Frankenstein ใกล้เป็นจริงเมื่อเทคโนโลยีอาจจะทำให้เราสามารถผ่าตัดเปลี่ยนหัวได้ในอีก 10 ปี

ความคิดในการย้ายหัวมนุษย์เข้าสู่ร่างกายของบุคคลอื่น อาจจะฟังดูคล้ายกับนิยายวิทยาศาสตร์  แต่ บรูซ แมตธิวนักประสาทวิทยาจากอังกฤษ บอกว่าในไม่ช้าเรื่องดังกล่าวที่สุดเหลือเชื่อจะกลายเป็นกระบวนการในชีวิตจริง

บรูซ แม็ตธิว – ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยฮัลล์ ในประเทศอังกฤษ อธิบายว่าหัวของมนุษย์นั้นสามารถปลูกถ่ายเข้าไปสู่ร่างกายของบุคคลอื่นได้หากมีการปลูกถ่ายไขสันหลังทั้งหมดพร้อมกัน

“ ตอนแรกความตั้งใจของเราคือการระดมสมองความคิดและมันดูค่อนข้างงี่เง่า แต่หลังจากนั้นก็รู้ว่ามันไม่น่าจะเป็นความจริง โดยหากคุณปลูกถ่ายสมองและเก็บสมองและไขสันหลังไว้ด้วยกันนั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้จริง ๆ” เขากล่าว

“ไขสันหลังเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งที่สุดเท่าที่จะจินตนาการได้ คุณต้องให้สมองเชื่อมต่อกับไขสันหลัง ความคิดที่คุณจะตัดไขสันหลังนั้นไร้สาระอย่างสิ้นเชิง “

เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำและในขณะที่ความก้าวหน้าล่าสุดได้เปิดความเป็นไปได้ของการแนบเส้นประสาทที่ถูกตัดแยกแต่ละส่วน ทำให้โอกาสของการเชื่อมต่อกระดูกสันหลังทั้งหมดนั้นก็ยังคงอยู่ไกลเกินเอื้อม

แต่ด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดที่พัฒนาขึ้นในอัตราที่รวดเร็ว แม็ตธิว กล่าวว่า “มันก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า”

“ ในขณะนี้คุณสามารถเชื่อมต่อได้หนึ่งหรือสองเส้นประสาทเพียงเท่านั้นด้วยศัลยแพทย์ที่เป็นมนุษย์ แต่ด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าเราจะสามารถเชื่อมต่อเส้นประสาทได้ ในระดับ 200 เส้น” เขาอธิบาย

แน่นอนว่ามีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนมากมายในกระบวนการนี้เนื่องจากร่างกายของผู้รับอาจจะปฏิเสธอวัยวะจากผู้บริจาค ในขณะที่แมทธิวเอง ก็ไม่ได้หาคำตอบทั้งหมดในรายละเอียด โดยเขาบอกว่าการถ่ายโอนแบคทีเรียในลำไส้พร้อมกับหัวและไขสันหลัง และการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด อาจช่วยให้มั่นใจว่าการปลูกถ่ายเป็นที่ยอมรับมากขึ้น

เซอร์จิโอ คานาเวโร่ ศัลยแพทย์ชาวอิตาลีได้ใช้เวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาในการพยายามปลูกถ่ายศีรษะมนุษย์

ในปี 2017 เขาประกาศว่าเขาได้ประสบความสำเร็จในการทำการปลูกถ่ายหัวของศพมนุษย์คนหนึ่งไปยังอีกคน และก่อนหน้านี้อ้างว่าได้ทำในรูปแบบเดียวกันให้กับลิง 

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เห็นได้ชัดว่า ณ ปัจจุบัน มีผู้บริจาคมนุษย์ที่เต็มใจจะทดลองกับเทคโนโลยีดังกล่าว และแน่นอนก็มีคนหลายพันคนทั่วโลกที่ถูกแช่แข็งไว้ในสารชนิดพิเศษ และรอคอยความหวังว่าเทคโนโลยีแห่งอนาคตจะสามารถฟื้นชีวิตพวกเขาได้ ซึ่งบางทีมันอาจจะเกิดขึ้นในวันหนึ่งในอนาคตนั่นเอง

ความคิดเห็นเพิ่มเติมจากผู้เขียน

แม้ข่าวดังกล่าวนั้น จะดูเป็นเหมือนเพียงแค่ข้อสันนิษฐานจาก บรูซ แม็ตธิว นักประสาทวิทยา ชาวอังกฤษเพียงเท่านั้น ที่เขาได้วิเคราะห์จากเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

ซึ่งแน่นอนว่า เทคโนโลยีทางการแพทย์นั้น เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ทั้งด้าน ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ เซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่มีความละเอียดสูง ที่สามารถชอนไช เข้าไปในร่างกายเราได้แบบละเอียดกว่า การใช้แพทย์ที่เป็นมนุษย์

ซึ่งถ้าถามว่า อีก 10 ปีนั้น เรื่องดังกล่าวเป็นไปได้มั๊ย ก็ต้องบอกว่า มีโอกาสที่จะเป็นไปได้สูง เพราะมองในเรื่อง Device ต่าง ๆ ที่มีการพัฒนา ร่วมกับหุ่นยนต์ หรือ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

ซึ่ง ในอีก 10 ปี หากเรื่องนี้ทำสำเร็จนั้น อาจจะไม่ใช่เกิดจากฝีมือของมนุษย์อีกต่อไปก็ได้ เพราะหุ่นยนต์สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้เอง และวิเคราะห์ผ่านข้อมูลต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีทางด้าน AI ที่่ล้ำหน้าในยุคนั้น

เพราะอย่าลืมว่าเมื่อก่อนเราก็ไม่เคยคิดว่า เราจะไปดวงจันทร์ได้ จะใช้มือถือโทรคุยกันได้ หรือ อะไรต่าง ๆ อีกมากมายที่คนยุคก่อนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่มันก็ล้วนเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น และที่สำคัญ ด้วยอัตราเร่งของการพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงข้อมูลข่าวสาร ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้มันอาจจะเกิดขึ้นเร็วจนเราไม่ทันตั้งตัวก็เป็นได้ครับ

References : https://www.iflscience.com/health-and-medicine/this-is-how-human-head-transplants-could-be-achieved-according-to-a-neurosurgeon/ https://www.dailyrecord.co.uk/news/science-technology/human-head-transplants-could-just-21148910 https://www.thesun.co.uk/news/10607168/frankenstein-like-head-transplants-happen-by-2030/ https://www.express.co.uk/news/world/677519/human-head-transplant-real-frankenstein-world-first-surgery