จีนเริ่มควบคุมการใช้เทคโนโลยี Facial Recognition ในโรงเรียน

รัฐบาลจีนกล่าวว่ามีแผนที่จะควบคุมการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าและแอพอื่น ๆ ภายในโรงเรียน โดยเป็นการส่งสัญญาณมาจาก Lei Chaozi ผู้อำนวยการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของกระทรวงศึกษาธิการของจีน

ซึ่งตามรายงานของมหาวิทยาลัยในประเทศจีนกำลังทดลองเทคโนโลยีเพื่อติดตามการเข้าร่วมและพฤติกรรมของนักเรียนในชั้นเรียน

โครงการนำร่องได้พบกับคำวิจารณ์ออนไลน์อย่างมากมายในเรื่องความเป็นส่วนตัว ซึ่งตัวอย่างการใช้งานในมหาวิทยาลัย China Pharmaceutical (CPU) ในหนานจิงมณฑลเจียงซูโดยใช้เทคโนโลยีที่ประตูโรงเรียนและหอพักของนักศึกษาเพื่อติดตามพฤติกรรมของนักศึกษา

ซึ่งเมื่อปีที่แล้วมีเครือข่ายของอุปกรณ์ที่คอยสอดส่องนักเรียน ซึ่งสามารถแจ้งเตือนพฤติกรรมนักเรียนได้แบบเรียลไทม์เกี่ยวกับพฤติกรรมของนักเรียน ซึ่งได้มีการติดตั้งที่โรงเรียนมัธยมในเมืองหางโจว

Mr Lei บอกกับเว็บไซต์ thepaper.cn ว่าการใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าในมหาวิทยาลัยทำให้เกิดความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว

“เราต้องระวังให้มากเมื่อพูดถึงข้อมูลส่วนบุคคลของนักเรียน” Lei กล่าว (ภาษาจีน) “อย่าเก็บข้อมูลเหล่านี้ถ้ามันไม่จำเป็นและพยายามเก็บข้อมูลของนักเรียนนักศึกษาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้”

กระทรวงศึกษาธิการออกแถลงการณ์ใหม่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเกี่ยวกับการใช้แอปทุกประเภทที่ผู้ให้บริการด้านการศึกษาใช้ในการติดตามนักเรียน

โดยมีการแนะนำหน่วยงานด้านการศึกษาและโรงเรียนให้สอบถามความคิดเห็นของผู้ปกครองนักเรียนและครูก่อนจะนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้งานจริง

โดยแอปที่ใช้งานทั้งหมดจะต้องลงทะเบียนภายในสิ้นปีนี้ เพื่อสร้างฐานข้อมูลเพื่อการควบคุมที่ดีขึ้นรายงานกล่าว

เทคโนโลยีที่มีการถกเถียงกันอยู่ในตอนนี้นั้นรวมถึง”เครื่องแบบอัจฉริยะ” เพื่อตรวจสอบพิกัดของนักเรียนในโรงเรียนซึ่งตอนนี้มีการใช้งานอยู่ในโรงเรียนหลายแห่งในประเทศจีน รายงานจาก The Global Times

ประเทศจีนได้กลายเป็นผู้บุกเบิกในการใช้การจดจำใบหน้าและเทคโนโลยีการเฝ้าระวังอื่น ๆ ในโรงเรียน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมากว่า จะช่วยยกระดับการศึกษาของจีนได้จริงหรือไม่ เมื่อเทียบกับการต้องสูญเสียความเป็นส่วนตัวของนักเรียนที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในโลกออนไลน์ในขณะนี้นั่นเอง

References : https://www.bbc.com