ก่อนที่จะเกิดความคิดที่พลิกชีวิตของเขาไปตลอดกาล Richard Montañez ลูกชายของผู้อพยพชาวเม็กซิกันเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่แสนจะลำบาก เขาและพี่น้องอีกสิบคนอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เล็กๆ แค่หนึ่งห้องนอนกับพ่อแม่ที่ฝ่าฟันต่อสู้เพื่อครอบครัว
ชีวิตของ Montañez ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เขากลับมองว่านี่คือจุดเริ่มต้นของปัญญาอันล้ำค่า “ผมมีปริญญาเอกของการเป็นคนที่น่าสงสาร ความหิวโหย และความมุ่งมั่น” อดีตภารโรงผู้นี้เคยให้สัมภาษณ์กับวอชิงตันโพสต์ด้วยความภาคภูมิใจ
“ผมเชื่อว่าเมื่อคุณได้สัมผัสทั้งสามสิ่งนี้แล้ว คุณจะเกิดปัญญามากมาย ความยากจนไม่ใช่อุปสรรค แต่เป็นแรงผลักดันให้เกิดนวัตกรรมหลายอย่าง” คำพูดที่เต็มไปด้วยพลังและแรงบันดาลใจจากชายผู้มีชีวิตโชกโชนวัย 67 ปี
จิตวิญญาณของนักสร้างสรรค์ในตัว Montañez เริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่เขายังเด็ก วันแรกที่เขาไปโรงเรียนประถมปีที่ 3 แม่ของเขาเตรียมเบอร์ริโตให้เป็นอาหารกลางวัน แต่เขากลับรู้สึกอายเมื่อเห็นว่าเพื่อนร่วมชั้นมีอาหารกลางวันที่แตกต่างจากเขา
“ในช่วงทศวรรษ 1960 มีคนเพียงไม่กี่คนที่เคยเห็นเบอร์ริโต” เขาเล่าในหนังสือของเขา “เด็กชายเบอร์ริโตและคุกกี้” “ทุกคนจ้องมองมาที่ผม ผมรีบใส่มันกลับเข้าไปในกระเป๋าและซ่อนมันไว้”
วันต่อมา เขาขอให้แม่ทำ “แซนวิชโบโลน่าและคัพเค้กเหมือนเด็กคนอื่นๆ” แทน แต่แม่กลับตอบสนองด้วยวิธีที่แตกต่าง เธอเตรียมเบอร์ริโตให้ถึงสองชิ้น หนึ่งสำหรับให้เขากิน และอีกชิ้นสำหรับให้เขาหาเพื่อน
เพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ ผู้ประกอบการวัย 7 ขวบรายนี้เริ่มขายเบอร์ริโตในราคาชิ้นละ 0.25 ดอลลาร์ นี่คือจุดเริ่มต้นของการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่หลายคนมองข้าม ความเทพของเด็กน้อยที่หลายคนไม่เคยนึกถึง
หลังจากดิ้นรนกับการเรียนรู้การอ่านและการเขียนขั้นพื้นฐาน Montañez ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน ชีวิตพาเขาไปพบกับงานหลากหลายที่มีรายได้ต่ำ ทั้งการเชือดไก่และการทำสวน การขาดการศึกษาอย่างเป็นทางการไม่ได้ทำให้เขาถอดใจ แต่กลับเป็นแรงผลักดันให้เขาพยายามมากขึ้น
วันหนึ่งขณะที่เขากำลังทำงานที่ร้านล้างรถ เพื่อนของเขามาบอกข่าวที่เปลี่ยนชีวิตเขา Frito-Lay กำลังเปิดรับสมัครพนักงาน โอกาสที่จะเปลี่ยนชีวิตกำลังมาถึง
ด้วยความหวังและความกล้า Montañez ไปที่โรงงาน Frito-Lay ในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ เขาขอใบสมัครแม้จะอ่านหรือเขียนแทบไม่ได้ เขาขอให้ภรรยาในอนาคตช่วยกรอกเอกสารแทน และส่งใบสมัครไปในวันนั้นเลย บริษัทตอบรับให้เขาเริ่มงานในตำแหน่งภารโรง
ความคิดสุดเจ๋งที่นำไปสู่การสร้าง Flamin’ Hot Cheetos เกิดขึ้นโดยบังเอิญในวันที่เครื่องจักรเกิดขัดข้องในสายการผลิต Cheetos บางส่วนไม่ได้รับการโรยด้วยผงชีสสีส้มมาตรฐาน นี่คือจุดเริ่มต้นของไอเดียสุดล้ำ
Montañez นำ Cheetos ธรรมดากลับบ้านและเริ่มทดลองใส่พริกป่นลงไป แรงบันดาลใจของเขามาจากพ่อค้าแม่ค้าข้างถนนในละแวกบ้านที่ขายข้าวโพดย่างแบบเม็กซิกันราดด้วยมะนาวและพริก เพื่อนและครอบครัวของเขาต่างชื่นชอบรสชาตินี้เป็นอย่างมาก
ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 PepsiCo กำลังเผชิญกับความท้าทายทางธุรกิจ คู่แข่งมากมายและการขาดแคลนไอเดียใหม่ๆ ทำให้ Roger Enrico ซีอีโอของบริษัทต้องประกาศต่อพนักงานกว่า 300,000 คนว่าพวกเขาต้องการความคิดสร้างสรรค์เพื่อรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่
นี่คือโอกาสที่ Montañez รอคอย เขาตัดสินใจติดต่อ CEO โดยตรง ซึ่งหลังจากได้รับฟังไอเดียคร่าวๆ แล้ว Enrico ให้เวลาเขาสองสัปดาห์เพื่อเตรียมการนำเสนอกับผู้บริหารบริษัท การตัดสินใจครั้งนี้เปรียบเสมือนการเข้าถ้ำเสือ แต่เขาไม่ลังเล
ด้วยความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละ Montañez มุ่งตรงไปที่ห้องสมุดเพื่อศึกษาเรื่องการตลาดและการออกแบบผลิตภัณฑ์ เขาสร้างบรรจุภัณฑ์ต้นแบบ และเดินเข้าห้องประชุมด้วยความมั่นใจด้วยเน็คไทราคาเพียง 3 ดอลลาร์
“พวกเขาทึ่งกับการออกแบบผลิตภัณฑ์” เขาเล่าด้วยรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ และแล้ว Flamin’ Hot Cheetos ก็ถือกำเนิดขึ้น จนถึงทุกวันนี้ สแน็คเผ็ดร้อนนี้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของ Frito-Lay และกลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่
การนำเสนอครั้งนั้นไม่เพียงแต่สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับบริษัท แต่ยังเปิดประตูสู่เส้นทางอาชีพอันรุ่งโรจน์ของ Montañez Montañez สามารถไต่เต้าตำแหน่งจากภารโรงไปสู่ระดับผู้บริหารของ PepsiCo ได้อย่างน่าทึ่ง ความฝันที่หลายคนอาจมองว่าเป็นสิ่งเพ้อฝันกลับกลายเป็นความจริง
ทุกวันนี้ เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ นำเสนอเรื่องราวและแนวคิดเกี่ยวกับความสำคัญของความหลากหลายในธุรกิจต่อบริษัทชั้นนำต่างๆ Fox Searchlight Pictures ยังได้สร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตที่น่าทึ่งของเขาอีกด้วย เรื่องราวของเขาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอีกมากมาย
Montañez มักจะย้อนคิดว่าชีวิตของเขาคงแตกต่างออกไปมากหากเขาไม่กล้าที่จะนำเสนอไอเดียกับ CEO โดยตรง ประสบการณ์นี้ทำให้เขาได้บทเรียนสำคัญที่เขาแบ่งปันกับผู้อื่นอยู่เสมอ
“อย่ามองตำแหน่งของคุณอย่างไร้ค่า ไม่ว่าคุณจะเป็นอะไรก็ตาม” Montañez กล่าว “จะเป็น CEO หรือภารโรง ก็จงทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของบริษัท”
อย่างไรก็ตาม มีเรื่องราวอีกด้านที่ต้องรู้ เพราะคำกล่าวอ้างของ Richard Montañez ว่าเขาเป็นผู้คิดค้น Flamin’ Hot Cheetos ถูกโต้แย้งในรายงานปี 2021 ของ LA Times ทางบริษัท Frito-Lay ได้ออกแถลงการณ์ว่า:
“เราให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของ Richard ต่อบริษัทของเรา โดยเฉพาะข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคชาวฮิสแปนิก แต่เราไม่ได้ให้เครดิตการสร้าง Flamin’ Hot Cheetos หรือผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของ Flamin’ กับเขาเพียงคนเดียว”
ในการตอบโต้ Montañez ยืนยันความถูกต้องของเรื่องราวของเขาใน Variety .com โดยอธิบายว่าเขาไม่รู้ว่าแผนกอื่นๆ ของบริษัทกำลังดำเนินการทดลองคล้ายๆ กันอยู่ในขณะนั้นเช่นกัน
ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร เรื่องราวของ Montañez ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนมากมาย มันแสดงให้เห็นว่าความกล้าหาญ ความคิดสร้างสรรค์ และความมุ่งมั่นสามารถพลิกชีวิตคนธรรมดาให้กลายเป็นเรื่องราวความสำเร็จที่น่าทึ่งได้
อดีตภารโรงผู้ซึ่งแทบจะอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ได้กลายเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทระดับโลก เป็นเรื่องราวที่เป็นที่เตือนใจเราว่าไม่มีอุปสรรคใดที่ไม่สามารถก้าวผ่านได้หากมีความตั้งใจจริง
โลกธุรกิจและการตลาดเต็มไปด้วยความท้าทายและการแข่งขัน แต่เรื่องราวของ Montañez สอนให้เรารู้ว่า บางครั้งไอเดียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอาจมาจากสถานที่หรือบุคคลที่คาดไม่ถึงที่สุด
Richard Montañez ไม่ใช่แค่เรื่องราวของความสำเร็จทางธุรกิจ แต่เป็นตัวอย่างของพลังแห่งการมองเห็นคุณค่าในตัวเอง ไม่ว่าคุณจะอยู่ในตำแหน่งไหนหรือมีภูมิหลังอย่างไร คุณสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้เสมอ หากคุณกล้าที่จะฝัน กล้าที่จะลงมือทำ และกล้าที่จะไม่ยอมแพ้
References: [washingtonpost, latimes, variety, forbes, biography]