เมื่อเหล่าโจรใช้เทคโนโลยี AI Deepfakes ช่วยในการโจรกรรม

ดูเหมือนว่าในทุกวันนี้จะมีตัวอย่างของซอฟต์แวร์ฟรีที่ใช้งานง่าย ๆ ที่สามารถสร้างวิดีโอหรือเสียงที่น่าเชื่อถือซึ่งออกแบบมาเพื่อหลอกคนให้เชื่อได้  แต่จากรายงานของ The Wall Street Journal ณ ปัจจุบัน เราอาจจะได้เห็นการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ทางด้านการเงินและทางกฎหมายอย่างจริงจังด้วยเทคโนโลยีอย่าง Deepfake

รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าผู้บริหารระดับสูงของ บริษัท พลังงานของสหราชอาณาจักรถูกหลอกให้โอนเงิน 200,000 ยูโร (หรือประมาณ 220,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ไปยังซัพพลายเออร์ชาวฮังการีเพราะเขาโดนหลอกให้เชื่อว่าเจ้านายของเขากำลังสั่งให้เขาทำเช่นนั้น 

แต่ บริษัท ประกันภัยของบริษัทพลังงานอย่าง Euler Hermes Group SA บอกกับ WSJ ว่า โจรร้ายได้ทำการติดตั้งอุปกรณ์ AI และใช้ซอฟต์แวร์ Deepfake เพื่อเลียนแบบเสียงของผู้บริหารและทำการหลอกให้จ่ายเงินให้เขา

“ซอฟแวร์สามารถที่จะเลียนแบบเสียงและไม่เพียงแต่เสียงเท่านั้น: โทนในการพูดแบบสำเนียงเยอรมันอีกด้วย,” โฆษกของ ออยเลอร์ Hermes บอกกับวอชิงตันโพสต์ โดยโทรศัพท์ถูกจับคู่กับอีเมลเพื่อยืนยันตัวตนว่าเป็นตัวจริง และตอนนี้เงินที่โอนได้หายไปหลังจากถูกย้ายบัญชีไปในฮังการีและเม็กซิโกและกระจายไปทั่วโลก จากรายงานของ วอชิงตันโพสต์

นี่อาจไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์นี้ ตามที่ วอชิงตันโพสต์ รายงาน , บริษัท ไซเบอร์ไซแมนเทคกล่าวว่าได้เจออย่างน้อยสามกรณี ที่เกี่ยวกับการปลอมแปลงเสียงโดยใช้เทคโนโลยี deepfake ในการหลอกลวงให้บริษัทส่งเงินไปยังบัญชีที่หลอกลวง ไซแมนเทคบอกกับ วอชิงตันโพสต์ ว่ามีอย่างน้อยหนึ่งกรณีที่ดูจะคล้ายกับกรณีดังกล่าวและส่งผลให้เกิดการสูญเสียเงินหลายล้านดอลลาร์

ซึ่งการโจรกรรมดังกล่าวเน้นให้เห็นถึงภัยอันตรายจากงานวิจัยของ AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการประดิษฐ์วิดีโอและเสียง ที่กำลังพัฒนาไปอย่างมากในปัจจุบัน

บริการดูเพล็กซ์ของ Googleใช้ AI เพื่อเลียนแบบเสียงของมนุษย์จริงเพื่อให้สามารถโทรออกแทนผู้ใช้จริงได้ มีบริษัทสตาร์ทอัพขนาดเล็กจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศจีนเสนอบริการที่คล้ายกันฟรีบนสมาร์ทโฟน ซึ่งบางครั้งก็อยู่ภายใต้เงื่อนไขความเป็นส่วนตัว

ขณะเดียวกันนักวิจัยในบริษัทที่มีเทคโนโลยีและในสถาบันการศึกษากำลังมีความพยายามที่จะพัฒนา deepfake ตรวจจับซอฟต์แวร์ที่เป็นของปลอม ซึ่งกล่าวอีกนัยหนึ่งว่านักวิจัยต้องการเครื่องมือที่ดีกว่าเพื่อคัดแยกของจริงออกจากของปลอมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเอง

References : https://www.theverge.com
https://www.conservativedailynews.com/wp-content/uploads/2019/06/Hacker-3-1280×720.jpg