Movie Review : Gemini Man (เจมิไน แมน)

ถือเป็นหนังที่ได้นักแสดงระดับแม่เหล็กอย่าง วิลล์ สมิธ กลับมารับบทนำอีกครั้งสำหรับหนังใหม่เข้าโรงในสัปดาห์นี้อย่าง Gemini Man (เจมิไน แมน) ที่กลับมารับงานบู๊ แอคชั่น อีกครั้งของพระเอกแนวหน้าของฮอลลีวูด อย่าง วิลล์ สมิธ

โดย Gemini Man ภาพยนตร์แอ็คชั่นทริลเลอร์สุดล้ำ โดย วิล สมิธ นั้นรับบทเป็น เฮนรี่ โบรแกน นักฆ่าฝีมือฉกาจซึ่งกลายเป็นเป้าหมายและถูกไล่ล่าโดยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการลับที่สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของเขาได้ทุกครั้ง

โดยภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย อั้งลี่ ผู้กำกับรางวัลออสการ์ชื่อดังในตำนาน ร่วมอำนวยการสร้างโดย เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์, เดวิด เอลลิสัน, ดานา โกลด์เบิร์ก และดอน แกรนเจอร์ ร่วมแสดงโดย แมรี่ เอลิซาเบธ วินสเตด, ไคลฟ์ โอเว่น และเบเนดิค หว่อง ต้องบอกว่าดูจากรายชื่อทั้งผู้สร้าง ผู้กำกับ และดารานำแล้ว ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

เรื่องนี้ผมค่อนข้างตั้งความหวังไว้สูง เพราะจากตัวอย่างของหนังนั้น น่าจะเป็นหนังที่สนุกที่ดูพล็อตแล้วมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ร่วมกับนักแสดงนำอย่าง วิลล์ สมิธ รวมถึง ไคลฟ์ โอเว่นแล้ว น่าจะพาหนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก

แต่เมื่อดูจบ ต้องบอกว่า มีความผิดหวังเป็นอย่างมาก กับเนื้อเรื่องที่แทบจะไม่มีอะไรเลย บทของหนังเรื่องนี้ถือว่าอ่อนมาก เมื่อเทียบกับผลงานของ อั้งลี่ ก่อนหน้านี้

มันเป็นหนัง action บู๊ล้างผลาญ แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก คล้าย ๆ กับ Terminator แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้บทจะอ่อนกว่าเสียด้วยซ้ำ เอาจริง ๆ สิ่งนึงที่ผมรู้สึกคือ มันเหมือนกับฉากในเกมเสียมากกว่า หลาย ๆ ฉากที่เราได้เห็นนั้น action มันส์ ๆ มันดูคล้าย ๆ การนำพาเราเข้าไปสู่โลกของเกมมาก ๆ

ที่ขัดใจอีกอย่าง ก็คือเรื่อง Skill ความสามารถ แม้จะเป็นตัวของพระเอกเองก็ตาม ซึ่งอุตส่าห์ปูเรื่องมาอย่างดีว่าเทพขนาดไหน แต่บางฉากกลับแพ้ได้แบบง่าย ๆ เหมือนบางส่วนของเนื้อเรื่องมันดูจะไม่สมเหตุสมผลกับสิ่งที่ต้นเรื่องปูเอาไว้ มันก็เลยอาจจะทำให้ดูขัดใจบ้าง

แต่อย่างน้อยหนังเรื่องนี้ก็สามารถโชว์ ฉาก action สุดเท่ห์ หลาย ๆ ฉากเรียกได้ว่าตั้งใจโชว์ด้านเทคนิคพิเศษอย่างเต็มที่ CG ที่ทำมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการย้อนวัยให้กับ วิลล์ สมิธนั้น ถือว่าทำได้ดี ซึ่งน่าจะใช้เทคโนโลยีลักษณะเดียวกับ Deepfakes ที่เป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้นั่นเอง แต่ก็มีบางฉากที่มันดูตลก ๆ อยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ยังถือว่าโอเคสำหรับ การเล่นซ้อนตัวละครใบหน้าเดียวกันที่สลับระหว่าง วัยหนุ่ม กับ วัยแก่

และที่สำคัญตัวร้ายอย่าง ไคลฟ์ โอเวน เองก็แทบจะไม่ได้แสดงความสามารถอะไรออกมาเลยด้วยซ้ำ คือ เสียดายตรงเนื้อเรื่องเป็นอย่างมาก เพราะหากมีเนื้อเรื่องที่ดีกว่านี้ นั้น มาประกอบกับ action บู๊ ด้วย วิลล์ สมิธ ในเรื่องนี้ น่าจะเป็นหนังที่สนุกกว่านี้ และด้วยเนื้อเรื่องที่แทบจะไม่มีอะไร แต่ยังยืดความยาวของหนังเป็นเกือบ 2 ชม. มันทำให้บางช่วงของหนังมันดูน่าเบื่อเสียด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ ก็ต้องทำใจไว้หน่อยนะครับ ว่ามันอาจจะไม่ได้สนุกเหมือนตัวอย่างที่ตัดมาให้เราดู และ คุณอาจจะผิดหวังกับหนังเรื่องนี้ (ความเห็นส่วนตัว) เหมือนที่ผมเจอก็เป็นได้ครับ