เปิดฉาก Premier League 2017-2018

ต้องบอกก่อนเลยว่าปีนี้ Premier League เปิดหัวนัดแรกกันค่อนข้างมันส์ สมชื่อ ยิงกันถล่มทลายตั้งแต่นัดแรก อาร์เซน่อล เจอ กับ เลสเตอร์ รวมถึงคู่ในวันเสาร์และอาทิตย์ ก็ยิ่งกันถล่มทลาย ซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างนึงของ Premier League เลยก็ว่าได้ที่แตกต่างจาก ลีค อื่น ๆ ที่ทุกทีมสู้ตาย เพื่อเงินมหาศาลของค่าส่วนแบ่งของลิขสิทธิ์ที่ห่างชั้นจากลีคอื่นอย่างเทียบไม่ติด

ปีนี้ก็คิดว่าเป็นปีที่น่าจะขับเคี่ยวกันมันส์ ที่่สุดปีนึง ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง premier league มาเลยก็ว่าได้ เพราะทุกทีม ทุ่มเงินซื้อสตาร์กันมามากมาย ทีมหัวตารางก็เสริมทัพกันอย่างบ้าคลั่ง โดยเฉพาะ แมน ยู กับ แมน ซิตี้ ที่ว่าเป็น เต็ง 1 และ เต็ง 2 ในปีนี้ ถือว่าเสริมทัพโดยใช้เงินไปมหาศาล

จากฟอร์มนัดแรก นี่ โดยส่วนตัวยกให้แมนยู เลยเป็น เต็ง 1 หลังจากได้ มาติช เข้ามาเสริมทีม ทำให้องค์ประกอบของทีมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และการได้กองหน้าตัวใหม่อย่าง ลูกากู ก็ไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมายกับ premier league อยู่แล้ว แทบจะลุ้นดาวซัลโวทุกปีในช่วงปีที่ผ่านมากับ เอฟเวอร์ตัน การย้ายเข้ามาอยู่แมนยู รับรองยิงกระจายแน่นอน

ทีมที่สื่อให้เป็นเต็ง 1 อย่าง แมน ซิตี้ นั้น เท่าที่ดูฟอร์มนัดแรกถือว่าต้องปรับพอสมควร ยังเล่นกันไม่ค่อยเข้าขาเท่าไหร่ แม้จะเป็นนักเตะตัวรุกชุดหลักเหมือนปีที่แล้ว มีการเสริมเฉพาะกองหลังที่เข้ามาหลายคน ดูแล้วก็ต้อง จูนปรับตัวกันพอสมควร การเน้นรุกมากเกินไปของแมน ซิตี้นั้น เราได้เห็นบทเรียนหลายครั้งแล้วใน ซีซั่นที่แล้ว แต่คิดว่าเป๊บก็ยังคงมั่นใจในปรัชญาเกมส์รุกของตัวเองอยู่เหมือนเดิม

ส่วนทีมที่ลุ้น อื่น ๆ อย่าง เชลซี แชมป์เก่านั้น ปีนี้ต้องเล่น แชมเปี้ยนลีค น่าจะต้องใช้พลังเพิ่มมากขึ้นพอควร แถมเสียตัวหลักอย่าง มาติช รวมถึง คอสต้า ที่ไม่อยู่ในแพลนการทำทีมของคอนเต้ ซึ่งก็งงมากว่าปีที่แล้วก็ปรับตัวได้ดีกับแทคทิคของคอนเต้ แต่ทำไมคอนเต้ ถึงไม่เลือกใช้ในปีนี้ การได้กองหน้าตัวใหม่อย่าง โมราต้า นั้น ก็ต้องปรับตัวกันพอสมควร กับเกมส์ที่รวดเร็วอย่าง พรีเมียร์ลีค ซึ่งก็คิดว่ายากกับการป้องกันแชมป์ปีนี้

ส่วนสเปอร์ นั้นแทบจะไม่เสริมทัพเข้ามาเลย น่าจะมีปัญหาทางด้านการเงินที่ต้องไปสร้างสนามใหม่อีกหลายปี คิดว่าปีนี้ คงได้แค่ลุ้นเบียดพื้นที่แชมเปี้ยนลีค เฉย ๆ

ส่วน ลิเวอร์พูล ที่ผมมองตอนแรกว่ามีโอกาสสูงที่จะไปเบียดลุ้นแชมป์กับสองทีมจาก แมนเชสเตอร์ นั้น มาพบกับข่าวร้ายในช่วงก่อนเปิด ซีซั่น เนื่องจากมีโอกาสสูงที่จะเสียผู้เล่นหัวใจแนวรุกตัวหลักอย่าง คูตินโย่ ซึ่งการเสีย คูตินโย่ นั้น ถือว่าทำให้ทีมเสียสมดุลไปมากพอควรแม้จะได้นักเตะใหม่อย่าง ซาล่า มาก็ตามแต่หากเสีย คูตินโย่ ก็คิดว่า ไม่น่าไปเบียดลุ้นกับสองทีมจาก แมนเชสเตอร์ได้อย่างแน่นอน

ทีมสุดท้าย ก็ ทีมรักของผมอย่าง อาเซน่อล สถานการณ์ ของทั้ง โอซิล และ ซานเชส นั้นก็ยังไม่มีอะไรแน่นอน ทั้งที่ปีหน้าจะหมดสัญญาแล้ว สโมสร ก็ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ว่าจะขายหรือจะต่อสัญญา ส่วนตัวคิดว่า ซานเชสนั้น มีโอกาสสูงที่ไม่ต่อสัญญาแน่ อยู่ที่ว่าจะขายก่อนปิดตลาดนักเตะในรอบนี้หรือไม่ ส่วนโอซิล คิดว่าอยู่ต่อ แต่ก็ไม่แน่ว่าจะไม่ต่อสัญญาในปีหน้าเหมือนกัน คงเล่นคู่กันอีกปีเดียวเท่านั้น การได้นักเตะใหม่อย่าง ลากาแซต และ โคลาซิแนค เข้ามานั้น ก็คือว่าเติมเต็มจุดอ่อนได้พอสมควร แต่ถ้าเทียบจากสองทีมจาก แมนเชสเตอร์ ก็ถือว่า ยังเป็นรองอยู่ค่อนข้างมากกับสภาพทีม ถึงแม้ปีนี้จะไม่ได้ไปเล่นแชมเปี้ยนลีค แต่ก็ต้องแข่ง ยูโรป้าลีค อยู่ดี ซึ่งการแข่งในคืนวันพฤหัส ก็ไม่ได้เป็นผลดีกับอาเซน่อลซักเท่าไหร่เลยในปีนี้ ผมหวังไว้อย่างสูงก็แค่  การกลับมาอยู่ top 4 ให้ได้อีกครั้งในปีนี้ และปีหน้าคงมาสร้างทีมกันใหม่หมด

Image Ref : http://www.footballgate.com

 

บทเรียนที่สาสม : มีเงินแต่ไม่ใช้

รูดม่านเปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับฟุตบอล พรีเมียร์ลีคฤดูกาล 2016-2017 หลายทีมทำผลงานได้ตามเป้าหมาย และอีกหลายทีมก็ผลงานน่าผิดหวังสำหรับนัดเปิดสนาม

โดยเฉพาะทีมรักอย่าง อาเซน่อล นั้นถือว่าได้เปิดตัวได้ย่ำแย่เลยทีเดียว แต่ก็ไม่น่าเซอร์ไพรซ์ เท่าไหร่ ถ้าดูจากสภาพทีมในนัดเปิดสนาม ที่ผู้เล่นตัวหลักหลายคนก็ยังไม่ฟิตพอที่จะลงสนามรวมถึง กองหลังตัวหลักที่นัดบาดเจ็บกันหมดทั้งทีม ต้องส่งดาวรุ่งอย่าง Chambers และ Rob Holding นักเตะดาวรุ่งตัวใหม่ดันลงสนามกันตั้งแต่นัดแรก  แต่ลิเวอร์พูลก็ไม่ได้ฟูลทีมนักในนัดแรก แต่ผู้เล่นตัวรุกหลักของเค้าก็มากันครบครัน ซึ่งเมื่อเจอกองหลังอ่อนประสบการณ์ของอาเซน่อลในนัดเปิดสนามก็เป็นไปอย่างที่เห็น สามารถเจาะเข้าทำประตูได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะในครึ่งหลังที่รัวกันมา 3 เม็ดรวดเดียว ทำเอาเกือบถูกถล่มตั้งแต่นัดเปิดสนาม ดีที่ตีตี้นกลับมาได้อย่างรวดเร็วแต่ท้ายสุดก็ไม่สามารถตามตีเสมอได้อยู่ดี ซึ่งก็เป็นผลงานน่าผิดหวังอีกเช่นเคยในนัดเปิดสนามของอาเซน่อลในช่วงปลายปีหลัง

แฟน ๆ ต่างเรียกร้องให้ใช้เงินซื้อนักเตะระดับท๊อปเข้ามาบ้าง ซึ่งทีมอาเซน่อลนั้นก็เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ทีมหนึ่งในยุโรป และมีแฟนบอลติดตามมากมายอยู่ทั่วโลก ซึ่งต่างเห็นพ้องต้องกันว่าควรใช้เงินบ้างได้แล้ว เพราะฐานะทางการเงินในขณะนี้ก็ถือว่าดีมาก ๆ แล้วหลังจากสนามเสร็จ รวมถึงค่าตั๋วเข้าสนามก็แพงอันดับต้น ๆ ของโลก จึงถึงเวลาแล้วที่เวนเกอร์ต้องตอบแทนแฟนบอลคืนบ้างในปีนี้

Ref Img : football365.com

 

 

เข้าสู่วงโคจรเดิม

เพิ่งเขียนใน blog ล่าสุดเกี่ยวกับอาเซน่อลไปหมาด ๆ สำหรับการเข้าสู่การลุ้นแชมป์เต็มตัวในช่วงวันวาเลนไทน์ ซึ่งตอนนั้นถือว่าเป็นช่วงเวลาที่หอมหวานอย่างยิ่งสำหรับกองเชียร์อาเซน่อลในปีนี้

แต่เพียงแค่ไม่ถึงเดือนผ่านพ้นไป สถานการณ์ของทีมได้เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที จากการพ่ายแพ้ 3 นัดรวดในทุกรายการตั้งแต่ แพ้ บาเซโลน่า ตามด้วยแพ้ทีม U21 ของ แมนยู และแมตช์ที่เจ็บปวดรวดร้าวสำหรับแฟน ๆ ทีมอาเซน่อลมากที่สุดเห็นจะเป็นการพ่ายแพ้ต่อทีมอย่าง สวอนซี คาบ้านตัวเอง จากการลุ้นแชมป์ตามหลังทีมนำอย่าง เลสเตอร์เพียง 2 แต้ม กลับกลายมาเป็นตามถึง 8 แต้มเมื่อสิ้นสุดนัดที่ 29

ตอนนี้ทำไปทำมาสถานการณ์ของทีมจากทีมลุ้นแชมป์กลายมาเป็นทีมต้องลุ้นอันดับ 4 แทนแล้ว เมื่อแมนยูที่อยู่ดี ๆ ก็ฟอร์มดีขึ้นมาชนะหลาย ๆ นัดติดกัน มีโอกาสที่จะไล่จี้เข้ามาใกล้เต็มที่เพื่อลุ้นแย่ง อันดับ แชมเปี้ยนลีค ไม่ต้องพูดถึงการเข้ารอบต่อไปใน แชมเปี้ยนลีค การพ่ายแพ้คาบ้าน 0-2 ต่อบาเซโลน่า ก็คงไม่ต้องพูดถึงการเข้ารอบต่อไปแทบจะ 100% แล้ว ถ้าสังเกตดีๆ  วงโคจรนี้ จะมีมาแทบทุกปีในช่วงหลัง ๆ ในช่วงเดือนนี้ เริ่มจากตกรอบแชมเปี้ยนลีก และ ฟอร์มจะหลุดต่อเนื่องในลีคจนหมดลุ้นแชมป์ในช่วงนี้  แต่ก็จะประคองทีมในช่วงปลายฤดูกาลจนสามารถคว้าโควต้าแชมเปี้ยนลีคไปได้อีกตามเคย

ก็คงเป็นวังวนเดิม ๆ สำหรับแฟน ๆ อาเซน่อล ที่คิดว่าปีนี้น่าจะเปลี่ยนเป็นทีมที่ได้แชมป์กะเขาซักที หลังจากรอคอยมากว่า 12 ปีนับจากการคว้าแชมป์ครั้งสุดท้ายในปี 2004 ปีนี้เป็นปีที่มีลุ้นแทบจะมากที่สุดแล้ว ทีมอื่น ๆ ล้วนสะดุดกันหมด แต่จนแล้วจนรอด สถานการณ์ก็ไม่ต่างจากปีที่ผ่าน ๆ มา การที่ได้เห็นทีมอย่าเลสเตอร์ กำลังนำเป็นจ่าฝูง โดยที่ทีมเรามีความพร้อมมากกว่าในขณะนี้ ถือเป็นภาพที่เจ็บปวดสำหรับแฟนอาเซน่อลทุกคน หลังจากปีนี้ คงเป็นปีที่ลุ้นยากขึ้นเรื่อย ๆ  เนื่องจากการมาของ โครต โค้ชอย่าง เป๊ป ที่จะมาคุมทีมแมนซิตี้ ในปีหน้า ก็คงใส่เต็มที่แน่ๆ  สำหรับปีหน้า ไหนจะลิเวอร์ที่ได้เจอร์เก้น คล็อป น่าจะปีนป่ายขึ้นมาได้ในปีหน้า หรือ แม้แต่เชลซีที่ยังไม่มีผู้จัดการทีมที่ชัดเจน แต่คาดว่าคงต้องเป็น big name แน่ ๆ  เสี่ยหมีคงจะลุยเต็มที่เหมือนกัน

มามองถึงทีมตัวเองแม้สถานการณ์ทางการเงินของทีมเราจะสุดยอดแค่ไหนก็ตาม แต่ในเมื่อมันไม่มี Trophy แชมป์ลีคมาให้แฟน ๆ ชื่นชมซักที เชื่อว่ากระแสการกดดันใน อาเซน เวนเกอร์ ลาออกคงมาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน ถึงแม้เขาจะทำผลงานได้ดีถ้าหากมองในเรื่องผลกำไร แต่ไม่ใช่สำหรับแฟน ๆ ทีมอาเซน่อลอย่างแน่นอน

Alexis is Coming

ถือว่าเป็นเกมส์ที่สนุกเลยทีเดียวสำหรับเกมส์กับ leicester ที่ king power stadium เมื่อคืนที่ผ่านมา  เกมส์นี้ทั้งสองทีมจัดตัวแบบ fullteam พร้อมแลกหมัดกันแบบเต็มที่ ซึ่งถือว่าต้องนับถือในตัว รานิเอรี่มากที่จัดลูกทีมให้ลุยสู้อาเซน่อลตั้งแต่ครึ่งแรกเลยทำให้เกมส์เปิดได้ขนาดนี้

อาจจะเป็นการประเมินที่ผิดพลาดของ leicester ไปซักเล็กน้อยเมื่อได้ประตูออกนำไปก่อน และเร่งเครื่องเอาประตูถัดไปทันที ซึ่งรูปเกมส์แบบนี้เป็นรูปเกมส์ที่ถนัดสำหรับอาเซน่อล ซึ่งไม่ค่อยได้พบเจอซักเท่าไหร่เพราะส่วนใหญ่ทีมฝั่งตรงข้ามจะเน้นรับเหนียวแน่นและรอสวนกลับในการเจอกับ อาเซน่อล แต่ ผิดคาดสำหรับ leicester ในเกมส์นี้คือบุกแหลกตั้งแต่นาทีแรกยันนาทีสุดท้าย ทำให้เกมส์ค่อนข้างแลกกันไปกันมา แต่ด้วยการจบสกอร์ที่คมกว่าของอาเซน่อล จึงทำให้สกอร์ออกมาอย่างที่เห็น และการเข้าฝักของ alexis ที่ในที่สุดก็ทำประตูได้ซะทีหลังจากรอมาถึง 7 เกมส์

เกมส์นี้ไม่ต้องบอกเลยว่า man of the match ก็ต้องยกให้เขาคนเดียวเลย ถือว่า alexis คนเดิมใน season ที่แล้วได้กลับมาแล้ว และทำให้อาเซน่อลก็พร้อมจะลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัวแล้วในฤดูกาลนี้เช่นกันหลังจากแต้มตามหลังจ่าฝูงอย่าง แมน ยูเพียงแค่ 3 แต้ม และมีโอกาสได้มาเจอกันนัดหน้าด้วย ถือว่าถ้าชนะสวย ๆ ก็มีโอกาสที่จะพลิกขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงได้เลยสำหรับอาเซน่อล

เมื่อมองที่รูปเกมส์สำหรับเกมส์นี้นั้นถือว่าทำได้ดีที่เอา วัลคอตมาเล่นหน้าเป้า เนื่องจาก leicester ที่บุกแหลกทำให้เปิดพื้้นที่มากในกองหลังของ leicester ทำให้ วัลคอตมีโอกาสสวย ๆ ในเกมส์นี้หลายครั้งจนได้มา 1 ประตู ซึ่งถือว่าในตอนนี้นั้นวัลคอต น่าจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุด สำหรับกองหน้าที่เรามีเนื่องจาก ชิรูด์นั้ ใช้โอกาสเปลืองมากเกินไป ถึงแม้เขาจะยิงได้เรื่อย ๆ แต่ก็คงไม่เหมาะการจะลุ้นแชมป์ซึ่งต้องมีกองหน้าที่ทำได้ระดับ 20 ประตูต่อ season ซึ่งหวังว่า 3 แนวรุกของทีมจะจูนกันติดเร็ว ๆ และเราอาจจะได้เห็นการถล่มประตูของอาเซน่อลเหมือนช่วงปี 2004 ในปีนี้ก็ว่าได้

Img Ref : football365.com

เมื่ออาเซน่อลสะดุด

ถือว่าไม่เป็นเรื่องที่ surprise แต่อย่างใดสำหรับผลการแข่งขันเมื่อคืน ที่ ไปเยือน สเปอร์ ทีมคู่รักคู่แค้นร่วมกรุงลอนดอน ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง เพราะเมื่อดูจากรูปเกมส์การแข่งขันนั้นแทบจะบอกได้ว่า ถูกพับสนามอยู่แทบฝั่งเดียว ซึ่งดูจากสถิติ โอกาส การทำประตูของสเปอร์ ซึ่งสูงกว่า 20 กว่าครั้ง ซึ่งเป็นเพียงไม่กี่ทีมที่สามารถ สร้างโอกาส การทำประตูในการแข่งขันกับทีมอาเซน่อลได้มากถึงขนาดนี้ ซึ่งยังดีที่ฟอร์มของนายประตู อย่าง ออสปิน่า นั้น เซฟช่วยไว้หลายครั้ง ไม่งั้น น่าจะโดนมากกว่านี้

สำหรับฟอร์มของทีมอาเซน่อลในช่วงตั้งแต่ เดือนธันวาคม นั้น ถือว่ามีผลงานที่ดีอย่างมาก และแทบจะดีที่สุดใน พรีเมียลีค ตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นมา ซึ่งเสียแต้มในการแพ้ เพียงแค่นัดเดียวที่ไปเยือน เซ้าแธมตันเท่านั้น  ก่อนหน้าเกมส์ นี้ ผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่าทีมน่าจะชนะสเปอร์ได้ เนื่องจากฟอร์มที่สวยหรูในช่วงหลัง ถึงแม้ในบางเกมส์ จะเล่นแบบไม่ค่อยประทับใจ ตั้งรับมากไปหน่อย ก็ถือว่า ดีกว่าครองบอลเยอะ ๆ แต่ไม่ชนะ ซึ่งก่อนหน้านี้ แฟนอาเซน่อล หลาย ๆ คนก็เริ่มมองถึงเส้นทางที่จะกลับไปลุ้นแชมป์อยู่ลึก ๆ เหมือนกันเพราะตามเชลซี ทีมจ่าฝูงอยู่แค่ 11 แต้มเท่านั้น หากชนะเมื่อวานก็จะกดดันไปเหลือเพียง 8 แต้ม  แต่ผลก็ไม่เป็นไปอย่างที่หวังกลายเป็นสเปอร์ ไล่ต้อนอยู่ฝั่งเดียว โอกาสการทำประตูมากมายของสเปอร์ และฟอร์มอันยอดเยี่ยม ของศูนย์หน้าดาวรุ่งอย่าง แฮรี่ เคน ที่เหมาะคนเดียวสองประตูในนัดนี้

เกมส์นี้ถ้ามองในแง่ของแท็กติก เวนเกอร์ น่าจะมีการวางแผนผิดพลาดมาเน้นตั้งรับมากเกินไป ซึ่งก็เข้าทางในช่วงแรกที่ออกนำไปก่อน 1-0 จากประตูของ โอซิล  แต่จะเห็นได้ว่า เกือบจะเสียหลายครั้งเหมือนกันในครึ่งแรก เวนเกอร์น่าจะมองเห็นและปรับเกมส์ในครึ่งหลัง แต่เปล่าเลยยังใช้แผนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งคิดว่า ถ้าจะบุกสู้ นั้น น่าจะสู้ได้ แต่ปล่อยให้สเปอร์เล่นบุกอยู่ฝ่ายเดียว การถอยกาซอล่า ลงมาเล่นต่ำในเกมส์ นี้ถือว่าเป็นผลเสียอย่างยิ่ง ซึ่งต่ำกว่านัดที่เล่นกับแมนซิตี้ ด้วยซ้ำ จะเห็นได้ว่าเกมส์ไม่ค่อยเดินไปข้างหน้าเลย จะอยู่ตรงกลางสนามอย่างเดียว ซึ่งโอกาศในการสวนกลับนั้นก็มีไม่มากเท่าไหร่ ทำให้ดูเกมส์ค่อนข้างอึดอัดไป  โอซิล ก็ดูไม่ค่อยจะแสดงศักยภาพเท่าไหร่ในเกมส์นี้ หากมีพื้นที่น้อย ๆ นั้น โอซิลค่อนข้างที่จะลำบาก ซึ่งเห็นได้ในหลายเกมส์แล้ว ที่โอซิลจะเล่นไม่ค่อยออก และก็เป็นไปตามที่คาด โดนตามตีเสมอ และ ยิงนำในที่สุด  ซึ่งถือว่าเป็นบทเรียนที่สำคัญของเวนเกอร์ในการเล่นเกมส์รับ ซึ่งไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่กับสไตล์ของอาเซน่อล ซึ่งจะเห็นว่างช่วงหลัง ๆ นั้นมาเน้นเกมส์รับแล้วสวนกลับหลายเกมส์มาก ก่อนหน้านี้ถือว่า ดี แต่เกมส์นี้ต้องยอมสเปอร์เค้าจริงๆ ค่อนข้างเล่นได้ดีกันทุกคน โดยเฉพาะหัวหอกตัวเป้าอย่าง แฮรี่ เคน ซึ่งเข้าใจแฟนเชลซี ที่เจอมาก่อนว่า คนนี้ทีเด็ดจริง ๆ ควรจะจับตายตั้งแต่แรก

อย่างไรก็ดี ดูตามโปรแกรมแล้ว อาเซน่อล ก็ จะเจอโปรแกรมที่ไม่ยากนักในช่วงเดือนนี้ และ เดือนหน้า ซึ่งไม่น่ามีปัญหาในการเก็บตามเพื่อไล่อันดับ พื้นที่แชมเปี้ยนลีค  ปีนี้คงหวังลุ้นแชมป์ยากแล้วจริง ๆ ก็ขอถ้วยมาประดับสโมสรซักใบ เหมือนปีที่แล้วก็ยังดีแล้วค่อยไปลุ้นแชมป์กันใหม่ใน ซีซั่นหน้า