Geek Talk EP86 : ทำไม BYD เอาชนะ Toyota ในญี่ปุ่น? กับศึกยานยนต์ครั้งใหม่ เมื่อราคามาเหนือความภักดี

ในโลกของยานยนต์ ญี่ปุ่นเปรียบเสมือนปราการด่านสุดท้ายที่แทบไม่มีใครสามารถบุกทะลวงเข้าไปได้ ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานของการสร้างรถยนต์คุณภาพสูง และความภักดีของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ในประเทศ ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติแทบไม่มีโอกาสประสบความสำเร็จ

แต่ในช่วงสองปีที่ผ่านมา มีบริษัทหนึ่งที่ทำในสิ่งที่หลายคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ BYD บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ไม่เพียงแต่เข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังสามารถแซงหน้า Toyota ผู้ครองบัลลังก์มาห ลายทศวรรษในแง่ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างน่าทึ่ง

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/2vu65h88

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/u3p5rcej

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://tinyurl.com/268jht8m

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/owLqIS7NFps

Geek Daily EP284 : สูญสิ้น 30 ล้านล้านใน 83 วัน Tesla และการตัดสินใจผิดพลาดที่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง

วันที่ 18 ธันวาคม 2024 ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ของ Tesla เมื่อราคาหุ้นพุ่งทะยานแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 488.54 ดอลลาร์ ด้วยมูลค่าตลาดมหาศาลถึง 1.57 ล้านล้านดอลลาร์ ทว่าเพียงไม่กี่เดือนต่อมา สถานการณ์กลับพลิกผัน Tesla ต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2025 ราคาหุ้นดิ่งลงอย่างรุนแรงเหลือเพียง 217 ดอลลาร์ มูลค่าตลาดหดหายไปเหลือแค่ 697 พันล้านดอลลาร์ นั่นหมายความว่าภายในระยะเวลาเพียง 83 วัน Tesla สูญเสียมูลค่าตลาดไปถึง 873 พันล้านดอลลาร์ หรือ 30 ล้านล้านบาท บริษัทประสบภาวะขาดทุนติดต่อกันยาวนานถึงเจ็ดสัปดาห์

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/2p9pjm49

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/4vumsrax

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://tinyurl.com/2ak2jezk

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/J6H382Nb5Qw

Geek Daily EP282 : ยุคทองของ Toyota กำลังสิ้นสุด? พลิกเกมวงการยานยนต์ไทย เมื่อพี่ใหญ่ถูกลูบคม

เมื่อพูดถึงวงการยานยนต์ในไทย เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง Toyota เป็นอันดับแรก แบรนด์ญี่ปุ่นที่ครองใจคนไทยมานานนับทศวรรษ แต่วันนี้สถานการณ์กำลังเปลี่ยนไป เมื่อแบรนด์น้องใหม่จากจีนอย่าง BYD กำลังเข้ามาสั่นสะเทือนวงการ จนหลายคนตั้งคำถามว่า BYD จะสามารถแซง Toyota ในตลาดไทยได้จริงหรือ

ต้องบอกว่า BYD ไม่ใช่แค่แบรนด์รถยนต์ธรรมดา แต่เป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้วงการยานยนต์ต้องจับตามอง ด้วยการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในระยะเวลาอันสั้น พวกเขาสามารถคว้าส่วนแบ่งตลาดมาได้อย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และงานมอเตอร์โชว์ 2025 ครั้งล่าสุด พวกเขาได้ทำให้ทุกคนต่างตกตะลึงด้วยยอดจองในงานที่แซงหน้าพี่ใหญ่อย่าง Toyota ได้เป็นครั้งแรก

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/4zztdt8t

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/3fbbvj74

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://tinyurl.com/ymtr9x39

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/KzY-IoZj2oI

ยุคใหม่ชาร์จไฟเร็วกว่าเติมน้ำมัน! ทำลายทุกข้อจำกัด BYD กับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 1,000 kW ที่จะเปลี่ยนโลก

เมื่อพูดถึงรถหรูเทคโนโลยีสุดล้ำ เราอาจนึกถึง Porsche, BMW หรือ Mercedes แต่ตอนนี้ความคิดนั้นกำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว เพราะการทดสอบล่าสุดในจีนได้พลิกโฉมวงการรถยนต์ไปอย่างสิ้นเชิง

รถยนต์ไฟฟ้า BYD รุ่นใหม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 7% เป็น 50% ภายในเวลาแค่ 4 นาทีเท่านั้น! ต้องบอกว่าความเร็วขนาดนี้ไม่เคยมีมาก่อนในโลกของรถยนต์ไฟฟ้า ตอนนี้ BYD ได้ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีการชาร์จเร็วที่สุดในโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลายคนคงคิดว่าเทคโนโลยีโหดขนาดนี้ต้องมีราคาแพงหูฉี่แน่ๆ อาจต้องควักกระเป๋าจ่ายในราคาระดับรถหรูอย่าง Porsche หรือ BMW 7 Series ที่ราคาทะลุ 200,000-250,000 ดอลลาร์

แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนอ้าปากค้างคือ BYD กลับนำเทคโนโลยีนี้มาใส่ในรถที่มีราคาเริ่มต้นเพียง 37,000 ดอลลาร์เท่านั้น! หรือประมาณ 15% ของราคารถหรูยุโรปพวกนั้น เรียกได้ว่าเป็นการผลักดันวงการรถยนต์ไฟฟ้าให้พุ่งทะยานไปอีกขั้น

ประเด็นที่น่าสนใจคือ เทคโนโลยีของ BYD ไม่ได้มีดีแค่ “พอๆ” กับแบรนด์หรูเหล่านั้น แต่เหนือชั้นกว่าอย่างชัดเจน ทั้งในแง่ความเร็วการชาร์จและสมรรถนะโดยรวม แต่น่าแปลกที่สื่อกระแสหลักกลับไม่ค่อยพูดถึงเรื่องนี้เท่าไร

BYD มีรถรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองสองรุ่น คือ Han L (รถซีดาน) และ Tang L (รถ SUV) ทั้งคู่มาพร้อมพลังงานมหาศาลถึง 1,086 แรงม้า ซึ่งถือว่าสูงมาก ๆ สำหรับรถในระดับราคานี้

จุดที่ทำให้รถทั้งสองรุ่นนี้เป็นที่เชิดหน้าชูตาคือระบบชาร์จแบบ 1,000 โวลต์ หรือที่เรียกว่า 10C ซึ่งเทียบเท่ากับความเร็วในการชาร์จ 1,000 กิโลวัตต์ แถมความเร็วในการเร่งจาก 0 ถึง 100 ก็ทำได้ใน 2 วินาที รวมกับแบตเตอรี่ Blade รุ่นใหม่เวอร์ชัน 2 ที่เจ๋งมาก ๆ

ปัจจุบันไม่ใช่แค่ BYD เท่านั้นที่พัฒนาเทคโนโลยีชาร์จเร็ว แบรนด์จีนอื่นๆ อย่าง ZEEKR, XPeng และ GAC ก็กำลังรังสรรค์เทคโนโลยีแบบเดียวกัน แต่การที่ BYD เข้าร่วมวงการเทคโนโลยีชั้นสูงนี้เป็นการตอกฝาโลงเครื่องยนต์สันดาปภายในอย่างแท้จริง

เมื่อรถไฟฟ้าชาร์จได้เร็วขนาดนี้ จะมีเหตุผลอะไรให้คนยังเลือกใช้รถน้ำมัน? ข้อได้เปรียบเรื่องเวลาเติมพลังงานกำลังจะมลายหายไปหมดสิ้น ในอนาคตอันใกล้ การชาร์จรถไฟฟ้าอาจใช้เวลาไม่ต่างจากการเติมน้ำมันเลย

แม้ว่าตอนนี้เครื่องชาร์จความเร็วสูง 1,000 กิโลวัตต์อาจยังไม่มีให้เห็นทั่วไป แต่เทคโนโลยีนี้มาแรงมาก มีรายงานว่าเครื่องชาร์จกำลังไฟฟ้า 450 กิโลวัตต์และ 1,000 กิโลวัตต์กำลังจะถูกติดตั้งในหลายประเทศ รวมถึงออสเตรเลีย

นี่เป็นสัญญาณว่าโลกกำลังเตรียมพร้อมรับมือกับเทคโนโลยีใหม่นี้ที่จะมาเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราทุกคน ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป แต่เป็นความจริงที่กำลังจะเกิดขึ้น

BYD Han L เป็นรถซีดานขนาดใหญ่ที่มีความยาว 5,050 มิลลิเมตร ฐานล้อยาวประมาณ 3 เมตร ใกล้เคียงกับ Tesla Model S ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง

ระบบไฟฟ้า 1,000 โวลต์ของรถรุ่นนี้เป็นแพลตฟอร์ม EV ที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงที่สุดในโลก แม้ว่า Lucid จากอเมริกาจะอวดอ้างว่าเทคโนโลยีของพวกเขาล้ำหน้าจีนหลายปี แต่ตัวเลขและการทดสอบจริงของ BYD บอกได้เลยว่าของแท้อยู่ที่นี่!

Han L รุ่นมาตรฐานมาพร้อมแบตเตอรี่ LFP Blade รุ่นใหม่ขนาด 83.2 KW-h ให้ระยะทางตามมาตรฐาน CLTC สูงถึง 701 กิโลเมตร (หรือประมาณ 580 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP)

แต่จุดที่ทำให้คนตาลุกวาวคือการชาร์จแบบ 10C หรือ 1,000 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถเพิ่มระยะทางได้ 400 กิโลเมตรในเวลาแค่ 5 นาที! เทียบเท่ากับการเติมน้ำมันรถเลยทีเดียว

ในด้านสมรรถนะ มอเตอร์หลังให้กำลัง 580 กิโลวัตต์ และมอเตอร์หน้าให้กำลัง 230 กิโลวัตต์ รวมทั้งหมด 810 กิโลวัตต์หรือ 1,086 แรงม้า ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

มอเตอร์หลังยังสามารถหมุนได้ที่ 30,511 รอบต่อนาที เป็นตัวเลขที่น่าทึ่งมาก ส่วน BYD Tang L เป็นรถ SUV ที่มีที่นั่ง 7 ที่ แบ่งเป็นสองที่ด้านหน้า สามที่ตรงกลาง และสองที่ด้านหลัง

ราคาทั้งสองรุ่นเริ่มต้นที่ 37,000 ดอลลาร์สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง และสูงสุดที่ 48,000 ดอลลาร์สำหรับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคานี้ทำให้ BYD กลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของแบรนด์อื่นในตลาด อย่าง Xiaomi SU7, ZEEKR 007 และ XPeng P7 Plus

BYD ได้พัฒนาแพลตฟอร์มใหม่นี้อย่างเต็มที่ คาดว่าเราจะได้เห็นรถ BYD อีกหลายรุ่นที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันนี้ในอนาคตอันใกล้ เป็นการสยายปีกของแบรนด์จีนรายนี้ที่กำลังบูมสุดๆ

ที่น่าสนใจคือแบตเตอรี่ Blade ของ BYD มีสองเวอร์ชันแตกต่างกัน โดยเวอร์ชันหนึ่งเน้นความสามารถในการชาร์จที่เร็วมาก (ที่ใช้ในรถรุ่น Han L และ Tang L) และอีกเวอร์ชันเน้นความหนาแน่นพลังงานสูง

แบตเตอรี่ Blade เวอร์ชัน 2 ที่ใช้ในรถทั้งสองรุ่นนี้เป็นแบบชาร์จเร็วพิเศษ และคาดว่ารถรุ่นอื่นๆ ของ BYD จะได้รับแบตเตอรี่ Blade แบบระยะทางไกลในเร็วๆ นี้ด้วย

การพัฒนาแบบก้าวกระโดดของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน โดยเฉพาะจาก BYD กำลังท้าทายแบรนด์รถยนต์ดั้งเดิมจากทั่วโลกอย่างหนัก อาจเป็นการขีดชะตาชีวิตใหม่ให้อุตสาหกรรมยานยนต์โลก

ความสามารถในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีสุดล้ำในราคาที่จับต้องได้อาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะเร่งการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าให้เร็วขึ้นมากๆ

อนาคตของการคมนาคมกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบ 1,000 กิโลวัตต์อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นตัวเลือกหลักของคนทั่วโลก

การพัฒนาเทคโนโลยีของจีนในด้านยานยนต์ไฟฟ้ายังคงก้าวหน้าแบบไม่หยุดยั้ง และเป็นเรื่องที่น่าติดตามว่าแบรนด์รถยนต์จากยุโรปและอเมริกาจะรับมืออย่างไรกับการแข่งขันที่กำลังดุเดือดถึงขีดสุดนี้

หลายคนอาจจะสงสัยในความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบนี้ การทดสอบจริงในจีนก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า นี่ไม่ใช่แค่ความฝันลม ๆ แล้ง ๆ แต่เป็นความจริงที่กำลังเกิดขึ้นและพร้อมจะเปลี่ยนโลกแห่งยานยนต์ไปตลอดกาล

เทคโนโลยีนี้ราวกับมีเวทมนตร์ ถ้าเทียบกับเมื่อ 5-10 ปีที่แล้ว ตอนนั้นการชาร์จรถไฟฟ้าอาจใช้เวลาเป็นชั่วโมง แต่วันนี้เราพูดถึงการชาร์จเพียงไม่กี่นาที เรียกได้ว่าพัฒนาการมาถึงจุดพีคแล้วจริงๆ

การชาร์จแบบ 10C เป็นเทคโนโลยีสุดล้ำของ BYD ที่ทำให้แบตเตอรี่สามารถชาร์จได้ที่อัตรา 10 เท่าของความจุแบตเตอรี่ จึงเทียบเท่ากับการชาร์จแบตเตอรี่ 100 KW-h ด้วยกำลังไฟฟ้า 1,000 กิโลวัตต์

ในทางทฤษฎี นั่นหมายถึงการชาร์จจากศูนย์เปอร์เซ็นต์เป็นเต็มร้อยในเวลาเพียง 6 นาที! จริงๆ แล้วในทางปฏิบัติอาจใช้เวลามากกว่านี้เล็กน้อย แต่ก็ยังทิ้งห่างเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันแบบไม่เห็นฝุ่น

จะว่าไปแล้ว สงครามเทคโนโลยีระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในกับรถยนต์ไฟฟ้ากำลังจะถึงจุดสิ้นสุด เพราะข้อได้เปรียบสุดท้ายของรถน้ำมันกำลังจะหายไป นั่นคือความรวดเร็วในการเติมพลังงาน

ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ การพัฒนาเทคโนโลยีการชาร์จเร็วของ BYD จึงอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นมาตรฐานใหม่ของโลก

เมื่อนึกถึงอนาคต จินตนาการถึงโลกที่เต็มไปด้วยรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ต้องเติมน้ำมัน ไม่ปล่อยมลพิษ และชาร์จได้เร็วเท่ากับการเติมน้ำมัน… มันคงเป็นสิ่งที่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นสำหรับคนส่วนใหญ่ที่จะเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบบไม่ตะขิดตะขวงใจอีกต่อไปนั่นเองครับผม

Geek Daily EP279 : ยุคใหม่ชาร์จไฟเร็วกว่าเติมน้ำมัน! BYD กับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 1,000 kW ที่จะเปลี่ยนโลก

เมื่อนึกถึงรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย หลายคนมักนึกถึงแบรนด์หรูจากยุโรปอย่าง Porsche, BMW หรือ Mercedes หรือไม่ก็แบรนด์อเมริกันอย่าง Tesla แต่การทดสอบล่าสุดในประเทศจีนกำลังเปลี่ยนความเชื่อนี้ไปอย่างสิ้นเชิง

ในการทดสอบที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ในประเทศจีน รถยนต์ไฟฟ้า BYD รุ่นใหม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 7% เป็น 50% ภายในเวลาเพียง 4 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือเป็นความเร็วที่น่าตื่นตะลึงและไม่เคยมีมาก่อนในวงการรถยนต์ไฟฟ้า BYD ได้นำเสนอเทคโนโลยีใหม่นี้ออกสู่ตลาด และต้องยอมรับว่าขณะนี้มันคือเทคโนโลยีการชาร์จที่เร็วที่สุดในโลก

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/2cx8u4z6

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://tinyurl.com/5n8y3xzx

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/oNk1khD-4-Q