Huawei ได้รายงานว่าสต็อกชิ้นส่วนที่ผลิตในสหรัฐฯเพียงพอที่รองรับการผลิตมือถือได้อีกสามเดือนถึงหนึ่งปี ดังนั้นจึงมีเวลาพอที่จะเตรียมรับมือกับวิกฤติ แต่ในบางชิ้นส่วนที่คลังสินค้าใกล้จะหมดแล้วนั้น หัวเว่ยจะต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากมากในการหาชิ้นส่วนเหล่านั้น: ซึ่งมันคงมีแค่สองทางเลือกสุดท้ายระหว่างผลิตสมาร์ทโฟนที่ไม่มีเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาหรือออกจากธุรกิจสมาร์ทโฟนไปแบบถาวร
Huawei ออกแบบโปรเซสเซอร์สำหรับโทรศัพท์ Android แต่ยังต้องพึ่งพาส่วนประกอบจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก ในโทรศัพท์รุ่นล่าสุด P30 Pro ที่ประกอบด้วยกระจก Corning ที่ครอบคลุมด้านหน้าและด้านหลัง ที่เก็บข้อมูลแฟลชจาก Micron ส่วนประกอบด้านเครือข่ายที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย 3G และ LTE และอีกมากมาย และมันจะไม่เป็นโทรศัพท์ Android อย่างแน่นอน หากไม่มีซอฟต์แวร์ของ Google
แม้ว่า Huawei จะกล่าวว่าได้พัฒนาAndroid และ Windows ขึ้นมาของตัวเองแทนได้ และคาดว่าพร้อมที่จะนำไปใช้หากจำเป็น ถึงกระนั้นหากคำสั่งแบนจากสหรัฐยังคงมีอยู่ต่อไป Huawei จะถูกบังคับให้ต้องค้นหาสิ่งที่จะมาทดแทนจำนวนมากโดยด่วน
นี่ถือได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติในอุตสาหกรรมที่เจริญรุ่งเรืองอย่างมือถือ และเกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ แต่เหตุการณ์แบบนี้นั้นก็ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์การค้าโลก
บริษัทโทรศัพท์ของจีนอย่าง ZTE ถูกห้ามชั่วคราวโดยสหรัฐอเมริกาในปี 2018 ปิดกั้นความสามารถในการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากบริษัทสหรัฐเช่น Google, Qualcomm และ Dolby เพื่อจัดการกับการสูญเสีย Qualcomm ซึ่งจัดหาชิป Snapdragon ให้กับ ZTE นั้น ทาง ZTE ได้ไปทำข้อตกลงกับ MediaTek ซึ่งเป็น บริษัท ที่ไต้หวัน หลังจากผ่านไปสองสามเดือนประธานาธิบดีทรัมป์ยุติการสั่งห้ามในที่สุด
สำหรับส่วนประกอบหลัก ๆ ของ Huawei ในมือถือเรือธงที่กำลังขายทั่วโลกหากไม่ต้องใช้ชิ้นส่วนสหรัฐสิ่งที่ Huawei ต้องทำคือ
Gorilla Glass
คอร์นนิ่งผู้ผลิต Gorilla Glass เป็นผู้ผลิตจอให้กับ P30 Pro และเป็นซัพพลายเออร์ของ Huawei สำหรับโทรศัพท์รุ่นอื่น ๆ หลายรุ่นรวมถึงแล็ปท็อป Windows และแน่นอนว่ามันอยู่ในสหรัฐอเมริกา ดังนั้นในกรณีที่ตัดความสัมพันธ์กับหัวเว่ย ก็จะต้องเลือกผู้ให้บริการรายอื่น ซึ่งอาจจะต้องเลือกบริษัทอย่าง AGC Asahi Glass คู่แข่งชาวญี่ปุ่นที่ผลิตแก้ว Dragontrail แทน
ผลิตภัณฑ์มือถือของ Google รุ่นเรือธงระดับสูง ก็เลือกใช้ Dragontrail แทน Gorilla Glass เช่นใน Pixel 3A รุ่นใหม่ซึ่งน่าจะลดต้นทุน ในขณะที่อาซาฮีไม่ได้รับการยอมรับจากแบรนด์คอร์นนิ่งในฐานะคู่แข่ง แต่หากมีข้อตกลงของหัวเว่ยอย่างฉับพลันอาจทำให้กลายเป็นคู่แข่งที่น่าเกรงขามมากยิ่งขึ้นในตลาดจอมือถือแบบกระจก
MICRON-MADE FLASH STORAGE
ชิปจัดเก็บข้อมูลที่สร้างขึ้นใน P30 Pro มาจากไมครอนซึ่งเป็นผู้ผลิตที่อยู่ใน Boise, Idaho ได้มีการระงับการจัดส่งกับหัวเว่ย ส่วนซัพพลายเออร์อื่น ๆ เช่นโตชิบาและซัมซุงอาจเป็นพันธมิตรที่เป็นไปได้แม้ว่า บริษัท HiSilicon ของ Huawei อาจทำงานเพื่อพัฒนาส่วนประกอบสตอเรจของตนเองได้ก็ตาม
Huawei ได้แสดงความสนใจในการจัดเก็บข้อมูลที่ไม่ใช่แบบภายใน และพวกเขายังมีการ์ดหน่วยความจำนาโนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง โดยมีขนาดเท่ากันกับนาโนซิมการ์ดและเทคโนโลยีนี้อาจเป็นสัญญาณว่าหัวเว่ยได้เริ่มต้นเส้นทางเพื่อสร้างพื้นที่จัดเก็บของตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นอีกต่อไป
MODULES FOR 3G AND LTE SUPPORT
Skyworks และ Qorvo สองบริษัทจากสหรัฐอเมริกาจัดหาโมดูลส่วนหน้าซึ่งทำหน้าที่เหมือนการ์ดเครือข่ายใน P30 Pro สิ่งเหล่านี้ทำให้โทรศัพท์มีความสามารถในการทำงานกับคลื่นความถี่ 3G และ LTE ทั่วโลก ตามที่ระบุไว้ในการแกะเครื่อง Galaxy S10 ของ iFixit , Samsung ใช้ Skyworks และ Qorvo เช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกยอดนิยม การพึ่งพา Huawei ของบริษัทสหรัฐในการทำให้อุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกับเครือข่ายของสหรัฐนั้นไม่น่าแปลกใจมากนักแม้ว่ามันอาจจำเป็นต้องพัฒนาโมดูล front-end ของตัวเองหากต้องการรักษาความเข้ากันได้กับผู้ให้บริการบางรายก็ตาม
ANDROID
Google ได้ทำสัญญาอนุญาต Android กับ Huawei แล้วอนุญาตให้ใช้เฉพาะโครงการ Android Open Source (AOSP) เท่านั้น นี่จะเป็นการตัดขาดบริการต่าง ๆ ที่สร้างโดย Google และหมายความว่าอุปกรณ์ของ Huawei จะมีจุดอ่อนในด้านคุณสมบัติความปลอดภัย เมื่อเทียบกับมือถือเรือธงอื่น ๆ ในตลาด
References :
https://www.theverge.com/2019/5/21/18632550/huawei-p30-pro-android-google-executive-order-us-phone-qualcomm-intel