Movie Review : เพื่อนที่ระลึก

Featured Video Play Icon

Review

สำหรับผลงานหนังผีไทยที่ชื่นชอบมากที่สุดอยู่ในลำดับต้น ๆ คือ ลัดดาแลนด์ ของผู้กำกับ มากความสามารถอย่าง จิม โสภณ ศักดาพิศิษฎ์ การกลับมากำกับอีกครั้งกับหนังผีอย่าง The Promise หรือ เพื่อนที่ระลึกในชื่อไทย จึงทำให้ผมติดตามข่าวคราวมาตลอดกับหนังเรื่องนี้

โดยเฉพาะ trailer ที่ออกมาน่าดึงดูดให้ไปชมในโรงภาพยนต์อย่างยิ่ง มีการนำบทไปผูกกับเหตุการณ์วิกฤติเศรษฐกิจ เมื่อปี 2540 ทำให้หนังเกิดความน่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก และแถมยังมาในนาม GDH ซึ่งไม่ค่อยสร้างหนังที่ทำให้ผิดหวังซักเท่าไหร่

ก่อนที่จะได้เข้าไปชมจริง ผมติดตามกระแสใน social network มีทั้งด้านบวก และ ด้านลบ ถ้ามองด้วยใจเป็นกลางจริง ๆ จะออกไปในแนวทางลบเสียมากกว่า ผมจึงเริ่มลังเลที่จะเข้าไปดูในโรงดีหรือไม่ ประกอบกับหนังผี แฟนผม ไม่เคยสนใจอยู่แล้ว จะไปดูคนเดียวก็ดูน่ากลัวเกินไป

แต่ก็ถือเป็นโชคดี ที่พ่อและแม่ มาจากต่างจังหวัดพอดี ผมจึงชวนท่านทั้งสองไปดูเป็นเพื่อน เพราะช่วงหลัง เริ่ม พา พ่อกับแม่ เข้าโรงหนังมากขึ้น หลังจากที่ท่านไม่ได้เข้าโรงหนังมาเป็นเวลานาน

เรื่องนี้ผมให้คนที่แบกทั้งเรื่องคือ บี น้ำทิพย์ ตัวจริง ที่รับบท บุ๋ม อดีตเด็กสาวที่ครอบครัวถูกวิกฤต เศรษฐกิจในช่วงปี 2540 เล่นงาน ทำให้ต้องเปลี่ยนสภาพจากครอบครัวเศรษฐี กลายเป็น เป็นครอบครัวที่แทบจะล้มละลาย ซึ่งในช่วงแรกนั้น มีการผูกเรื่องกับเหตุการณ์ปี 2540 ได้อย่างน่าสนใจมาก ๆ รวมถึง location ในการใช้ตึกร้างที่สาธร ที่เปรียบเหมือน มรดกของความล่มสลายของประเทศไทยช่วงปี 40 ที่ยังมีให้เห็นอยู่จนถึงปัจจุบัน ทำให้คน ระลึกถึงเหตุการณ์ในยุคนั้นได้อย่างดี

หนังเรื่องนี้ได้พาเราย้อนไปยังช่วงปี 40 ยุคที่ เรายังใช้ pager เพื่อส่งข้อความหากัน รวมถึง วัฒนธรรม walkman ที่ค่อนข้างบูมในช่วงขณะนั้นพอดี ช่วงต้นของเรื่องดำเนินไปได้อย่างน่าสนใจ และมีความสมเหตุสมผลของบท ซึ่งทำให้ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้คงเป็นอีกผลงานมาสเตอร์พีซ ของ คุณ จิม อีกแน่ ๆ

แต่กลับกันเลย หลังจากหนังดำเนินไปถึงช่วงปัจจุบันนั้น ที่บุ๋ม ได้กลับมาตั้งหลักตั้งตัวได้ และมีลูกสาว 1 คน ที่รับบทโดย ลิลลี่ จาก the face season 2 ซึ่งน่าจะเข้าขากันได้กับ บี น้ำทิพย์ เนื่องจาก บี เป็น mentor ของ ลิลลี่ใน face season 2 เองด้วย โดยทางลิลลี่นั้นรับบทเป็น เบลล์ ลูกสาวของ บุ๋ม ที่กลายมาเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สาว ที่สามารถผ่านวิกฤตมาได้

จากจุดแข็งจากการที่เคยร่วมงานมาก่อน ของ บี กับ ลิลลี่ แต่กลับกลายมาทำให้ลิลลี่ เป็นจุดอ่อนของหนังเรื่องนี้อย่างชัดเจน ถ้ามองอย่างเป็นกลางเราจะเห็นความห่างชั้นทางการแสดงที่มากเกินไประหว่าง บี กับ ลิลลี่ มันจึงทำให้ดูไม่สมดุล ในการแสดงที่ต้องเข้าบทกัน จึงรู้สึกขัดใจกับการแสดงของน้อง ลิลลี่ เป็นอย่างมาก อาจจะเป็นเพราะน้องยังใหม่ในการแสดงหนัง แต่น่าจะเป็นการเลือกตัวละครที่พลาดของผู้กำกับ ทำให้หนังขาดอรรถรส บางอย่างไป และทำให้บี ต้องแบกหนังเรื่องนี้อยู่แทบจะคนเดียวทั้งเรื่อง

สำหรับเรื่องผี ต้องยอมรับว่า ฉากที่ทำให้กระตุก นั้นก็ทำได้ตามมาตรฐานของ คุณ จิม คล้าย  ๆ กับ ลัดดาแลนด์ คือ เรารู้ล่วงหน้าว่าจะเป็นฉากแนวกระตุกผี ไม่ได้มาแบบเซอร์ไพรซ์แต่อย่างใด แต่ก็ทำให้คนดูต้องกดดันกับฉากนั้น ๆ ได้อยู่ดี ทั้งที่รู้ว่าฉากนี้ผีออกแน่นอน แม้จะไม่เป็นตัวตนแบบชัดเจนให้เราเห็น แต่ก็ถือว่าสอบผ่านในเรื่องความน่ากลัวของผี ได้อย่างดีเยี่ยม

ส่วนภาพรวมของบทนั้น ต้องเรียนตามตรงว่าเรื่องนี้สอบตกเป็นอย่างมาก คือไม่ได้ในระดับมาตรฐานของ GDH เลย ทำเป็นเหมือนหนังผีดาด ๆ ทั่วไปมากกว่า บทค่อนข้างไม่ลงตัว หนังพยายามลากการแสดงของคุณบีไปเรื่อย ๆ และสุดท้ายก็พยายามจบแบบงง ๆ ซึ่งมันควรจะดีกว่านี้ตามมาตรฐานของ GDH ซึ่งหลายคนก็ได้พูดถึงประเด็นนี้กันอย่างกว้างขวางในสื่อ social media

สุดท้ายต้องบอกตามตรงเลยว่า ผม ค่อนข้างผิดหวังกับหนังเรื่องนี้ คือตั้งความหวังกับหนังเรื่องนี้ไว้สูง แต่ก็ต้องมาผิดหวังในหลาย ๆ ส่วนที่ทำมาได้ไม่ลงตัว หลัก ๆ เลยคือบทของหนังคือ ไม่สมกับเป็น GDH ทำเลย แต่ถ้าหวังจะดูฉากกระตุก ผีออกมาให้ตกใจ อันนี้ก็พอดูได้ ก็ไม่ได้ถึงกับน่าเกลียดแต่อย่างใด ขนาดพ่อผมดูเรื่องนี้ยังหลับได้ ก็น่าจะรู้ว่าหนังเรื่องนี้เป็นยังไง และมั่นใจว่าคงทำรายได้ ไม่ถล่มทลาย เหมือนหนังเรื่องอื่นๆ  ของ GDH อย่างแน่นอน

เก็บตกจากหนัง

  • บี น้ำทิพย์ ที่รับ บทบุ๋ม นั้น แทบจะแบกหนังไว้คนเดียวทั้งเรื่อง
  • Location ของหนังที่ถ่ายทำนั้นถือว่าน้อยไปหน่อย มีอยู่ไม่กี่ฉาก
  • ผมมองว่าการให้ลิลลี่ มารับบท เบลล์ นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดพลาดย่างยิ่ง น้องไม่เหมาะกับบทนี้เลย
  • ภาพรวมของบทหนัง ไม่ผ่านมาตรฐานที่ GDH เคยสร้างมา

คะแนน

6/10

สรุป
“ถ้าไม่ได้หวังอะไรมาก ก็ดูไปเถอะ เป็นแค่หนังผีมาตรฐานกลาง ๆ เรื่องนึงเท่านั้น”

Movie Review : OT ผี Overtime


Review

หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ประทับใจตั้งแต่ภาคแรกแล้ว ซึ่งปรกติก็ได้ดูหนังผีมาเยอะ ซึ่งหนังเรื่องนี้มีเนื้อเรื่องที่แหวกแนวมาก ๆ โดยการนำเรื่องผีมาหลอกคนดู ว่าอันไหนผีจริง หรือ อันไหนผีปลอม ซึ่งโดยรวมนั้นทำออกมาได้ค่อนข้างดี

หนังเรื่องนี้นำแสดงโดย ชาคริต แย้มนาม รันบท การันต์  , เรย์ แม็คโดนัล รับบท ที (จากภาคแรก) และ อนันดา เอฟเวอริ่งแฮม รับบท บดินทร์  เพื่อนซี้ ที่เปิดบริษัท organize ร่วมกัน และ คอยแกล้งพนักงานที่ทำ OT ( ในภาคแรก) ส่วนเนื้อเรื่องในภาคนี้ นั้น จะเป็นการแกล้ง รุ่นน้องที่กำลังจะแต่งงาน จากภาคแรกนั้นทำให้คนดูหลงกลไปกับผู้กับกับไปมากแล้วนั้น ซึ่งภาคนี้ก็ไม่ต่างกัน มีการหลอกเรื่องผีจริงกับผีปลอม แทบจะทั้งเรื่องโดยเฉพาะ ช่วงท้ายนั้นจะมาเป็นชุด ๆ ทำให้คนดูต้องคิดต่อว่า อันไหนจริง อันไหนปลอม ซึ่งถือว่า หลอกคนดูได้อย่างแยบยลมาก ๆ ซึ่งผมก็เป็นหนึงในนั้นเช่นกัน เป็นหนังที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ง่าย ๆ  เรื่องนี้ ถือว่าทำออกมาได้ดีเยี่ยม แต่ production อาจจะไม่ perfect เท่าที่ควรถ้าเทียบกับหนังค่าย GTH  ซึ่งหากทำบทที่กระชับกว่านี้นั้น น่าจะเป็นหนังคลาสสิค เรื่องหนึ่งเลยทีเดียวของหนังไทย

เก็บตกจากหนัง

  • หนังมีเรื่องเหตุการณ์ต่อเนื่องมาจากภาคแรก คนที่ไม่ได้ดูภาคแรกอาจจะไม่เข้าใจในบางจุด
  • โดยรวมนั้นหลอกคนดูได้อย่างแยบยลเหมือนภาคแรกไม่มีผิด
  • ภาคนี้ ชาคริต มาในตอนท้ายเรื่องเท่านั้น

คะแนน

8/10


สรุป
“เป็นหนังผีแหวกแนวที่ควรหาโอกาสดู”