ปิดจ๊อบ Huawei สถานีต่อไป DJI

กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ (The US Department of Homeland Security – DHS)ได้เตือนถึงอันตรายของเจ้าหน้าที่จีน มีการแจ้งเตือนโดย CNN ในเรื่องข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้งานโดรน ซึ่งส่วนใหญ่ในอเมริกาเหนือขายโดยบริษัท DJI ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเซินเจิ้นโดยสามารถส่งข้อมูลเที่ยวบินที่ละเอียดอ่อนกลับไปยังสำนักงานใหญ่ที่ประเทศจีนซึ่งรัฐบาลสามารถเข้าถึงได้ในภายหลัง

การแจ้งเตือนจาก DHS :

“ รัฐบาลสหรัฐอเมริกามีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีใด ๆ ที่นำข้อมูลอเมริกันเข้าสู่อาณาเขตของรัฐที่มีอำนาจซึ่งอนุญาตให้หน่วยข่าวกรองเข้าถึงการเข้าถึงข้อมูลนั้นได้อย่างอิสระ

ความกังวลเหล่านั้นมีผลบังคับใช้อย่างเท่าเทียมกันกับระบบเครื่องบินที่ไม่มีคนควบคุมของจีนที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อและรวบรวมและถ่ายโอนข้อมูลที่อาจเปิดเผยเกี่ยวกับการดำเนินงานของพวกเขาและบุคคลและหน่วยงานที่ปฏิบัติงานในประเทศจีน ”

การแจ้งเตือนของ DHS ไม่ได้แสดงถึงคำสั่งทางกฎหมายและไม่มีการกล่าวถึงชื่อ DJI แต่ บริษัทก็เข้าใจถึงสถานการณ์ของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน คำเตือนทำให้เกิดความกังวลโดยทั่วไปในระดับเดียวกับที่หัวเว่ยโดน โดยมีการยืนยันว่า บริษัท จีนมีภาระผูกพันที่จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลสหรัฐในด้านความปลอดภัย

DHS แสดงความกังวลต่ออุปกรณ์โดรนจาก DJI
DHS แสดงความกังวลต่ออุปกรณ์โดรนจาก DJI

สัปดาห์ที่ผ่านมาประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ออกคำสั่งผู้บริหารที่สามารถทำลายธุรกิจหลักของหัวเว่ยโดยการปิดกั้นการค้ากับบริษั สหรัฐอย่าง Google แม้ว่าซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Ren Zhengfei ได้รับรู้ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับ Huawei

“ ที่ DJI ความปลอดภัยเป็นหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราสร้างความปลอดภัยของเทคโนโลยีของเราที่ได้รับการตรวจสอบอย่างเป็นอิสระจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและธุรกิจชั้นนำของสหรัฐอเมริกา” DJI กล่าวในแถลงการณ์ยืนยันว่าผู้บริโภคมีนั้นสามารถจัดการข้อมูลในโดรนได้เต็มรูปแบบ ไม่มีการส่งข้อมูลกลับไปยังประเทศจีนแต่อย่างใด”

” สำหรับรัฐบาลและลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของสหรัฐ ที่ต้องการ การรับรองเพิ่มเติมเรามีโดรนที่ไม่ถ่ายโอนข้อมูลไปยัง DJI หรือ ผ่านทางอินเทอร์เน็ตและลูกค้าของเราสามารถเปิดใช้งานซึ่งข้อควรระวังทั้งหมดที่ DHS แนะนำ ทุกวันเหล่าธุรกิจของอเมริกาและหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐอเมริกาก็ไว้วางใจเจ้าหน้าที่จาก DJI เพื่อช่วยชีวิตและส่งเสริมความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานที่สำคัญและเราต้องรับผิดชอบอย่างจริงจัง”

ในปี 2560 DJI ได้เพิ่มโหมดความเป็นส่วนตัวลงในโดรน โดยใช้การรับส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตในขณะที่โดรนกำลังบินอยู่ อย่างไรก็ตามนี่เป็นคำตอบจากบันทึกของกองทัพสหรัฐฯที่ขอให้ทุกหน่วยงานหยุดใช้โดรน DJI เนื่องจากปัญหาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ถูกกล่าวหา

References : 
https://www.theverge.com/2019/5/21/18633744/dhs-alert-china-drones-dji-huawei

แค่นี้ขี้ประติ๋ว สีจิ้นผิง ประกาศกร้าว ศึกนี้พร้อมสู้กันอีกนาน

เนื่องจากข้อพิพาททางการค้าทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาเปรียบย้อนไปในภาพยนตร์จีนแบบคลาสสิกที่เกี่ยวกับ “สงครามต่อต้านอเมริกาและช่วยเหลือชาวเกาหลี” ของสงครามเกาหลีในปี 1950 ซึ่งเป็นสงครามที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีของชาวจีน

นี่เป็นหนึ่งในสัญญาณหลายอย่างในประเทศจีนที่บ่งบอกถึงสิ่งที่นักวิเคราะห์เชื่อว่าตอนนี้จะเป็นข้อขัดแย้งทางการค้าที่ยืดเยื้อกับสหรัฐ และทางจีนเต็มใจที่จะยอมรับ  เงื่อนไขที่โดนัลด์ทรัมป์เรียกร้องเพื่อยุติการทะเลาะวิวาทกันทางการค้าที่มีมากว่า 2 ปี

สีจิ้นผิง ประธานพรรคคอมมิวนิสต์ และผู้นำสูงสุดของจีน กำลังเตรียมการที่จะนำประเทศของเขาสู่ความขัดแย้งทางการค้าที่เต็มไปด้วยขุมทรัพย์พลังงานและความเกี่ยวข้องกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก เช่น เดียวกับเมื่อคราวที่เหมาเจ๋อตงส่ง “อาสาสมัคร” ของจีนไปสู้รบกับกองกำลังสหรัฐในช่วงสงครามเกาหลีในช่วงปี 1950 เป็นเวลากว่าสี่ปี 

เช่นเดียวกับการตัดสินใจของเหมาเพื่อเข้าสู่ความขัดแย้งของเกาหลี เมื่อหกสิบปีก่อนกองทหารที่มีอาวุธที่ไร้ประสิทธิภาพของเหมาต้องเผชิญกับกองกำลังทหารอเมริกันที่เหนือกว่าในเรื่องเทคโนโลยีในสงครามเกาหลี 

ทุกวันนี้เศรษฐกิจของจีนขึ้นอยู่กับการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกามากกว่าสหรัฐอเมริกาที่จะส่งออกไปยังประเทศจีน หลังจาก 30 ปีของการเติบโตใกล้ตัวเลขสองหลักจนเศรษฐกิจของจีนก้าวขึ้นมาจนใหญ่เป็นอันดับสองของโลก

แต่ในขณะที่กองกำลังจีนที่กำลังจนตรอกต่อสู้กับสหรัฐในสงครามเกาหลีในท้ายที่สุด ทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับกองกำลังติดอาวุธของอเมริกา

ทหารจีนที่ส่งไปช่วยรบในสงครามเกาหลี ต้องล้มตายเป็นจำนวนมากด้วยเทคโนโลยีที่เหนือกว่าของสหรัฐ
ทหารจีนที่ส่งไปช่วยรบในสงครามเกาหลี ต้องล้มตายเป็นจำนวนมากด้วยเทคโนโลยีที่เหนือกว่าของสหรัฐ

แต่ในศึก Trade War ครั้งนี้ สีจิ้นผิง แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถควบคุมการต่อสู้ในศึกครั้งนี้ให้สามารถประสบความสำเร็จได้ และ กองกำลังจากจีนจะไม่มีทางซ้ำรอยเดิมในเหตุการณ์สงครามเกาหลี อย่างแน่นอน

โดยเจ้าหน้าที่จีนเชื่อว่าพวกเขามีข้อได้เปรียบที่แตกต่างกันสองอย่างเมื่อเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามในช่วงสงครามการค้า สิ่งแรกคือ การควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จ ที่ สีจิ้นผิงนั้น ต้องการเพียงแค่นิ้วมือของเขาและรัฐบาลที่ควบคุมโดยพรรค, ฝ่ายนิติบัญญัติ, สื่อและระบบธนาคารของจีน ซึ่งเขาควบคุมได้อย่างเบ็ดเสร็จ ต่างจากทรัมป์ ที่สามารถควบคุมได้แค่ใน Twitter ของเขาเพียงเท่านั้น

สีจิ้นผิง นั้นสามารถควบคุมทุกอย่างในประเทศจีนได้แบบเบ็ดเสร็จเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ
สีจิ้นผิง นั้นสามารถควบคุมทุกอย่างในประเทศจีนได้แบบเบ็ดเสร็จเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ

พรรคคอมมิวนิสต์จีนมี “ทีมชาติ” ของนายหน้าธนาคารและ บริษัท ยักษ์ใหญ่ในการจัดการเพื่อ “ซื้อ” แบบทุ่มตลาดในจีนเมื่อมีความจำเป็น เมื่อดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ร่วงลงเกือบ 6% มาอยู่ที่ 2,906 จุดในวันนี้หลังจากการเพิ่มขึ้นของสงครามการค้าครั้งล่าสุดของนายทรัมป์ การตอบสนองของรัฐบาลจีนโดยเหล่าทีมชาติของพวกเขาสามารถเสก ให้วันรุ่งขึ้น ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ดีดตัวขึ้นได้ทันที เพราะพวกเขาพร้อมจะรบในศึกนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ข้อได้เปรียบที่สองของ สีจิ้นผิง คือความรู้สึกเดือดดาลในอดีตที่เกี่ยวข้องกับความไม่พอใจในอดีตต่ออำนาจจากต่างประเทศที่ก่อนหน้านี้เขามองว่าจีนนั้น “ถูกกลั่นแกล้ง” และ “ถูกทำให้ดูต่ำต้อย” เกินไปเมื่อเทียบกับสภาพความเป็นจริงของจีนในปัจจุบัน

เมื่อความต้องการการเจรจาการค้าของทรัมป์เริ่ม  รั่วไหลในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วความโกรธเคืองที่คนจีนหลายคนรู้สึกได้ ฟรีดริชวู ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางแห่งสิงคโปร์ สรุปความรู้สึกของหลาย ๆ คนเมื่อเขาอธิบายว่าสิ่งที่ทรัมป์ และ สหรัฐต้องการนั่นก็คือ “การบังคับให้จีนนั้นยอมรับความพ่ายแพ้”

“ซึ่งมันเหมือนการดูถูกจีนในยุคปัจจุบัน ภาพแบบนั้นมันต้องมองย้อนกลับไป ถึงศตวรรษที่ 19 เมื่ออำนาจของตะวันตกและญี่ปุ่นกำหนดเงื่อนไขทั้งหมดในสนธิสัญญาไม่เท่าเทียมกันที่น่าอับอายต่อราชวงศ์ชิงของจีนที่กำลังอ่อนแออยู่ในขณะนั้น” 

ดูเหมือนว่าศึกนี้ คงจะไม่จบลงง่ายๆ  อย่างแน่นอน การควบรวมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จของ สีจิ้นผิง นั้น ต้องเรียกได้ว่า มีพลังมากกว่าที่ ทรัมป์มีเยอะ แม้อเมริกาจะเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็จริง แต่ทรัมป์ ยังมีแผลเบื้องหลังที่คอยทิ่มแทงเขา หากสงครามครั้งนี้ ทรัมป์แพ้ มันส่งผลโดยตรงต่อ ตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยหน้าอย่างแน่นอน ต้องเรียกว่าศึกครั้งนี้มีการเดิมพันสูง กับอนาคตทางการเมืองของทั้งทรัมป์ และ สีจิ้นผิง เลยก็ว่าได้

References : 
https://www.ft.com/content/52a6731c-7882-11e9-be7d-6d846537acab