Geek Life EP121 : เปลี่ยนชีวิตด้วยสิ่งเล็กๆ เรื่องจริงของคนที่พลิกชีวิตด้วยการ ‘เปลี่ยนแปลงวันละนิด’ จนประสบความสำเร็จ

ในการพูดบนเวที Ted Talks Stephen Duneier ได้เริ่มต้นด้วยคำถามที่ชวนให้ผู้ชมสงสัย – “มีใครคิดว่าสามารถวาดภาพ Brad Pitt ด้วยดินสอและกระดาษได้บ้าง?” จากนั้นเขาสัญญาว่าจะสอนวิธีการและมอบทักษะที่จำเป็นในการเป็นศิลปินระดับโลกภายในเวลาเพียง 15 วินาที

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Life’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/mpz55cce

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/ntj7efvy

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/Pp3nEJOFYEQ

เปลี่ยนชีวิตด้วยสิ่งเล็กๆ : เรื่องจริงของคนที่พลิกชีวิตด้วยการ ‘เปลี่ยนแปลงวันละนิด’ จนประสบความสำเร็จ

ในการพูดบนเวที Ted Talks Stephen Duneier ได้เริ่มต้นด้วยคำถามที่ชวนให้ผู้ชมสงสัย – “มีใครคิดว่าสามารถวาดภาพ Brad Pitt ด้วยดินสอและกระดาษได้บ้าง?” จากนั้นเขาสัญญาว่าจะสอนวิธีการและมอบทักษะที่จำเป็นในการเป็นศิลปินระดับโลกภายในเวลาเพียง 15 วินาที

แนวคิดหลัก: จากสี่เหลี่ยมสีเทาสู่ภาพศิลปะ

Stephen เริ่มต้นด้วยการถามคำถามง่ายๆ ว่ามีใครวาดรูปสี่เหลี่ยมสีเทาได้บ้าง ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนทำได้ เขาชี้ให้เห็นว่าถ้าคุณวาดสี่เหลี่ยมสีเทาได้หนึ่งรูป คุณก็สามารถวาดได้หลายรูป และนี่คือหลักการพื้นฐานที่ศิลปินระดับโลกอย่าง Chuck Close ใช้ในการสร้างผลงาน

การประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง: กรณีศึกษา Novak Djokovic

เพื่อพิสูจน์แนวคิดนี้ Stephen ยกตัวอย่างความสำเร็จของ Novak Djokovic นักเทนนิสระดับโลก ที่เริ่มต้นจากอันดับ 680 ของโลกในปี 2004 และก้าวขึ้นสู่อันดับ 3 ภายในเวลาเพียง 3 ปี ด้วยการปรับปรุงอัตราความสำเร็จในการตัดสินใจเพียงเล็กน้อยจาก 49% เป็น 52% และต่อมาเมื่อก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก เขาปรับปรุงอัตราความสำเร็จเป็น 55%

ประสบการณ์ส่วนตัว: จากนักเรียนเกรด C สู่ความสำเร็จ

Stephen เล่าถึงประสบการณ์ส่วนตัวว่าตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมปลาย เขาเป็นนักเรียนที่ได้เกรด C และ C- อย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากไม่สามารถมีสมาธิได้นานเกิน 5-10 นาที

แต่เมื่อขึ้นปีสาม เขาตัดสินใจเปลี่ยนแปลงด้วยการยอมรับข้อจำกัดของตนเองและปรับวิธีการเรียน โดยแบ่งงานเป็นส่วนย่อยๆ ที่ใช้สมาธิเพียง 5-10 นาที ส่งผลให้เขากลายเป็นนักเรียนเกรด A และประสบความสำเร็จในการศึกษาระดับสูงต่อมา

การประยุกต์ใช้ในอาชีพการงาน

หลังจากจบการศึกษา Stephen นำแนวคิดนี้ไปใช้ในการทำงาน เริ่มจากการเป็นเทรดเดอร์ที่ Credit Suisse จนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสำคัญในสถาบันการเงินระดับโลกหลายแห่ง และประสบความสำเร็จในฐานะผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์

การเรียนรู้ภาษาใหม่ด้วยการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย

ในปี 2001 Stephen ตัดสินใจเรียนภาษาเยอรมันโดยใช้เวลาเดินทางประจำวันให้เป็นประโยชน์ เขาแทนที่เพลงใน iPod ด้วยบทเรียนภาษาเยอรมัน ภายในเวลา 10 เดือน เขาสามารถพูดภาษาเยอรมันได้จนสามารถสื่อสารกับชาวเยอรมันได้อย่างคล่องแคล่ว

การพัฒนาตนเองและการผจญภัย

ความสำเร็จในการเรียนภาษาเยอรมันนำไปสู่การพัฒนาตนเองในด้านอื่นๆ เช่น การได้ใบอนุญาตแข่งรถ การเรียนขับเฮลิคอปเตอร์ การปีนผา การกระโดดร่ม และการบินเครื่องบินผาดโผน

การดูแลสุขภาพและการออกกำลังกาย

ในปี 2007 Stephen ตั้งเป้าหมายในการลดน้ำหนัก 25 ปอนด์ แทนที่จะใช้วิธีทั่วไป เขาเลือกที่จะเดินป่าให้ครบ 33 เส้นทางในแนวหน้าของภูเขาซานตาบาร์บารา ด้วยการแบ่งเป้าหมายเป็นการตัดสินใจเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน

การอ่านและการเรียนรู้

ในปี 2009 Stephen ตั้งเป้าอ่านหนังสือ 50 เล่ม โดยใช้หลักการเดียวกัน คือการแบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นการตัดสินใจเล็กๆ เริ่มจากการอ่านทีละคำ ทีละประโยค จนกลายเป็นการอ่านทีละเล่ม

Yarnbombing: จากงานอดิเรกสู่สถิติโลก

ในปี 2012 Stephen เริ่มเรียนรู้การถักนิตติ้งและโครเชต์ จนพัฒนาไปสู่การทำ Yarnbombing สตรีทอาร์ตที่ใช้การถักนิตติ้งเปลี่ยนสิ่งเคยชินให้กลับมาดึงดูดสายตา จนในที่สุดเขาสามารถสร้างสถิติโลก Guinness ด้วย Granny Square โครเชต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

บทสรุป

Stephen ย้ำว่าเขายังคงเป็นคนเดิมที่ไม่สามารถมีสมาธิได้นานเกิน 5-10 นาที แต่สิ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จคือการแบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นส่วนย่อยๆ และปรับปรุงเล็กน้อยอย่างต่อเนื่อง เขาหวังว่าเรื่องราวของเขาจะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นกล้าที่จะไล่ตามความฝันของตนเองด้วยการปรับเปลี่ยนกิจวัตรเล็กน้อยในแต่ละวัน

References :
How to Achieve Your Most Ambitious Goals | Stephen Duneier | TEDxTucson
https://youtu.be/TQMbvJNRpLE?si=trY9mh6Lq-NnCc-P

Geek Life EP94 : เลิกแคร์สายตาคนอื่น หยุดทำร้ายตัวเองด้วยความคิดคนอื่นแบบถาวร

ในอดีตการอยู่รอดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ขึ้นอยู่กับความสามารถในการคาดการณ์ภัยคุกคาม โดยภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการถูกขับออกจากเผ่า เพราะหากไม่มีเผ่า เราจะไม่สามารถหาอาหารเมื่อเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ และไม่สามารถอยู่รอดได้นาน ด้วยเหตุนี้เราจึงเรียนรู้ที่จะคาดการณ์และกลัวสิ่งที่ผู้อื่นคิดเกี่ยวกับเรา สิ่งนี้เรียกว่า FOBO (Fear of Other People’s Opinions – ความกลัวความคิดเห็นของผู้อื่น)

เป็นข้อมูลที่น่าสนใจจากหนังสือ The First Rule of Mastery: Stop Worrying about What People Think of You โดย Michael Gervais หนึ่งในนักจิตวิทยาชั้นนำของโลกและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านความสัมพันธ์ระหว่างจิตใจและประสิทธิภาพของมนุษย์

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Life’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/5duvta97

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/3vd4pswh

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/NAitX-6fOWY

Geek Life EP90 : Mind Over Matter จากล้มเหลวสู่สำเร็จ วิธีใช้พลังจิตเปลี่ยนชีวิต

มนุษย์เรามักไม่รู้ขีดความสามารถที่แท้จริงของตนเอง จนกว่าจะได้ลงมือทำสิ่งนั้นจริงๆ ประสบการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการสอบได้คะแนนยอดเยี่ยม การเลื่อนตำแหน่งในที่ทำงาน หรือแม้แต่การจัดการเรื่องยุ่งยากให้สำเร็จลุล่วง สิ่งเหล่านี้อาจดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ในตอนแรก แต่เมื่อเราลงมือทำ เราก็จะค้นพบว่าตัวเองมีศักยภาพมากกว่าที่คิด

เป็นข้อมูลทีน่าสนใจจากเวที Ted Talks อีกครั้ง โดย Paneez Oliai จาก Harvard Law School เธอจบการศึกษาสาขาประวัติศาสตร์และจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ที่ได้มาพูดถึงพลังที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเรา

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Life’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/3enxt9az

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/54axr7ne

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/G6t8hbrJibw

เลิกแคร์สายตาคนอื่น : หยุดทำร้ายตัวเองด้วยความคิดคนอื่น กับวิธีปลดล็อกความกลัวแบบถาวร

ในอดีตการอยู่รอดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ขึ้นอยู่กับความสามารถในการคาดการณ์ภัยคุกคาม โดยภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการถูกขับออกจากเผ่า เพราะหากไม่มีเผ่า เราจะไม่สามารถหาอาหารเมื่อเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ และไม่สามารถอยู่รอดได้นาน ด้วยเหตุนี้เราจึงเรียนรู้ที่จะคาดการณ์และกลัวสิ่งที่ผู้อื่นคิดเกี่ยวกับเรา สิ่งนี้เรียกว่า FOBO (Fear of Other People’s Opinions – ความกลัวความคิดเห็นของผู้อื่น)

เป็นข้อมูลที่น่าสนใจจากหนังสือ The First Rule of Mastery: Stop Worrying about What People Think of You โดย Michael Gervais หนึ่งในนักจิตวิทยาชั้นนำของโลกและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านความสัมพันธ์ระหว่างจิตใจและประสิทธิภาพของมนุษย์

ในปัจจุบัน FOBO แสดงออกในหลายรูปแบบ:

  • เราลังเลที่จะแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม
  • เราละทิ้งค่านิยมของตัวเองภายใต้แรงกดดันทางสังคม
  • เราหลีกเลี่ยงการทุ่มเทให้กับสิ่งที่เราหลงใหล เพื่อไม่ให้ดูเหมือนคนหมกมุ่นมากเกินไป

ลองพิจารณาดูว่าเราใช้เวลาในแต่ละสัปดาห์ไปกับการกังวลเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้อื่นมากแค่ไหน เมื่อหัวสมองเต็มไปด้วยความคิดว่าคนอื่นกำลังตัดสินเรา มันยากที่จะตัดสินใจอะไรได้อย่างเด็ดขาด และเมื่อเรากังวลว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร มันก็ยากที่จะโฟกัสอย่างเต็มที่ในงานของเรา

David Foster Wallace เคยกล่าวไว้ว่า “คุณจะกังวลเกี่ยวกับความคิดของคนอื่นน้อยลง เมื่อคุณตระหนักว่าพวกเขาแทบจะไม่ได้คิดถึงคุณเลย”

นี่ไม่ใช่แค่คำพูดธรรมดา แต่มีงานวิจัยรองรับ ในช่วงปลายทศวรรษ 90 ศาสตราจารย์ Thomas Gilovich จาก Cornell ได้ทำการทดลองทางสังคม โดยให้นักศึกษา 109 คนเข้าไปในห้องที่มีเพื่อนๆ อยู่ทีละคน โดยสวมเสื้อยืดที่น่าอายซึ่งมีรูปนักร้อง Barry Manilow ขนาดใหญ่

นักศึกษาที่สวมเสื้อได้รับการบอกว่าอย่างน้อย 50% ของเพื่อนๆ จะสังเกตเห็นเสื้อของพวกเขา อย่างไรก็ตาม เมื่อ Gilovich สอบถามคนในห้องภายหลัง กลับมีเพียงแค่ 25% เท่านั้นที่สังเกตเห็นเสื้อที่น่าอับอายนั้น

งานวิจัยหลายชิ้นหลังจากนั้นแสดงให้เห็นว่า เรามักมีความรู้สึกว่าตัวเองสำคัญเกินจริง และมักฉายภาพความคิดของเราไปสู่ผู้อื่น ทำให้เราเชื่อว่าโลกภายนอกกำลังตัดสินเรามากกว่าความเป็นจริง ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “Spotlight Effect”

ตลอดทั้งวัน เรามักจะคิดว่าเหมือนมีไฟสปอตไลท์ลอยอยู่เหนือศีรษะ ส่องแสงลงมาที่ตัวเรา แต่ความจริงคือ หากคุณไม่ได้อยู่ในสปอตไลท์ของใคร พวกเขาก็ไม่ได้คิดถึงคุณ และแม้เมื่อคนอื่นส่องสปอตไลท์มาที่คุณ คุณก็จะอยู่ในความคิดของพวกเขาเพียงช่วงสั้นๆ เพราะพวกเขาจะรีบหันสปอตไลท์กลับไปที่ตัวเอง และกลับไปคิดว่าคนอื่นกำลังคิดอะไรเกี่ยวกับพวกเขา

กฎสำคัญ 3 ข้อในการกรองความคิดเห็นของผู้อื่น:

1. สกรีนจุดมุ่งหมาย (Purpose Screen)
ทุกช่วงเวลาในชีวิต เราควรมีเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ อาจเป็นการพัฒนาตัวเองในสิ่งที่รัก หรือการใช้ชีวิตตามค่านิยมของตนเองและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน เราก็จะกังวลกับการยอมรับจากผู้อื่นน้อยลง

การแสวงหาการยอมรับเปรียบเหมือนการแสวงหากำไรระยะสั้นในธุรกิจ ทุกธุรกิจต้องการกำไร แต่ถ้ายึดติดกับมันมากจนเกินไป ก็มีโอกาสที่จะทำให้เราหลงทางได้

2. สกรีนโต๊ะกลม (Round Table Screen)
มีเพียงความคิดเห็นของคนไม่กี่คนที่สำคัญจริงๆ ความเห็นจากเพื่อนในเฟซบุ๊กสมัยมัธยม หรือเสียงบีบแตรจากคนขับรถที่โมโหที่คุณจะไม่มีวันได้เจออีก ล้วนไม่สำคัญ

ความคิดเห็นที่สำคัญมาจากคนที่ต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณ คนที่คุณเคารพอย่างลึกซึ้ง และคนที่ไม่กลัวที่จะบอกความจริงกับคุณ

3. สกรีนแห่งความตาย (Death Screen)
เมื่อคุณเริ่มปล่อยให้ความคิดเห็นของผู้อื่นขัดขวางการใช้ชีวิตตามเป้าหมายของคุณ ให้ถามตัวเองว่า: “เมื่อฉันต้องตายในไม่ช้า (อาจเป็น 1 ปีหรือ 70 ปี) มันคุ้มค่าหรือไม่ที่จะปล่อยให้ความคิดเห็นของคนอื่นกำหนดชีวิตของฉัน?”

Michael Gervais กล่าวว่า เมื่องานเลี้ยงใกล้จบและทุกคนพร้อมความคิดเห็นของพวกเขากลับบ้านไปแล้ว คุณจะสงสัยว่าทำไมคุณถึงให้อำนาจพวกเขามากมายขนาดนั้นในชีวิตของคุณ

บทสรุป

หยุดกลัวสิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับเรา ผู้คนต่างยุ่งกับชีวิตของตัวเองและกังวลว่าคนอื่นคิดอะไรกับพวกเขามากเกินกว่าจะสังเกตสิ่งที่เราทำ แม้เมื่อมีคนสังเกตเห็นสิ่งที่เราทำและเราอาจจะได้ยินความคิดเห็นในแง่ลบ อย่าให้ความคิดเห็นเหล่านั้นขัดขวางตัวตนของเรา หากเรากำลังใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย รับฟังข้อเสนอแนะที่จริงใจจากคนที่เราเคารพ

ยิ่งเราเลิกสนใจความคิดเห็นของผู้อื่นเร็วเท่าไร เราก็จะยิ่งเป็นอิสระที่จะเป็นตัวของตัวเองได้เร็วขึ้นเท่านั้น และค้นพบว่าตัวเราเองมีศักยภาพที่จะเป็นอะไรได้มากมายแค่ไหนนั่นเองครับผม

References:
หนังสือ The First Rule of Mastery: Stop Worrying about What People Think of You โดย Michael Gervais