซึ่งผู้ก่อตั้งคือ Masayoshi Son นักลงทุนระดับอัจฉริยะ ที่ลงทุนในบริษัทที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตในอนาคตมากมาย คือคนที่มีบทบาทค่อนข้างสำคัญ ในการตัดสินใจเรื่องการยกเลิกธุรกิจกับ Huawei ครั้งแน่อย่างแน่นอน

ซึ่ง Masayoshi son นั้นประวัติเขาค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว เมื่อตอนสมัยเรียนที่อเมริกา ที่ uc berkeley นั้น เนื่องจากฐานะทางบ้านที่ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร รวมถึงการที่ เขา มีเชื้อสายของเกาหลีอยู่ ทำให้ ใช้ชีวิตอยากในสังคม ที่เคร่งครัด และ ค่อนข้างชาตินิยม อย่าง ญี่ปุ่น  เขาจึงต้องการหาเงินให้เร็วที่สุด และใช้เวลาน้อยที่สุด

เขาได้บอกกับเพื่อนใน class สมัยเรียนวิทยาลัย ว่า ต้องทำอย่างไรถึงจะหาเงินได้ 1000 เหรียญต่อเดือน โดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีต่อวัน ซึ่งเพื่อนร่วม class ก็หาว่าเขาบ้าอย่างแน่นอน แต่ด้วยตอนนั้นเทคโนโลยีทางด้าน computer กำลังเริ่มบูม ทำให้เขาสามารถหาเงินได้กว่า 3 ล้านเหรียญ ภายในเวลาไม่กี่ปีในช่วงมหาวิทยาลัย โดยได้มาจากการสร้าง dictionnary รวมถึงการสร้างเกมส์ และขายให้บริษัทยักษ์ใหญ่ ทำให้เขามีเงินเริ่มต้นในการมาลงทุนทำ softbank ที่ญี่ปุ่น หลังจากเรียนจบ

เขาเริ่มต้นธุรกิจที่ญี่ปุ่นด้วยการทำการรวมรวบ software และขายให้บริษัทจำหน่าย hardware ซึ่งตอนนั้น คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล กำลังเริ่มบูม ทำให้เขาสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ จากการทำ ธุรกิจ software ซึ่งเป็นที่มาของ เครือบริษัทใหญ่อย่าง softbank ในปัจจุบัน

เริ่มจากธุรกิจ software จนกลายมาเป็นยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม ของญี่ปุ่นในปัจจุบัน

เริ่มจากธุรกิจ software จนกลายมาเป็นยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม ของญี่ปุ่นในปัจจุบัน

Masayoshi son นั้นผ่านการลงทุนมามายมายตั้งแต่ช่วง dot com boom เมื่อปี 2000  จนสามารถกลายเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกแซงหน้า bill gate ได้ แต่ก็เพียงไม่นาน ชีวิตก็ต้องเปลี่ยนผัน เนื่องจากภาวะ dot com crash ในปี 2000 ทำให้เงินของเขาหายไปกว่า 99% แต่ด้วยความเชื่อของเขาว่า สุดท้าย บริษัทเทคโนโลยีก็จะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง

เนื่องจากการเติบโตของผู้ใช้ internet รวมถึง การพัฒนาการของเทคโนโลยีที่มีอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาสามารถกลับมายืนบนเส้นทางนักลงทุนทางด้านเทคโนโลยีได้อีกครั้ง

ที่น่าสนใจคือ เขาเป็นคนแรก ๆ ที่ให้ทุนแก่ jack ma ที่สร้างอาณาจักร alibaba ได้อย่างยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน ตอนนั้น บริษัทของ jack ma นั้นแทบจะไม่มีกำไร และมีพนักงานเพียงน้อยนิดเท่านั้น เรียกว่าเป็นการลงทุนที่เชื่อมั่นใน jack ma เป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้

เป็นผู้ให้เงินทุนคนแรก ๆ กับ jack ma

เป็นผู้ให้เงินทุนคนแรก ๆ กับ jack ma

ที่ให้ทุนกับ jack ma ไปสร้างอาณาจักร alibaba จนสามารถยิ่งใหญ่ได้ในปัจจุบัน และสามารถทำกำไรให้เขาได้อย่างมากมาย เนื่องจาก alibaba นั้นกลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ แห่งหนึ่งของโลกในขณะนี้ก็ว่าได้

ซึ่งการลงทุนในระดับตำนานของเขาคือการลงทุนใน ARM  ซึ่งเขามองว่า ARM นั้นครองส่วนแบ่งได้ถึง 99% ในตลาด chip ของมือถือ ซึ่งกว่า 1000 ล้าน device ในปัจจุบัน นั้นใช้ chip ของ ARM แล้วทำไมเขาถึงจะไม่ลงทุนในบริษัทที่ส่วนแบ่งการตลาดขนาดนี้ รวมถึง ในอนาคตนั้น ไม่ใช่แค่มือถืออย่างเดียวที่ใช้ chip

ในยุค internet of thing ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเราจะต้องใช้ chip หมด ซึ่งการที่ ARM สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดขนาดนี้นั้น เขามองว่า การลงทุนกับ ARM ถึงแม้จะเป็นการลงทุนเรื่อง chip ที่ไม่ใช่เทคโนโลยีของอนาคตซะทีเดียวนั้น ถือว่าเป็นการลงทุนที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

อ่านเกมส์ขาดในการลงทุนใน ARM ผู้ผลิตชิพ มือถือ

อ่านเกมส์ขาดในการลงทุนใน ARM ผู้ผลิตชิป มือถือ

สำหรับเรื่องของอนาคตการลงทุน ซึ่งเขามองเรื่อง Singularity รวมถึงเรื่อง AI ที่เป็นเทคโนโลยีในอนาคต ที่จะเป็น port การลงทุนที่สำคัญของเขาในอนาคตต่อจากนี้ไป ซึ่งส่วนนี้สำคัญมาก

อนาคตเลือกลงทุนใน AI และ Robot เพราะเป็นอนาคตใหม่ของโลกเรา

อนาคตเลือกลงทุนใน AI และ Robot เพราะเป็นอนาคตใหม่ของโลกเรา

เพราะคำว่า Believe ของเขา ที่มักพูดออกสื่ออยู่บ่อย ๆ นั้นแทบจะเป็นจริงในทุก ๆ ครั้ง ความเชื่อ และประสบการณ์ของเขา นั้นสามารถทำนายอนาคตของเราได้ว่า เทคโนโลยีทางด้าน AI นั้น จะมีบทบาทสำคัญอย่างมากกำลังมีบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างกับการดำรงชีวิตของมนุษย์ในอนาคตอันใกล้นี้

แน่นอนว่าการใกล้ชิดกับอเมริกาตั้งแต่เรียน รวมถึงการได้ไปลงทุนในธุรกิจมากมายในอเมริกานั้น น่าจะเป็นส่วนสำคัญที่เขาต้องเลือกช่วยเหลืออเมริกาในการยกเลิกธุรกิจกับ หัวเว่ย ซึ่ง แน่นอนว่า ARM นั้นได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะ Huawei เป็นค่ายยักษ์ใหญ่มือถืออันดับสองของโลก แต่ ก็ต้องบอกว่าแค่ลูกค้าที่มีอยู่ในมือนั้น ARM ก็แทบจะผลิตชิป รองรับความต้องการแทบจะไม่ทันแล้วในตอนนี้ ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ ดูแล้ว คนที่ได้รับผลกระทบหนักมากที่สุดน่าจะเป็น Huawei เสียมากกว่านั่นเองครับ

ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
Fanpage :facebook.com/tharadhol.blog
Blockdit :blockdit.com/tharadhol.blog
Twitter :twitter.com/tharadhol
Instragram :instragram.com/tharadhol