Zippo แบรนด์ไฟแช็คที่เป็นมากกว่าแค่ไฟแช็ค

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับแบรนด์ Zippo บริษัท ที่สร้างขึ้นในสหรัฐอเมริกาที่เป็นแบรนด์ที่มีคนรู้จักมากที่สุดแบรนด์หนึ่ง ซึ่งจากสถิติพบว่า 98 จาก 100 คนของชาวอเมริกา จะรู้จักแบรนด์ Zippo โดยอัตโนมัติ ซึ่งในแง่ของการรับรู้แบรนด์นั้น ถือเป็นสถิติที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตามความสำเร็จในระดับนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ข้ามคืน เป็นเวลา 85 ปีแล้วที่ผู้ก่อตั้ง George G. Blaisdell เริ่มก่อตั้ง บริษัท และต้องขอบคุณความมุ่งมั่นในระดับคุณภาพของเขา และการทำงานอย่างหนัก ที่ทำให้ Zippo สามารถมีชื่อเสียงทั่วโลกได้ ด้วย ไฟแช็ค windproof (กันลม) ที่ออกแบบและสร้างขึ้นในสหรัฐอเมริกา

ทุกอย่างเริ่มต้นที่แบรดฟอร์ดคันทรีคลับ ในเมืองแบรดฟอร์ด รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตและพิพิธภัณฑ์ Zippo เมื่อ Blaisdell กำลังเฝ้าดูเพื่อนคนหนึ่งของเขากำลังจุดบุหรี่ด้วยไฟแช็ค และในขณะที่การจุดไฟแช็คแบบเดิม ๆ นั้น มันต้องใช้สองมือคอยป้องไว้เพื่อไม่ให้ลมพัดเข้ามาทำให้ไฟดับ

เมื่อ Blaisdell เห็นปัญหาดังกล่าว จึงคิดไอเดียเพื่อเตรียมการออกแบบที่จะแก้ปัญหาที่ยุ่งยากนี้ ให้เป็นสิ่งที่ใช้งานง่ายขึ้น ต้นแบบของเขาจึงยังทำการออกแบบปล่องไฟ เพื่อปกป้องเปลวไฟในสภาพที่ไม่เหมาะ เช่นในสถานที่ที่ลมแรง ทำให้ไฟแช็กสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งสิ่งนี้นี่เองที่นำไปสู่ไฟแช็ค Zippo ตัวแรกที่ผลิตในปี 1933

 George G. Blaisdell ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Zippo
George G. Blaisdell ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Zippo

ซึ่งจากจุดเริ่มต้น Blaisdell ก็กล้าที่จะรับประกันการใช้งานแบบไม่มีเงื่อนไขสำหรับ Zippo ทุกรุ่น ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวแรกนั้นเข้าสู่ตลาดในราคาขายปลีกที่ 1.95 ดอลลาร์ เท่านั้น และในช่วง 85 ปีที่ผ่านมาไม่มีลูกค้ารายใดที่ต้องใช้เงินเพื่อซ่อมแซมสินค้าของ Zippo เลยแม้แต่ครั้งเดียว

เช่นเดียวกับชาวอเมริกันส่วนใหญ่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งต้องบอกว่าสงครามโลกครั้งที่สองมีผลต่อ Zippo เป็นอย่างมาก ในฐานะผู้รักชาติตัวยง Blaisdell ได้ทุ่มเทการผลิตทั้งหมดให้กับกองทัพสหรัฐฯ การผลิตที่ทำให้ไฟแช็คมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะต้องยอมรับว่าบุหรี่ ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างนึงในภาวะสงคราม เนื่องด้วยความเครียดของเหล่าทหารที่ต้องใช้บุหรี่และไฟแช็คเป็นที่พึ่งอยู่เสมอ

และเมื่ออเมริกาเข้าสู่สงคราม ความคิดริเริ่มนี้ที่ต่อมาได้สร้างนวัตกรรมที่มีคุณค่าบางอย่างสำหรับ Zippo กล่าวคือ การสร้างไฟแช็คแบบกล่องเหล็กสำหรับเหล่าทหารที่อยู่ในแนวหน้า ชาวอเมริกันหลายล้านคนถือไฟแช็คเหล่านี้เข้าสู่การต่อสู้ในช่วงหลายปีของสงครามโลก ทำให้ Zippo กลายเป็นแบรนด์ที่รู้จักในระดับโลกในที่สุด

ผลจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ zippo กลายเป็นแบรนด์ที่รู้จักในระดับโลก
ผลจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ zippo กลายเป็นแบรนด์ที่รู้จักในระดับโลก

หลังสงครามถึงเวลาแล้วที่ Blaisdell จะขยายกิจการของเขาในช่วงหลังสงครามอันสงบสุขและเศรษฐกิจของอเมริกาที่ดีขึ้นในช่วงเวลานั้น ในปี 1947 เขาได้เริ่มสร้างโรงงานผลิตที่แยกต่างหากที่ก่อตั้งขึ้นที่ Niagara Falls รัฐออนแทรีโอ นอกจากนี้เขาได้ทำการสลักที่ก้นของไฟแช็ค Zippo ทุกชิ้น โดยทุก ๆ ชิ้นจะได้รับรหัสวันที่ประทับซึ่งบ่งบอกถึงเดือนและปีที่ผลิตไฟแช็กแต่ละชิ้นซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับนักสะสมที่ยังคงดำเนินต่อไปจนถึงทุกวันนี้

ต่อมาในปี 1956 Zippo ได้เปิดตัวไฟแช็ก windproof แบบใหม่ ที่มุ่งไปที่ตลาดผู้หญิงและเพื่อที่ผลักดันให้แบรนด์ของพวกเขาออกมาจากภาพลักษณ์ของสงครามที่โหดร้าย ที่อยู่ในหัวใจของพลเมืองอเมริกันทั้งหมด มาอย่างยาวนาน

Zippo ได้เริ่มสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ดูเข้ากับแบรนด์ ไล่ตั้งแต่ เครื่องมือวัดเทปในกระเป๋าเหล็กที่พับเก็บได้ในปี 1962 ต่อมาก็ได้เพิ่มพวงกุญแจมีดพกและไฟฉายพกพา ZipLight ที่กลายเป็นสินค้ายอดฮิตติดลมบนของชาวอเมริกา

ซึ่งการเติบโตและความสำเร็จของพวกเขายังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากยุคของ Blaisdell ในปี 1978 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ลูกสาวสองคนของเขา Harriett B. Wick และ Sarah B. Dorn ต้องสืบทอดธุรกิจต่อใน ยุค 70 และ 80 กิจการของ Zippo ก็ยังขยายตัวมาอย่างต่อเนื่อง

วัฒนธรรมใหม่ ๆ ยังช่วยเพิ่มชื่อเสียงของแบรนด์ผ่านสื่อใหญ่ ๆ อย่างภาพยนต์ ทีวี และสื่อรูปแบบอื่น ๆ อีกมากมาย ไฟแช็ค Zippo นั้นได้ถูกนำเสนอในภาพยนตร์กว่า 2,000 เรื่อง รวมถึงรายการทีวีอีกมากมาย  เหล่านี้รวมถึงซีรียส์ หรือ หนังยอดฮิตอย่าง I Love Lucy และ The X-Men  ที่ทำให้ Zippo กลายเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นเพื่อสะท้อนบุคลิกของตัวละครได้อย่างดีเยี่ยม

วันนี้ฐานแฟนคลับของไฟแช็ค Zippo มีอยู่อย่างกว้างขวาง ปัจจุบันมีการคาดการณ์ว่ามีนักสะสม Zippo ประมาณ 4 ล้านคนทั่วโลก มีวิดีโอที่เกี่ยวกับ Zippo 34,000 รายการบน YouTube ผู้ติดตามโซเชียลมีเดียมากกว่าสองล้านคน และผู้ใช้แอปพลิเคชัน Zippo บน iPhone มากกว่า 18 ล้านคน 

ปัจจุบันมีพิพิธภัณฑ์ / ร้านค้า บนพื้นที่กว่า 15,000 ตารางฟุต ตั้งอยู่บนถนนไม่ห่างจากโรงงานผลิตดั้งเดิมของ Zippo ซึ่งมีผู้เยี่ยมชมหลายพันคนจากทั่วโลกในทุก ๆ ปี และ ในปี 2012 แบรนด์ได้เฉลิมฉลองประวัติศาสตร์ด้วยการผลิตไฟแช็คครบ 500 ล้านชิ้น ของพวกเขาอย่างยิ่งใหญ่

พิพิธภัณฑ์ของ Zippo ที่เมืองแบรดฟอร์ด
พิพิธภัณฑ์ของ Zippo ที่เมืองแบรดฟอร์ด

ต้องบอกว่า Zippo เป็นแบรนด์อเมริกันที่เป็นอันหนึ่งในใจของทุกคนจริง ๆ ซึ่งมาจากคุณภาพการผลิตที่มีมาตรฐาน โดยไฟแช็คใน ๆ ทุกชิ้นก็ยังคงได้รับการตรวจสอบคุณภาพก่อนออกจากโรงงานผลิต ด้วยมาตรฐานสูง มาตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของบริษัท

และสิ่งสำคัญอีกอย่างนึงของเหล่าพนักงานของ Zippo ก็คือ พวกเขานั้นอยู่กันแบบบรรยากาศในครอบครัว เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่มีพนักงานหลายช่วงอายุ ซึ่งเหล่าพนักงานที่มีประสิทธิภาพเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นพนักงานที่มีความสามารถในการผลิตทดสอบและซ่อมไฟแช็คในอันดับต้น ๆ ของอเมริกา 

ณ ปัจจุบัน Zippo ยังไม่แสดงสัญญาณของการชะลอตัวลงของการเติบโตของพวกเขาเลย มีการผลิตสินค้ามากกว่า 12 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งจากเรื่องราวทั้งหมดนี้ ก็ยืนยันได้ว่ารูปแบบและการวางรากฐานดั้งเดิมของ Blaisdell ผู้ก่อตั้ง ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อนนั้น ยังคงมีความมั่นคง และคงคุณภาพแบบแนวคิดตั้งต้นของ Blaisdell ที่ได้สร้างไฟแช็คที่มาตรฐานสูง ไม่เปลี่ยนแปลง มาจวบจนถึงปัจจุบันอย่างที่เราได้เห็นนั่นเองครับ

References : https://www.z-republic.com/history-great-brand-zippo-lighter/ https://hiconsumption.com/the-complete-history-of-the-zippo-lighter/ https://en.wikipedia.org/wiki/Zippo https://www.zippo.com/pages/then-now