รู้จักศิลปินผู้สร้างงานศิลปะผ่าน Features ใหม่ Google Lens

หากคุณกำลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟและคุณเห็นจิตรกรรมฝาผนังที่น่าหลงใหลอยู่บนผนัง คุณสามารถใช้สมาร์ทโฟนของคุณเพื่อระบุถึงศิลปินที่อยู่เบื้องหลังผลงานดังกล่าวได้แล้วในขณะนี้ผ่าน คุณลักษณะใหม่ของ Google Lens

ซึ่งตอนนี้ได้มีการทดสอบ Features ใหม่นี้ ในเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะสามารถรับรู้งานศิลปะที่คุณเห็นด้านนอกของแกลเลอรี่และสามารถบอกวิธีการติดต่อกับศิลปิน

ในการใช้คุณสมบัตินี้นั้นเพียงแค่ไปที่แอพ Google บนสมาร์ทโฟนของคุณและเปิด Lens จากนั้นเล็งกล้องไปที่งานศิลปะที่คุณสนใจแล้วแตะจุดสีฟ้า โดยจะมีการแสดงแถบเลื่อนพร้อมข้อมูลเกี่ยวกับงานศิลปะนั้น ๆ ซึ่งคุณสามารถแตะเพื่อดูประวัติของศิลปินรวมถึงรายละเอียดการติดต่อกับพวกเขาได้

คุณลักษณะนี้สร้างขึ้นโดยความร่วมมือกับ Wescover ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการค้นหาศิลปะแบบดิจิทัล และงานศิลปะที่ค้นหาได้นั้น จะแสดงบนแผนที่ของซานฟรานซิสโก หากคุณอยากจะออกล่าผลงานด้านศิลปะ รวมถึงงานที่จัดแสดงอยู่ที่ชั้นล่างของพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ของเมืองซานฟรานซิสโก

Rachely Esman ซีอีโอของ Wescover กล่าวว่า เธอหวังว่าโครงการนี้จะช่วยให้ผู้คนเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะและจะช่วยยกระดับโปรไฟล์ของศิลปินที่สร้างผลงานศิลปะที่มีอยู่รอบเมืองได้   “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะให้เครดิตแก่ผู้สร้างงานศิลปะเหล่านี้ที่พวกเขาสมควรได้รับมัน” เอสแมนกล่าวในแถลงการณ์ “ ด้วยการจับคู่ที่ตรงกันเหล่านี้เราช่วยผู้บริโภคเชื่อมโยงกับศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบ ซึ่งพวกเขาสามารถไว้วางใจผลลัพธ์ที่พวกเขาได้จาก Features ใหม่นี้

References : 
https://www.engadget.com/2019/07/09/google-lens-art-discovery/

Geek Monday EP8 : AI กับงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์

การนำ AI มาช่วยเหลือ แต่ มีหลาย ๆ งานที่นำร่องไปก่อนแล้วเช่น  งานถ่ายภาพบุคคล , เขียนบทกวีและเขียนสคริปต์  ที่ได้มีการนำเอา AI มาช่วยเหลือมนุษย์ในการทำงาน

แต่ถ้าเทียบกับสาขาด้านวิทยาศาสตร์ ก็ต้องบอกว่า ยังเป็นแค่ ก้าวเล็ก ๆ ของ AI เท่านั้นที่จะมาแข่งกับมนุษย์ ในงานด้าน ศิลปะ ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ และ idea ต่าง ๆ มาประกอบกัน ซึ่ง เป็นเรื่องยาก ที่ AI จะสามารถมาแข่งกับมนุษย์ได้

แต่ในอนาคตนั้นเราก็ไม่สามารถมั่นใจได้หรอกว่า งานวิจัย และพัฒนาด้าน AI ใน Lab ต่าง ๆ ทั่วโลก กำลังบรรจงใส่ความคิดสร้างสรรค์ เข้าไปใน AI กันอยู่ และสุดท้าย ก็สามารถที่จะมาแข่งกับมนุษย์ ได้ เหมือนกับที่เห็นในหลาย ๆ งานในสาขาวิทยาศาสตร์

ปิกัสโซ่ หลบไป! มารู้จัก Ai-da สุดยอดหุ่นยนต์แห่งงานศิลปะ

หุ่นยนต์สามารถทำงานที่สร้างสรรค์ด้านศิลปะได้หรือไม่? เจ้าของแกลเลอรี่ชาวอังกฤษ Aidan Meller หวังที่จะหาวิธีตอบคำถามนี้ กับ Ai-Da ซึ่งสามารถดึงดูดผู้คนจากสายตาด้วยดินสอในมือผ่านงานศิลป์ของหุ่นยนต์

Meller กำลังดูแลขั้นตอนสุดท้ายของการสร้างของ Ai-Da โดยวิศวกรที่ Engineered Arts ที่ Cornwall

เจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ถูกเรียกว่า Ai-Da – ได้รับการตั้งชื่อตามนักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษและผู้บุกเบิกคอมพิวเตอร์ Ada Lovelace – “ศิลปินหุ่นยนต์ที่มีความสมจริงเป็นพิเศษรายแรกของโลก” และความใฝ่ฝันของเธอคือการแสดงงานของหุ่นยนต์ให้เทียบเท่ากับมนุษย์

Ai Da ชักภาพร่วมกับงานศิลปะของเธอ
Ai Da ชักภาพร่วมกับงานศิลปะของเธอ

“ Ai-Da กำลังจะวาดรูปจริง ๆ แล้วเราหวังว่าจะสร้างเทคโนโลยีสำหรับหุ่นยนต์ในการวาดภาพ” เมลเลอร์กล่าวหลังจากเห็น Ai-Da ซึ่งถูกนำมาใช้งานอย่างระมัดระวัง โดยผู้เชี่ยวชาญแต่ละคน

“ แต่ในฐานะศิลปินการแสดงเจ้า Ai-Da จะสามารถมีส่วนร่วมกับผู้ชมและรับการสื่อสารจริง ๆ ของคำถามเกี่ยวกับเทคโนโลยีในวันนี้”

หัวหุ่นยนต์โครงร่างของ Ai-Da อาจจะตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานก็จริง แต่การเคลื่อนไหวของมันดูมีชีวิตมาก

กล้องในดวงตาของมันนั้นจะรู้จักคุณสมบัติของความเป็นมนุษย์ – มันจะสบตาและติดตามคุณไปรอบ ๆ ห้อง โดยจะทำการเปิดและปิดปากของมันตามที่คุณทำ หากคุณเข้าใกล้มันเกินไปแล้วมันก็จะถอยห่างกระพริบตาราวกับกำลังตกใจเหมือนมนุษย์

ผู้สร้างของ Ai-Da กล่าวว่ามันจะมีร่างกายแบบ “ RoboThespian” ที่มีการเคลื่อนไหวที่แสดงออกและมันจะพูดคุยและตอบคำถามกับมนุษย์ได้

“ มีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ใน Computer Vision ที่สามารถทำให้หุ่นยนต์ติดตามใบหน้า เพื่อจดจำใบหน้าและเลียนแบบการแสดงออกของคุณ” Marcus Hold วิศวกรออกแบบและผลิตจาก Engineered Arts กล่าว

ผู้ผลิตของ Ai-Da กำลังใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์เหมือนมีชีวิต“ Mesmer” สำหรับส่วนหัวของมันและเมื่อเสร็จแล้วเธอจะมีลักษณะแบบผสมโดยมีผมยาวสีเข้ม ผิวซิลิโคน มีฟันและเหงือก ที่ใช้เทคโนโลยี 3D Printing

“ (Mesmer) เป็นการรวมตัวกันของการพัฒนาซอฟต์แวร์กลศาสตร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อสร้างใบหน้าที่เหมือนจริงด้วยท่าทางเหมือนจริงใน size ขนาดเล็กของมนุษย์” Hold กล่าว

Ai-Da จะนำเสนอนิทรรศการครั้งแรกของมันที่ชื่อว่า “ Unsecured Futures” ในเดือนพฤษภาคมที่ University of Oxford และภาพร่างของงานด้านศิลปะของมันจะปรากฏในลอนดอนในเดือนพฤศจิกายนนี้

References : 
https://www.reuters.com/article/us-tech-robot-art/the-new-picasso-meet-ai-da-the-robot-artist-idUSKCN1Q0001

มาลองฟังเพลงที่แต่งจาก AI กันเถอะ

ที่ผ่านมาผมได้เขียน Blog ที่เกี่ยวข้องกับ AI ในหลาย ๆ แขนง เช่น การลงทุน การแพทย์ หรือ การตลาด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์แทบจะทั้งสิ้น แต่ในสายงานด้านศิลปะ นั้น ยังไม่ค่อยเห็นการนำ AI เข้ามาพัฒนามากนัก

เนื่องจากงานด้านศิลปะ เป็นงานที่ยากสำหรับการจะใช้ AI มาช่วยเหลือ เพราะมันเป็นศาสตร์ ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งต่างจากด้าน วิทยาศาสตร์ ที่สามารถนำข้อมูลต่าง ๆ มาวิเคราะห์ได้

แต่ Ash Koosha นักแต่งเพลงชาวอิหร่าน ที่หลงไหลในเทคโนโลยี ได้ทำการทดลองบางสิ่งออกมา โดยการเป็นการร่วมมือกับ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ในการแต่งเพลงขึ้นมา ซึ่งต้องบอกว่าผลที่ออกมานั้น น่าสนใจเป็นอย่างมาก

ซึ่งในวันศุกร์ที่แล้วทาง Ash Koosha ได้ปล่อยอัลบั้มที่ 4 ของตัวเอง ที่ใช้ชื่อว่า “Return O” ซึ่งมี Single พิเศษที่ทำการแต่งโดย AI ที่ใช้ชื่อว่า Yona ซึ่งเป็น AI ที่ทาง Koosha ได้สร้างขึ้น โดยเป็นการสร้างผลงานร่วมกันระหว่างมนุษย์ กับ AI เป็นครั้งแรก

ซึ่ง Yona นั้นเป็น AI Software ที่ทำการประมวลผล ตัวโน๊ต ดนตรีต่าง ๆ รวมถึง การใส่คำร้อง ที่เป็นการ Training มาจาก Koosha โดยตรง ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Machine Learning

ซึ่งอัลบั้ม Return O ได้รับคะแนน 6/10 จาก Pitchfork นิตยสารด้านเพลงชื่อดัง และได้กล่าวถึงผลงานของอัลบั้มดังกล่าว ว่า เป็นอัลบั้มที่น่าสนใจ แต่ เรื่องทักษะการแต่งเนื้อเรื่องด้วย Yona อาจจะต้องมีการปรับปรุงทักษะบางอย่าง ให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

อนาคตของวงการศิลปะกับ AI

สำหรับ Yona นั้นไม่ใช่เป็นผลงานแรกที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ ที่เป็นการนำ AI มาช่วยเหลือ แต่ มีหลาย ๆ งานที่นำร่องไปก่อนแล้วเช่น  งานถ่ายภาพบุคคล , เขียนบทกวีและเขียนสคริปต์  ที่ได้มีการนำเอา AI มาช่วยเหลือมนุษย์ในการทำงาน

แต่ถ้าเทียบกับสาขาด้านวิทยาศาสตร์ ก็ต้องบอกว่า ยังเป็นแค่ ก้าวเล็ก ๆ ของ AI เท่านั้นที่จะมาแข่งกับมนุษย์ ในงานด้าน ศิลปะ ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ และ idea ต่าง ๆ มาประกอบกัน ซึ่ง เป็นเรื่องยาก ที่ AI จะสามารถมาแข่งกับมนุษย์ได้ แต่ในอนาคตนั้นเราก็ไม่สามารถมั่นใจได้หรอกว่า งานวิจัย และพัฒนาด้าน AI ใน Lab ต่าง ๆ ทั่วโลก กำลังบรรจงใส่ความคิดสร้างสรรค์ เข้าไปใน AI กันอยู่ และสุดท้าย ก็สามารถที่จะมาแข่งกับมนุษย์ ได้ เหมือนกับที่เห็นในหลาย ๆ งานในสาขาวิทยาศาสตร์

References : futurism.com

ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
Fanpage : facebook.com/tharadhol.blog
Blockdit : blockdit.com/tharadhol.blog
Twitter : twitter.com/tharadhol
Instragram : instragram.com/tharadhol