3 กุญแจสู่ชีวิตที่มีความหมาย : เคล็ดลับสร้างแรงบันดาลใจจาก The Motivation Manifesto โดย Brendon Burchard

ในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและความไม่แน่นอน การค้นหาแรงบันดาลใจและแรงจูงใจเพื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

หนังสือ “The Motivation Manifesto” ของ Brendon Burchard นำเสนอมุมมองที่น่าสนใจและเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการค้นพบพลังภายในตัวเราและใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย

การตระหนักถึงพลังแห่งการเลือก

เมื่อเราตกอยู่ในภาวะขาดแรงจูงใจ สิ่งสำคัญที่เรามักจะลืมไปก็คือ เรามีพลังในการเลือก Burchard ชี้ให้เห็นว่า เราอาจถูกชักจูงด้วยความกลัว ความอยาก และเรื่องราวของผู้อื่นจนลืมไปว่าเราสามารถกำหนดทิศทางชีวิตของตัวเองได้

การตระหนักถึงพลังแห่งการเลือกนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง เมื่อเราเลือกที่จะเป็น มี หรือทำบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในชีวิต และเชื่อว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะความสามารถในการเรียนรู้และเติบโตที่มีอยู่ในตัวเรา เราจะปลุกพลังภายในอันทรงพลังขึ้นมา

“ทันทีที่คุณเลือกที่จะเชื่อว่ามีสิ่งยิ่งใหญ่รออยู่เบื้องหน้า คุณสามารถเลือกที่จะเชื่อมโยงทุกสิ่งเข้ากับวิสัยทัศน์ของคุณ”

การมองทุกสิ่งในชีวิตให้เชื่อมโยงกับเป้าหมายใหญ่ของเรา จะช่วยเปลี่ยนมุมมองต่อกิจวัตรประจำวันให้มีความหมายมากขึ้น เช่น:

  • การจัดระเบียบบ้านกลายเป็นโอกาสในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อความคิดสร้างสรรค์
  • การทำอาหารเย็นกลายเป็นการดูแลสุขภาพเพื่อให้มีพลังในการไล่ตามความฝัน
  • งานที่ได้รับมอบหมายกลายเป็นโอกาสในการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคต

การสร้างแรงบันดาลใจสู่ความยิ่งใหญ่

Burchard เชื่อว่าทุกคนมีความยิ่งใหญ่อยู่ภายในตัว เพียงแต่รอการจุดประกาย การสร้างแรงบันดาลใจสู่ความยิ่งใหญ่นั้นเริ่มต้นจากการเข้าใจว่าความยิ่งใหญ่ประกอบด้วยคุณสมบัติพื้นฐานสองประการ:

  1. ความสม่ำเสมอ: การยึดมั่นในค่านิยมหลักของตนเองอย่างไม่ลดละ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ ความเป็นเลิศ หรือความซื่อสัตย์ และทำให้ทุกการกระทำและการตัดสินใจสอดคล้องกับค่านิยมเหล่านั้น
  2. ความกล้าหาญ: การกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายและความเสี่ยง รวมถึงการกล้ารับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องและการฝึกฝนความเชี่ยวชาญในสิ่งที่เราทำเป็นส่วนสำคัญของการก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ แม้ในวันที่เราไม่รู้สึกอยากทำ การฝืนตัวเองให้ลงมือทำก็เป็นการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นและวินัยที่จำเป็นสำหรับการประสบความสำเร็จ

“จงมีความกล้าที่จะไม่สนใจว่าผู้อื่นจะคิดอย่างไรกับคุณ ตราบใดที่คุณกระทำตามค่านิยมของคุณ”

Kobe Bryant อดีตนักบาสเก็ตบอลระดับตำนานเคยกล่าวไว้ว่า “ผมมุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดมาก จนผมแทบจะไม่ได้ยินว่าคนอื่นพูดอะไร” คำพูดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและการไม่ยอมให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์มาขัดขวางการไล่ตามความฝันของเขา

การสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองนั้น เราสามารถเริ่มต้นได้จากการมองหาบุคคลต้นแบบที่สร้างแรงบันดาลใจให้เรา วิเคราะห์ว่าอะไรในตัวพวกเขาที่ทำให้เราประทับใจ และพยายามพัฒนาคุณสมบัติเหล่านั้นในตัวเราเอง เช่น หากเราประทับใจครูที่สามารถอธิบายเรื่องซับซ้อนให้เข้าใจง่าย เราก็อาจมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทักษะการสื่อสารของเราให้ชัดเจนและเข้าถึงง่ายสำหรับผู้อื่น

การชะลอเวลาและการอยู่กับปัจจุบัน

ในยุคที่ทุกอย่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว การเรียนรู้ที่จะชะลอเวลาและอยู่กับปัจจุบันเป็นทักษะที่มีค่าอย่างยิ่ง Burchard เสนอว่าการใช้ชีวิตโดยไม่ตระหนักรู้ถึงปัจจุบันขณะ เปรียบเสมือนการอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีออกซิเจนต่ำ ซึ่งทำให้เรารู้สึกอ่อนแอและขาดแรงจูงใจ

การฝึกอยู่กับปัจจุบันสามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ คือการ “ยืดเวลา” ให้กับแต่ละช่วงเวลา Burchard แนะนำให้เราลองทำสิ่งต่างๆ ให้ช้าลงสองจังหวะ:

  • สูดอากาศเข้านานขึ้นสองจังหวะ
  • จ้องตาคู่สนทนานานขึ้นสองจังหวะ
  • ลิ้มรสอาหารแต่ละคำนานขึ้นสองจังหวะ

การเพิ่มความตระหนักรู้ให้กับประสาทสัมผัสของ จะช่วยให้เรายืดเวลาที่อยู่ในปัจจุบันให้ยาวนานขึ้น ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูแรงจูงใจและความรักในชีวิตของเรา

“การตระหนักรู้คืออาวุธที่ดีที่สุดของมนุษยชาติในการต่อสู้กับเวลา”

การนำแนวคิดไปปฏิบัติ: สามคำประกาศประจำวัน

Burchard เสนอให้เราเริ่มต้นแต่ละวันด้วยการประกาศสามสิ่งเพื่อกระตุ้นแรงจูงใจของเรา:

  1. วันนี้ ฉันจะเลือกสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า: เป็นการยืนยันถึงพลังในการเลือกของเรา และการมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่มีความหมายและสร้างผลกระทบอย่างแท้จริง
  1. วันนี้ ฉันจะสร้างแรงบันดาลใจสู่ความยิ่งใหญ่: เป็นการเตือนใจให้เราแสดงออกถึงความสม่ำเสมอและความกล้าหาญในทุกการกระทำ
  2. วันนี้ ฉันจะชะลอเวลา: เป็นการกระตุ้นให้เราอยู่กับปัจจุบันและซึมซับประสบการณ์แต่ละขณะอย่างเต็มที่

การเริ่มต้นวันด้วยคำประกาศเหล่านี้จะช่วยปรับมุมมองและทัศนคติของเราให้พร้อมรับมือกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน

การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

แนวคิดจาก “The Motivation Manifesto” สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้หลากหลายรูปแบบ ดังนี้:

  1. การตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย: แทนที่จะตั้งเป้าหมายแบบ “ปลอดภัย” ลองตั้งเป้าหมายที่ท้าทายความสามารถของเรา และเชื่อว่าเราสามารถทำได้
  2. การทบทวนค่านิยมหลัก: สำรวจว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา และพยายามทำให้การตัดสินใจในชีวิตประจำวันสอดคล้องกับค่านิยมเหล่านั้น
  3. การฝึกสติ: เริ่มต้นด้วยการฝึกสติในกิจวัตรประจำวัน เช่น การรับประทานอาหาร การเดิน หรือการฟังเพลง โดยให้ความสนใจกับรายละเอียดและความรู้สึกในขณะนั้น
  4. การจดบันทึกความสำเร็จ: ทุกคืนก่อนนอน บันทึกสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในวันนั้น แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย เพื่อสร้างความรู้สึกขอบคุณและเห็นคุณค่าในชีวิต
  5. การเรียนรู้จากความผิดพลาด: แทนที่จะกลัวความล้มเหลว มองว่ามันเป็นโอกาสในการเรียนรู้และเติบโต วิเคราะห์ว่าอะไรที่ไม่เป็นไปตามแผน และวางแผนที่จะทำให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป
  6. การสร้างเครือข่ายสนับสนุน: รายล้อมตัวเองด้วยคนที่สร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนเป้าหมายของเรา การมี community ที่เข้าใจและให้กำลังใจจะช่วยเสริมแรงจูงใจของเรา
  7. การท้าทายตัวเองอย่างสม่ำเสมอ: หาโอกาสที่จะก้าวออกจาก comfort zone ของเรา ไม่ว่าจะเป็นการลองทำอะไรใหม่ๆ หรือการพูดในที่สาธารณะ การเผชิญหน้ากับความกลัวจะช่วยสร้างความมั่นใจและขยายขอบเขตความสามารถของเรา

บทสรุป: การสร้างชีวิตที่มีแรงบันดาลใจ

แนวคิดจาก “The Motivation Manifesto” ของ Brendon Burchard เป็นเครื่องมือทรงพลังในการปลุกพลังภายในและสร้างชีวิตที่มีความหมาย การตระหนักถึงพลังแห่งการเลือก การมุ่งมั่นสู่ความยิ่งใหญ่ และการอยู่กับปัจจุบันอย่างเต็มที่ ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจและแรงจูงใจที่ยั่งยืน

การนำแนวคิดเหล่านี้มาปฏิบัติในชีวิตประจำวันอาจต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะคุ้มค่าอย่างยิ่ง เมื่อเราเริ่มมองเห็นศักยภาพที่แท้จริงของตัวเอง และกล้าที่จะไล่ตามความฝันอย่างไม่ย่อท้อ เราจะพบว่าชีวิตเต็มไปด้วยโอกาสและความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด

ท้ายที่สุด การสร้างชีวิตที่มีแรงบันดาลใจไม่ได้หมายความว่าทุกวันจะต้องสมบูรณ์แบบ แต่หมายถึงการเลือกที่จะเติบโต เรียนรู้ และก้าวไปข้างหน้าแม้ในวันที่ยากลำบาก เมื่อเราฝึกฝนการใช้พลังแห่งการเลือก การสร้างแรงบันดาลใจ และการอยู่กับปัจจุบัน เราจะพบว่าชีวิตของเรามีความหมายและเต็มไปด้วยโอกาสมากขึ้นเรื่อยๆ

References :
หนังสือ The Motivation Manifesto: 9 Declarations to Claim Your Personal Power โดย Brendon Burchard

Geek Life EP61 : หยุดทำงานหนักแบบทรมาน! 3 สวิตช์มหัศจรรย์เปลี่ยนงานน่าเบื่อให้สนุกได้ในพริบตา

ในยุคที่การทำงานหนักจนหมดไฟกลายเป็นเรื่องปกติ มีคนจำนวนไม่น้อยที่กำลังมองหาวิธีทำงานให้มีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องทุกข์ทรมาน หนังสือ “Feelgood Productivity” โดย Ali Abdaal นำเสนอมุมมองใหม่ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทำงานอย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพไปพร้อมกัน

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Life’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/3mzjxrsb

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/2ard6b74

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/LVHKLGiXqqE

Geek Life EP54 : จาก Navy SEAL สู่ CEO เปลี่ยนทีมธรรมดาให้กลายเป็นกองทัพชั้นเลิศด้วยหลัก 4D

ในโลกแห่งการทำงานที่เต็มไปด้วยความท้าทายและการแข่งขัน การเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพนั้นเป็นทักษะที่มีค่ามากกว่าทองคำ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้จัดการในบริษัท หัวหน้าทีมในโครงการ หรือแม้แต่พ่อแม่ที่กำลังนำพาครอบครัว การเรียนรู้และฝึกฝนทักษะความเป็นผู้นำนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง

เป็นหนังสืออีกหนึ่งเล่มที่มีข้อมูลน่าสนใจ Leadership Strategy and Tactics ที่เขียนโดย Jocko Willink อดีตผู้บัญชาการหน่วยซีล (Navy SEAL) ผู้ซึ่งได้นำเอาประสบการณ์และบทเรียนจากสนามรบมาประยุกต์ใช้ในโลกธุรกิจ หนังสือเล่มนี้ได้เปิดมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับทุกคน

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Life’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/y7cwm68m

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/2d7zuydy

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/1Uis7ZIEJSQ

หยุดทำงานหนักแบบทรมาน! 3 สวิตช์มหัศจรรย์ที่จะเปลี่ยนงานน่าเบื่อให้สนุกได้ในพริบตา

ในยุคที่การทำงานหนักจนหมดไฟกลายเป็นเรื่องปกติ มีคนจำนวนไม่น้อยที่กำลังมองหาวิธีทำงานให้มีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องทุกข์ทรมาน หนังสือ “Feelgood Productivity” โดย Ali Abdaal นำเสนอมุมมองใหม่ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทำงานอย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพไปพร้อมกัน

Ali Abdaal เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของคนที่สามารถทำงานหลายอย่างได้อย่างประสบความสำเร็จ เขาทำงานเป็นแพทย์เต็มเวลาควบคู่ไปกับการสร้างช่อง YouTube ที่มีผู้ติดตามหลายล้านคน

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเขาทำทั้งหมดนี้โดยแทบไม่ได้ทุกข์ทรมานมากนัก แนวคิดหลักของ Ali คือ “การรู้สึกดีมาก่อน แล้วการทำสิ่งสำคัญจะตามมา” ซึ่งตรงข้ามกับความเชื่อทั่วไปที่ว่าต้องทำงานหนักให้ประสบความสำเร็จก่อนแล้วค่อยมีความสุข

Ali ค้นพบว่าการรู้สึกดีขณะทำงานเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การเพิ่มพลังงานและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น และเมื่อเราทำงานได้ดีขึ้น เราก็จะยิ่งรู้สึกดี กลายเป็นวงจรบวกที่เสริมแรงซึ่งกันและกัน

คำถามสำคัญที่ Ali แนะนำให้ถามตัวเองบ่อยๆ คือ “ฉันจะทำให้งานนี้สนุกขึ้นได้อย่างไร?” การตั้งคำถามนี้ซ้ำๆ จะช่วยกระตุ้นให้เราคิดหาวิธีสร้างสรรค์ที่จะทำให้งานกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าสนุก

Ali เสนอว่ามีเงื่อนไขสำคัญสามประการที่ช่วยให้เรารู้สึกดีขณะทำงาน ได้แก่ ความอยากรู้อยากเห็น (Curiosity) การเชื่อมต่อ (Connection) และความมั่นใจ (Confidence)

เงื่อนไขทั้งสามนี้เปรียบเสมือนสวิตช์ที่เราสามารถเปิดก่อนเริ่มทำงาน เพื่อกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกดี เช่น โดปามีน ออกซิโตซิน และเซโรโทนิน ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนให้เราอยู่ในสภาวะที่มีประสิทธิภาพสูงและรู้สึกดีไปพร้อมกัน

วิธีหนึ่งที่ดีที่สุดในการเปิดสวิตช์ความอยากรู้อยากเห็น คือการสร้าง “ภารกิจเสริม (Side Quest)” ให้ตัวเองทุกวัน Matthew Dicks นักเล่าเรื่องระดับแชมป์โลกและนักเขียนนวนิยายขายดี เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้กลยุทธ์นี้ เมื่อครั้งที่เขาทำงานที่แมคโดนัลด์ในวัยยี่สิบ Matthew สร้างเกมการขายเพิ่มเพื่อทำให้วันทำงานของเขาน่าตื่นเต้น เขาเล่าว่า “บางวันผมตัดสินใจว่าจะเป็นวันซอสบาร์บีคิว และตลอดทั้งวันผมจะเพิ่มการเสนอขายเล็กๆ น้อยๆ ในทุกออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งซื้อ” การสร้างภารกิจเสริมแบบนี้ช่วยเปลี่ยนงานธรรมดาๆ ให้กลายเป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น

นอกจากนี้ เรายังสามารถสร้างภารกิจเสริมในรูปแบบอื่นๆ ได้อีก เช่น การสร้างเพลย์ลิสต์ดนตรีที่เหมาะกับงานของเรา การลองทำงานในสถานที่แปลกใหม่ หรือการตั้งเวลาสั้นๆ เพื่อท้าทายตัวเองว่าจะทำงานได้มากแค่ไหนในเวลาจำกัด

เราอาจวางแผนภารกิจเสริมระหว่างช่วงเวลาทำงานด้วย เช่น การใช้เวลา 5 นาทีระหว่างการทำงานเพื่อฝึกสมาธิ หรือการทดลองใช้เครื่องมือใหม่ๆ เช่น ChatGPT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การมีภารกิจเสริมเหล่านี้จะช่วยให้เรารู้สึกตื่นเต้นและอยากรู้อยากเห็นตลอดวันทำงาน

สำหรับการเปิดสวิตช์การเชื่อมต่อ วิธีที่ง่ายที่สุดคือการหาเพื่อนร่วมทางในการทำงาน แม้ว่าจะฟังดูยาก แต่จริงๆ แล้วเราสามารถทำได้โดยไม่ต้องพูดคุยกับใครเลย

Ali ยกตัวอย่างประสบการณ์ของเขาในการเข้าร่วม virtual co-working space ที่เรียกว่า “The Writer’s Hour” ซึ่งจัดโดย London Writers’ Salon

Ali เล่าว่า “ทุกวันทำงาน วันละสี่ครั้ง นักเขียนหลายร้อยคนมารวมตัวกันผ่าน Zoom ซึ่งผู้ดำเนินรายการใช้เวลา 5 นาทีในการแบ่งปันเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจ จากนั้นขอให้ผู้เข้าร่วมโพสต์ในแชทออนไลน์ว่าพวกเขาตั้งใจจะทำอะไรในช่วงเวลาเขียน จากนั้นเป็นเวลา 50 นาที ทุกคนย่อหน้าต่าง Zoom ของตนและทำงานที่คอมพิวเตอร์”

Ali กล่าวว่าการทำงานพร้อมกับคนอื่นๆ แม้จะเป็นคนละงาน ช่วยเพิ่มความสามารถในการโฟกัสและทำให้เขารู้สึกดีขึ้นอย่างมาก ปัจจุบันมีบริการ virtual co-working space หลายแห่ง เช่น Focusmate, Flow Club และ Cave Day ที่เราสามารถลองใช้ได้

หากไม่สะดวกที่จะเข้าร่วมพื้นที่เหล่านี้ เราอาจลองใช้เวลาสั้นๆ ก่อนเริ่มทำงานเพื่อนึกถึงคนอื่นๆ ที่กำลังทำงานคล้ายกับเรา และรู้สึกเสมือนว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่กำลังมุ่งสู่เป้าหมายร่วมกัน

สุดท้ายคือการเปิดสวิตช์ความมั่นใจ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเมื่อเราต้องเผชิญกับงานที่ท้าทายที่มักจะทำให้เรากลัวหรือไม่ค่อยมั่นใจ วิธีหนึ่งที่น่าสนใจในการเพิ่มความมั่นใจคือการเลียนแบบผู้เชี่ยวชาญ

มีการศึกษาที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัย Clemson ที่แสดงให้เห็นว่านักศึกษาที่ได้ดูวิดีโอของนักปีนผาผู้เชี่ยวชาญก่อนลงมือปีนเอง มีความมั่นใจมากขึ้น สนุกกับการปีนมากขึ้น และสามารถบรรลุเป้าหมายในการปีนได้เร็วกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ดูวิดีโอ

Ali เองก็ใช้เทคนิคนี้เมื่อครั้งที่เขาทำงานเป็นนักมายากลในงานปาร์ตี้ต่างๆ ระหว่างเรียน เมื่อรู้สึกไม่มั่นใจ เขาจะนึกถึงนักมายากลระดับมาสเตอร์และแสร้งทำเป็นว่าตัวเองมีความมั่นใจเหมือนพวกเขา ซึ่งช่วยให้เขาสนุกกับงานและแสดงมายากลได้อย่างราบรื่น

เราสามารถนำเทคนิคนี้มาใช้ได้ในหลายรูปแบบ เช่น การดูวิดีโอ YouTube ของผู้เชี่ยวชาญในงานที่เรากำลังจะทำ หรือการจินตนาการถึงผู้เชี่ยวชาญที่กำลังทำงานนั้นอย่างมั่นใจ จากนั้นลองเลียนแบบความมั่นใจของพวกเขาในช่วงแรกของการทำงาน วิธีนี้มักช่วยให้เราเริ่มต้นงานได้ง่ายขึ้นและค่อยๆ สร้างแรงขับเคลื่อนในการทำงานต่อไป

สรุปแล้ว แนวคิดหลักของการสร้างผลงานอย่างมีความสุขตามแนวทางของ Ali Abdaal คือการเริ่มต้นด้วยการทำให้ตัวเองรู้สึกดีก่อน แล้วประสิทธิภาพในการทำงานจะตามมาเอง เราสามารถทำได้โดย:

  1. สร้างภารกิจเสริมที่น่าสนุกเพื่อกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น
  2. หาเพื่อนร่วมทางหรือเข้าร่วม virtual co-working space เพื่อสร้างความรู้สึกเชื่อมต่อกับผู้อื่น
  3. เลียนแบบความมั่นใจของผู้เชี่ยวชาญเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง

การนำแนวคิดเหล่านี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน อาจเริ่มต้นได้ด้วยการตั้งคำถามกับตัวเองทุกครั้งก่อนเริ่มงานว่า “ฉันจะทำให้งานนี้สนุกขึ้นได้อย่างไร?” จากนั้นลองคิดหาวิธีสร้างสรรค์ที่จะทำให้งานกลายเป็นกิจกรรมที่น่าสนุก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเกมเล็กๆ น้อยๆ ให้กับตัวเอง การหาเพื่อนร่วมทำงาน หรือการจินตนาการว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญในงานนั้นๆ

สิ่งสำคัญคือการเปลี่ยนมุมมองจากการมุ่งเน้นแต่ผลลัพธ์ มาให้ความสำคัญกับกระบวนการทำงานมากขึ้น เมื่อเรารู้สึกดีและสนุกกับการทำงาน ประสิทธิภาพที่ดีจะตามมาเอง และเราจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้โดยไม่ต้องทุกข์ทรมานจนเกินไป

ในท้ายที่สุด แนวคิดการสร้างผลงานอย่างมีความสุขของ Ali Abdaal เสนอมุมมองที่น่าสนใจและท้าทายต่อวิธีคิดแบบดั้งเดิมเกี่ยวกับการทำงานและความสำเร็จ แม้ว่าอาจไม่ใช่วิธีการที่เหมาะสมกับทุกคนหรือทุกสถานการณ์ แต่การลองเปิดใจและนำแนวคิดบางส่วนไปปรับใช้ อาจช่วยให้เราค้นพบวิธีการทำงานที่มีความสุขและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้

ซึ่งข้อมูลในหนังสือ “Feelgood Productivity” อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ที่สนใจจะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดนี้ และค้นหากลยุทธ์ที่เหมาะสมกับตัวเอง

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการเปิดใจ ทดลอง และปรับใช้แนวคิดเหล่านี้อย่างยืดหยุ่น โดยคำนึงถึงบริบทและความต้องการของตนเองและองค์กร เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความสุขในการทำงานและการบรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพได้ในท้ายที่สุดนั่นเองครับผม

References :
หนังสือ Feel-Good Productivity: How to Do More of What Matters to You โดย Ali Abdaal 

Geek Life EP51 : จากคนขี้กลัวสู่ผู้ชนะ ปลดล็อกพลังซ่อนเร้น สร้างความมั่นใจแบบทหารเวสต์พอยต์

ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทายและการแข่งขัน การมีความมั่นใจเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับความสำเร็จในทุกด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นในการทำงาน การเล่นกีฬา หรือแม้แต่ในชีวิตส่วนตัว แต่ความมั่นใจไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ มันเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

Dr. Nate Zinser ผู้อำนวยการโปรแกรมจิตวิทยาการแสดงผลงานที่โรงเรียนนายร้อย West Point ได้เขียนหนังสือชื่อ “The Confident Mind” ที่นำเสนอแนวคิดและเทคนิคในการสร้างความมั่นใจอย่างมีประสิทธิภาพ

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Life’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/htwvrra8

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/2j7nmdph

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/q-DxcNDrtD4