Movie Review : JUDY จูดี้ การ์แลนด์

ต้องบอกว่าเป็นหนังที่มีคนให้ความสนใจน้อยไปหน่อย สำหรับหนังที่เล่าเรื่องราวประวัติ ของ JUDY Garland (จูดี้ การ์แลนด์) นักร้องนักแสดงผู้มากความสามารถในยุคปี 60 ซึ่งแน่นอนว่าหนังแนว ๆ นี้มักจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จในตลาดหนังไทยเท่าที่ควร

หนังที่ว่าด้วยเรื่องราวของ นักร้องนักแสดงสาวในตำนานยุค 60 “Judy Garland” ที่เป็นเรื่องราวช่วงที่ได้มาถึง Swinging London เพื่อแสดงในงาน The talk of the Town เป็นงานที่โด่งดัง ตั๋วถูกขายจนหมดเกลี้ยง

แม้เสียงเธอจะอ่อนแอลงแต่กลับทรงพลังทางด้านอารมณ์มากขึ้น ขณะที่เธอเตรียมพร้อมสำหรับการแสดงของเธอ เธอต้องสู้รบปรบมือกับบรรดาผู้บริหารและนักดนตรี เพื่อนๆ และแฟนๆที่รักเธอ ต่างย้ำเตือนเธอเกี่ยวกับเรื่องความรักของเธอ

ซึ่งขณะนั้นเธอกำลังเริ่มต้นการคบหากับ Mickey Deans (Finn Wittrock) ว่าที่สามีคนที่ห้าของเธอ เพราะความเปราะบางในอดีตเกี่ยวกับคนรักของเธอทำให้ทุกคนเป็นห่วง ซึ่งเธอทำงานมานานกว่า 45 ปี โดยเริ่มการแสดงครั้งแรกเมื่อายุเพียงแค่ 2 ขวบเท่านั้น

ในขณะที่เธออายุ 47 ปี เธอรู้สึกหมดแรงและยังถูกหลอกหลอนจากความทรงจำในวัยเด็ก ในส่วนลึกเธอยังคงหวังที่จะได้กลับบ้านพร้อมกับลูกๆ

ถือเป็นหนังที่สไตล์ที่ผมชอบอีกแนวหนึ่งนั่นก็คือ เรื่องราวของประวัติบุคคลต่าง ๆ โดยเฉพาะคนชื่อดัง และแน่นอนว่า เรื่องนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ผ่านเรื่องราวของเธอ ที่ทำออกมาได้อย่างลงตัวเป็นอย่างมาก

หนังได้เล่าเรื่องผสมผสาน โดยสลับกับช่วงเธอที่ยังเป็นเด็ก เพื่อฉายภาพที่มาของเรื่องราวของเธอว่า เธอได้พบเจออะไรมาบ้างในวัยเด็ก ซึ่งมันส่งผลต่อเธอเมื่อเติบโตขึ้นมาอย่างชัดเจน

ส่วนบทนำที่ เรเน่ เซลเวเกอร์ กลับมารับบท JUDY นั้นเธอทำได้สุดยอดมาก ๆ เธอถ่ายทอดอารมณ์ของความเป็นศิลปินออกมาได้เด่นชัดมากจากหนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่เธอแสดงได้ดีมากที่สุดเรื่องนึงเลยก็ว่าได้ แฟน ๆ เรเน่ ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งเลยครับสำหรับหนังเรื่องนี้

สำหรับเรื่องราวนั้น เราก็ต้องมาลุ้นกันว่าเธอ (JUDY) จะมีพลังสู้ต่อไปได้หรือไม่? และแน่นอนว่าจุดเด่นที่ประทับใจจากหนังเรื่องนี้อีกอย่าง ก็คือได้มีโอกาสได้ซึมซับบทเพลงคลาสสิกเหนือกาลที่เป็นที่รู้จักกันดีของเธออย่าง “Over the Rainbow’ ที่ฟังแล้วทุกคนต้องร้องอ๋อ ซึ่งถือเป็นเพลงที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของนักร้องระดับตำนานคนนี้ได้เป็นอย่างดี เป็นหนังที่อยากแนะนำให้ไปดูกันจริง ๆ นะครับ จบออกมาจากโรงแล้วรู้สึกอิ่มเอมอย่างบอกไม่ถูก อยากให้ไปดูกันครับ