ประวัติ Steve Jobs ผู้สร้าง iPod ตอนที่ 5 : Digital Hub

สถานการณ์ของ apple เริ่มกลับมาดูดีขึ้นอีกครั้ง หลังจากทำยอดขายได้ถล่มทลายจากผลิตภัณฑ์ตัวชูโรงตัวใหม่ อย่าง iMac ซึ่งเป็นผลงานการรังสรรค์ ที่ผสมผสานความงดงามด้านศิลปะ จาก ไอฟฟ์ และ โครงสร้างพื้นฐานทางวิศวกรรมที่แข็งแกร่ง ไร้ที่ติ จาก จ๊อบส์

การได้ ทิม คุก เข้ามาจัดการเรื่องซัพพลายเชน ของ apple ทำให้สถานการณ์ทางการเงินดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เรียกว่าเพียงไม่กี่ปีที่จ๊อบส์ เข้ามาทำงานอย่างหนักเพื่อปรับเปลี่ยนหลาย ๆ อย่างใน apple ในรอบสองนี้ มันกำลังเริ่มเห็นผลลัพธ์ ทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ดี ซึ่งมันแสดงให้เห็นชัดเจนอย่างยิ่งในเรื่องตัวเลข ของรายได้ และ กำไรของบริษัท apple ที่รายงานต่อสาธารณะชน

ได้ทิม คุก keyman คนสำคัญมาช่วยด้านซัพพลายเชน และการผลิต
ได้ทิม คุก keyman คนสำคัญมาช่วยด้านซัพพลายเชน และการผลิต

และในทุก ๆ ปี จ๊อบส์ จะพาพนักงานที่มีความสำคัญที่สุดไปเข้าค่ายประชุม และพักผ่อนนอกสถานที่ร่วมกัน ซึ่งเขาเรียกงานนี้ว่า “The Top 100”  ซึ่งเหล่า 100 คนที่ได้ถูกคัดเลือกนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นผู้บริหารหรือวิศวกรหัวกะทิระดับแนวหน้าของ apple แทบจะทั้งสิ้น

ซึ่งการเข้าค่ายในทุก  ๆ ปี ก็จะมีการรวมหัวกันคิดว่า apple ควรจะทำอะไรเป็นลำดับถัดไป โดยให้มีการ ลิสต์ 10 หัวข้อที่ apple ควรจะทำต่อจากนี้คืออะไร?  แล้วให้ผู้บริหารและพนักงานหัวกะทิ เหล่านี้ ถกเถียงกัน โดยจ๊อบส์ จะคอยเป็นกรรมการ และยังคอยช่วยคัดกรองหัวข้อที่เขาคิดว่า “ไม่ได้เรื่อง” ออกไปทีละหัวข้อ และสุดท้าย มันจะเหลือเพียง 3 หัวข้อที่ทั้งหมดสรุปกันว่าน่าจะทำได้เท่านั้น

ก้าวเข้าสู่ปี 2001 Apple ก็สามารถที่จะกอบกู้ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของบริษัทให้กลับมาฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง และตอนนี้มันถึงเวลาที่จะต้องคิดต่าง รายการลำดับต้น ๆ จากการเข้าค่าย “The Top 100” นั้น มันกำลังจะกลายเป็นโครงการลำดับถัดไปของ apple เพราะสถานการณ์ต่าง ๆ ในบริษัท เริ่มกลับมาอยู่ในภาวะปรกติแล้ว

ถึงเวลาที่ apple ต้องคิดต่าง เพื่อเข้าสู่ยุคใหม่
ถึงเวลาที่ apple ต้องคิดต่าง เพื่อเข้าสู่ยุคใหม่

ในขณะนั้น วงการเทคโนโลยี อยู่ในสภาวะ มืดมนเต็มที เกิดฟองสบู่ ดอทคอม ขึ้นในปี 2000 บริษัท it ใน ซิลิกอน วัลเลย์ โดยเฉพาะ startup หน้าใหม่ อยู่ในสภาวะล้มละลาย นักลงทุนเริ่มหนีหาย ตลาดหุ้น NASDAQ หล่นฮวบไปกว่า 50% จากยุคที่เคยเฟื่องฟูแบบสุด ๆ และมันถึงจุดอิ่มตัวของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแล้ว

Digital Hub

และจ๊อบส์ ก็ได้เปิดวิสัยทัศน์ใหม่ โดย จะแปลงโฉม apple โดยทำการปรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลให้กลายเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมดิจิตอล หรือ “ดิจิตอลฮับ” มันจะปรับหน้าที่ของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ให้คอยประสานงานอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็น ดิจิตอล ตั้งแต่เครื่องเล่นเพลง กล้องวิดีโอ ไปจนถึง กล้องถ่ายรูป โดยให้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเป็นศูนย์กลาง ให้อุปกรณ์ต่างๆ  เหล่านี้เข้ามาเชื่อมต่อ

จ๊อบส์ เปิดวิสัยทัศน์ใหม่ หลังจากบริษัทเริ่มกลับมาอยู่ในสภาวะปรกติ
จ๊อบส์ เปิดวิสัยทัศน์ใหม่ หลังจากบริษัทเริ่มกลับมาอยู่ในสภาวะปรกติ

คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล จะกลายเป็นอุปกรณ์ ที่คอยจัดการเพลง แสดงภาพ วีดีโอ หรือ ข้อมูลทางดิจิตอลต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่จ๊อบส์ เรียกมันว่า “ไลฟ์สไตล์แบบดิจิตอล” ซึ่งจะเป็นรากฐานที่สำคัญของ apple ในยุคต่อไป

apple นั้นจะไม่เป็นเพียงแค่บริษัทคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป โดยจ๊อบส์ ได้ตัดคำว่า คอมพิวเตอร์ ออกจากชื่อบริษัทด้วย โดยเครื่อง Mac นั้นจะผันตัวเองมาเป็นศูนย์กลางสำหรับอุปกรณ์ใหม่ ๆ อีกหลากหลาย รูปแบบ 

ให้ Mac เป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อกับ อุปกรณ์ ดิจิตอลทั้งหลาย
ให้ Mac เป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อกับ อุปกรณ์ ดิจิตอลทั้งหลาย

มันมีหลายสาเหตุ ที่ทำให้จ๊อบส์ นั้นสามารถมองเห็น และอ้าแขนรับยุคใหม่แห่งการปฏิวัติ ดิจิตัล ได้ดีกว่าคนอื่น ๆ จ๊อบมีทั้งส่วนประกอบของศิลปศาสตร์และเทคโนโลยี เขารักเสียงเพลง รูปภาพ วีดีโอ และยังรักคอมพิวเตอร์อีกด้วย

ซึ่งหัวใจของวิสัยทัศน์ใหม่ของจ๊อบส์ ในเรื่อง ดิจิตอลฮับ คือ การเป็นตัวเชื่อมความนิยมชมชอบที่เขามี กับ ความคิดสร้างสรรค์ทั้งทางศิลปะและงานวิศวกรรม ที่มีการหลอมรวมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

ในตอนท้ายของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทุก ๆ ครั้ง จ๊อบส์ จะฉายสไลด์ เป็นรูปจุดที่มีการบรรจบระหว่างความเป็น “ศิลปศาสตร์” กับ “เทคโนโลยี” และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงคิดเรื่องดิจิตอลฮับได้ก่อนใครเพื่อน และเขาจะกำลังจะนำพา apple ก้าวไปยังจุดนั้นให้ได้

และด้วยความที่จ๊อบส์ นั้นเป็นคนที่รักในความสมบูรณ์แบบ เขาจึงรู้ว่า ต้องมีการบูรณาการทุกแง่มุมของผลิตภัณฑ์ เข้าด้วยกัน ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ คอนเทนต์ และ การตลาด ซึ่งจะทำให้ apple เป็นฝ่ายได้เปรียบ ในโลกยุค ดิจิตอลฮับ เพราะ เขาสามารถ control ทุกอย่างได้ใน ecosystem ของเขา ข้อมูล หรือ คอนเทนต์ ในอุปกรณ์พกพาต่าง ๆ จะถูกควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ของ apple ได้อย่างแนบเนียนแบบไม่สะดุด

ซึ่งตอนนี้ มันถึงเวลาแล้ว ที่เขาจะต้อง ทุ่มเทหมดหน้าตัก กับวิสัยทัศน์ใหม่ดังกล่าว ฟองสบู่ดอตคอมที่แตกไป ทำให้บริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ต้องเริ่มระมัดระวังในเรื่องการลงทุนกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ซึ่งนี่เป็นช่องว่างที่สำคัญ ที่จะเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสของบริษัทอย่าง apple

เน้นทุ่มเทให้กับงานวิจัยและพัฒนา ในช่วงวิกฤต เพื่อฉีกหนีคู่แข่ง
เน้นทุ่มเทให้กับงานวิจัยและพัฒนา ในช่วงวิกฤต เพื่อฉีกหนีคู่แข่ง

จ๊อบส์ จึงตัดสินใจที่จะใช้วิธีลงทุนตลอดระยะเวลาที่เศรษฐกิจกำลังตกต่ำในขณะนั้น  ในช่วงเวลาที่คู่แข่งต่าง ๆ กำลังเก็บตัวเงียบ เขาได้ทุ่มเงินให้กับงบในการวิจัย และพัฒนา ประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมา และเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นมา apple ก็จะนำหน้าคู่แข่งไปไกลทันที ซึ่งจะเป็นที่มาของทศวรรษอันยิ่งใหญ่แห่งนวัตกรรมที่ยั่งยืนที่สุดของบริษัท apple ในยุคใหม่

ต้องบอกว่า มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมมากจริง ๆ สำหรับ apple ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ กำลังชะลอการลงทุนในผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มันเป็นช่องว่างที่สำคัญ ที่จะทำให้ apple กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และ นั่นเป็นที่มาของการสร้างนวัตกรรม ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของความยิ่งใหญ่ของ apple ที่จะเกิดขึ้นในยุคหลังจากนั้น เพราะจ๊อบส์กำลังที่จะสร้าง อุปกรณ์เล่นเพลงแบบพกพา ที่ตอนนั้นแทบทุกยี่ห้อล้วนมีปัญหาใช้งานยาก และมี user interface ที่ซับซ้อน  แล้วจ๊อบส์นั้น จะสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาได้อย่างไร วิสัยทัศน์ เรื่อง ดิจิตอลฮับนั้น จะเปลี่ยนแปลง apple ไปได้แค่ไหน โปรดติดตามตอนต่อไป

–> อ่านตอนที่ 6 : The Magical Port

<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :The Second Coming  *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***

Credit แหล่งข้อมูลบทความ

ประวัติ Steve Jobs ผู้สร้าง iPod ตอนที่ 4 : Crazy Jobs

ไม่มีใครสงสัยในเรื่องที่จ๊อบส์ เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ และ มีวิสัยทัศน์ ซึ่ง จ๊อบส์นั้นได้แสดงคุณสมบัติเหล่านี้ให้เห็นอย่างชัดเจนตั้งแต่เขาคุม apple ในสมัยแรก แต่ปัญหาหลักของจ๊อบส์ น่าจะอยู่ที่การบริหารงานบริษัทมากกว่า การทะเลาะกับทีมงานไปทั่ว นิสัยเอาแต่ใจตัวเอง รวมถึง การดูถูก เหยีดหยาม แม้กระทั่งทีมงานตัวเอง หากทำอะไรไม่ดั่งใจของเขา นั้นเป็นสาเหตุสำคัญที่ ทำให้เขาถูกบีบออกจาก apple ในปี 1985

การกลับมาครั้งที่สองในรอบนี้ของจ๊อบส์นั้น เขาเติบโตขึ้นมาก ทั้งในเรื่องความคิด และ นิสัยส่วนตัว หลักการบริหารของ apple ในยุคใหม่ของเขามันเป็นคำสั้น ๆ แต่มี impact อย่างมหาศาลต่อ apple คือ คำว่า “โฟกัส”

ในการบริหาร apple รอบสองนี้ ยึกหลักใหญ่ที่สำคัญคือ
ในการบริหาร apple รอบสองนี้ ยึดหลักใหญ่ที่สำคัญคือ “โฟกัส”

เขาได้เริ่มตัดสายผลิตภัณฑ์ ที่ไม่จำเป็นทิ้ง ตัด function หรือ features ที่ไม่จำเป็นสำหรับระบบปฏิบัติการใหม่ของ apple ออกไป  ในเรื่องการผลิตนั้นเขาหันไปจ้างผู้ผลิตจากภายนอกให้ทำแทนทุกอย่าง ตั้งแต่แผงวงจร ไปจนถึง คอมพิวเตอร์ที่ประกอบเสร็จสมบูรณ์แล้ว 

เขาเพิ่มความเฮี้ยบ กับเหล่า ซัพพลายเออร์ทุกราย โดยให้มีวินัยอย่างเคร่งครัด ปรับการจัดการสินค้าคงคลังใหม่ทั้งหมด โดยเมื่อถึงต้นปี 1998 นั้น จ๊อบส์ นั้นสามารถลดปริมาณสินค้าคงคลังให้ลดลงเหลือเพียงครึ่งนึงจากเดิม ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นต้นทุนแฝง ที่สูญเงินเปล่าของ apple แทบจะทั้งสิ้น และเพียงไม่นานก็ส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัททันที โดยมีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 500 ล้านเหรียญ จากการจัดการเรื่องดังกล่าวทั้งหมด

เรียกได้ว่าการกลับมารอบใหม่ของจ๊อบส์ นั้น เค้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง มีเพียงนิสัยเดิม ๆ บางอย่างที่ยังคงเหลืออยู่บ้าง แต่ อยู่ในหลักการหลักที่จ๊อบส์ยึดมั่นไว้เสมอในการบริหารงาน apple รอบนี้ คือ การ โฟกัส กับสิ่งที่ทำ

และด้วยการทำงานอย่างบ้าคลั่งของ จ๊อบส์ นั้นทำให้ผู้บริหารหลาย ๆ รายเริ่มจะทนความกดดันไว้ไม่ไหว หลังจากจ๊อบส์ บริหารงานได้ 3 เดือน ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของ apple ก็ต้องขอลาออก และเป็นเวลาเกือบปีที่จ๊อบส์ นั้นต้องลงมาดูงานปฏิบัติการทั้งหมดด้วยตัวเอง เพราะผู้สมัครในตำแหน่งนี้ทุกคนที่เขาสัมภาษณ์ นั้น ยังไม่ถูกใจเขา เขาอยากได้คนที่สามารถสร้างระบบโรงงานซัพพลายเชนแบบทันท่วงที หรือ (just-in-time-JIT) อย่างที่ ไมเคิล เดลล์ เคยทำได้มาแล้ว

Tim Cook

และในที่สุดปี 1998 จ๊อบส์ ก็ได้เจอกับ ทิม คุก ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อและซัพพลายเชนของ Compaq Computers ซึ่งในขณะนั้น เป็นหนุ่มโสด วัย 37 ปี  คุก นั้นตกหลุมเสน่ห์ของจ๊อบทันทีเมื่อได้สัมภาษณ์งานกับจ๊อบ เขาใช้เวลาเพียง 5 นาที ในการตัดสินใจมาร่วมงานกับจ๊อบส์ ซึ่งการร่วมงานกับ apple นั้นเป็นโอกาสเดียวในชีวิตที่จะได้ทำงานกับ อัจฉริยะด้านความคิดสร้างสรรค์อย่าง จ๊อบส์

บทบาทหลักของ คุก ที่ apple คือการนำสิ่งที่จ๊อบส์คิด มาลงมือปฏิบัติ การที่เขาเป็นหนุ่มโสด ทำให้เขาสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เขาตื่นตีสี่ครึ่งในทุกวัน ออกกำลังกายเสร็จ เขาก็จะเข้ามาที่ office ของ apple ในเวลาหกโมงเศษ

การได้จิ๊กซอว์ ชิ้นสำคัญอย่าง คุก มานั้น ทำให้ apple สามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมหาศาล คุกนั้นได้ลดจำนวนซัพพลายเออร์รายสำคัญของ apple จาก 100 รายให้เหลือเพียง 24 ราย เขาได้เกลี้ยกล่อมให้ซัพพลายเออร์หลายราย ย้ายโรงงานมาอยู่ใกล้ ๆ โรงงานของ apple

ทิม คุก คือ keyman คนสำคัญที่ จ๊อบส์ ไว้ใจมากที่สุด
ทิม คุก คือ keyman คนสำคัญที่ จ๊อบส์ ไว้ใจมากที่สุด

สิ่งที่จ๊อบส์ทำได้คือ เคยลดสินค้าคงคลังจากเดิมที่มีปริมาณเท่ากับ 2 เดือน ให้เหลือเพียงเดือนเดียวได้ในปี 1998 แต่ คุก นั้นสามารถทำให้ จ๊อบส์ เซอร์ไพรซ์อย่างมาก ด้วยการทำให้มันลดเหลือเพียงแค่ 2 วัน ซึ่งนับว่าน่าทึ่งมาก และเขายังสามารถที่จะลดระยะเวลาในการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ของ apple แต่ละเครื่องลงจาก 4 เดือน เหลือเพียงแค่ 2 เดือน ซึ่งทั้งหมดนี้นอกจากจะช่วยประหยัดเงินแล้วนั้น ยังทำให้คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องได้ใช้ชิ้นส่วนล่าสุดที่มีอยู่ในท้องตลาดอีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างตลาดคอมพิวเตอร์

และที่สำคัญนั้น ทิม คุก นั้นเป็นคนเดียวที่รู้ว่า จ๊อบส์ ต้องการอะไร มีวิสัยทัศน์ ในด้านการผลิตแบบเดียวกับจ๊อบส์ และสามารถคุยสื่อสารเรื่องยุทธศาสตร์ระดังสูงได้ ทำให้ คุก กลายมาเป็นคนที่ จ๊อบส์ ไว้ใจมากที่สุด

Presenter ระดับเซียน

หนึ่งใน skill ที่สำคัญที่สุดอย่างนึงของจ๊อบส์ คือ เขากลายเป็นพรีเซ็นเตอร์ระดับเซียน ซึ่งไม่มีผู้นำคนใด แม้กระทั้งบริษัทใหญ่ ๆ ในอเมริกา เองก็ตามที สามารททำได้อย่างที่เขาทำ

การนำเสนอของจ๊อบส์แต่ละครั้งนั้น มันเหมือนมีมนต์สะกด ให้กับผู้ฟัง คอยจดจ่อกับการบรรยาย สรรพคุณ หรือ ผลิตภัณฑ์ของ จ๊อบส์ และเขาเริ่มจะเก็บทุกอย่างไว้เป็นความลับไม่ให้แพร่งพรายออกไปถึงมือสื่อ ก่อน การพรีเซ็นต์ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของ apple

skill ที่สำคัญคือ การ present บนเวทีของ จ๊อบส์
การนำเสนอของจ๊อบส์แต่ละครั้งนั้น มันเหมือนมีมนต์สะกดต่อผู้ฟังให้คล้อยตาม

ซึ่งงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แต่ละครั้งนั้น จ๊อบ และทีมงานต้องเตรียมการอย่างละเอียด จ๊อบส์ นั้นจะเขียนคำบรรยายสไลด์และประเด็นที่จะพูดด้วยตัวเองทั้งหมด และซ้อมการพรีเซ็นต์อย่างหนัก ก่อนที่จะขึ้นเวทีจริง

และการสาธิตผลิตภัณฑ์แต่ละครั้ง นั้น จะใช้เพียงเวทีที่ปล่อยโล่ง มีของประกอบฉาก เพียงไม่กี่ชิ้นเพียงเท่านั้น ซึ่งมันเป็นการสะท้อนถึงอัตลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ apple เป็นอย่างดี เพราะมันเป็นความเรียบง่าย แต่ลึกลงไปนั้น มันคือความเหนือชั้นอย่างแท้จริง

การกลับมาในครั้งนี้ของจ๊อบส์ นั้น มันกำลังเปลี่ยน apple ไปอย่างสิ้นเชิง เขามาพร้อมกับไฟที่เต็มเปี่ยม ทั้งประสบการณ์จากความพลาดพลั้งที่ผ่านมา มันเป็นบทเรียนให้จ๊อบส์ จะไม่ทำพลาดอีกในคำรบที่สอง ครั้งนี้ จ๊อบ ได้รวบรวม ทีมงานที่มีคุณภาพในทุกด้าน

สุดยอดทีมงานคุณภาพของจ๊อบส์
สุดยอดทีมงานคุณภาพของจ๊อบส์

ทุกคนเป็นคนที่จ๊อบส์ คัดเลือกมากับมือ ที่พร้อมจะพา apple ทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่กลัวใครอีกต่อไปแล้ว จ๊อบส์ กำลังจะเปลี่ยนโลกอีกครั้ง และครั้งนี้ มันจะยิ่งใหญ่กว่าเดิมอย่างแน่นอน โปรดอย่าพลาดติดตามตอนต่อไปเด็ดขาด 

–> อ่านตอนที่ 5 : Digital Hub

<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :The Second Coming  *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***

Credit แหล่งข้อมูลบทความ