เลิกทำงานเพื่อ Resume! ชีวิตมีค่ากว่านั้น บทเรียนจากคน Fortune 500 สู่เจ้าของธุรกิจระดับโลก

เมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงชีวิตการทำงาน บางครั้งคำแนะนำที่แย่ที่สุดกลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นำพาเราไปสู่เส้นทางที่ดีกว่า เช่นเดียวกับประสบการณ์ของ Scott Dinsmore ผู้ก่อตั้ง Live Your Legend ที่ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนว่า “อย่าไปกังวลว่าคุณจะชอบงานที่ทำหรือไม่ แค่สร้าง resume ให้ดูดีก็พอ” ในช่วงที่เขาเพิ่งกลับจากสเปนและเริ่มทำงานที่บริษัทในกลุ่ม Fortune 500

ด้วยความกระตือรือร้นและความหวังที่จะสร้างผลกระทบให้กับโลก Scott เริ่มต้นการทำงานอย่างเต็มที่ แต่เพียงแค่สองเดือนผ่านไป เขาเริ่มรู้สึกถึงความอึดอัดและความไม่มีความสุขในการทำงาน จนถึงขั้นรู้สึกอยากจะกระแทกหัวใส่จอคอมพิวเตอร์ทุกวันเวลา 10 โมงเช้า สถานการณ์ยิ่งแย่ลงเมื่อพบว่าบริษัทคู่แข่งได้นำระบบอัตโนมัติมาแทนที่ตำแหน่งงานของเขา

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ Scott ได้อ่านคำพูดของ Warren Buffett ที่กล่าวว่า “การทำงานเพื่อสร้าง resume เหมือนกับการเก็บเซ็กส์ไว้ตอนแก่” คำพูดนี้สะกิดใจเขาอย่างแรง จนตัดสินใจลาออกจากงานภายในสองสัปดาห์ โดยมีเป้าหมายเดียวคือการค้นหาสิ่งที่เขาสามารถทุ่มเทได้อย่างเต็มที่ แม้จะมีโอกาสผิดพลาด

การศึกษาของ Deloitte เผยว่ากว่า 80% ของคนทั่วไปไม่มีความสุขกับงานที่ทำ นี่เป็นตัวเลขที่น่าตกใจและกระตุ้นให้ Scott เริ่มศึกษาค้นคว้าว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้คนกลุ่มน้อยที่เหลือมีความสุขและประสบความสำเร็จในการทำงาน เขาใช้เวลาสัมภาษณ์ผู้คนที่ทำงานด้วยความหลงใหล อ่านหนังสือและกรณีศึกษากว่า 300 เล่มเกี่ยวกับการค้นหาจุดมุ่งหมายในชีวิตและการงาน

จากการศึกษาอย่างลึกซึ้ง Scott ได้ค้นพบหลักการสำคัญ 3 ประการที่เป็นกุญแจสู่การทำงานที่มีความหมาย ประการแรกคือการรู้จักและเข้าใจตัวเอง ซึ่งไม่มีใครสามารถทำแทนเราได้ เราต้องค้นหาจุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง สิ่งที่เรารักและยินดีทำโดยไม่หวังผลตอบแทน รวมถึงสิ่งที่ผู้อื่นมักขอบคุณเรา

ประการที่สองคือการกล้าที่จะท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง เหมือนกับที่ Roger Bannister เป็นคนแรกที่พิสูจน์ว่ามนุษย์สามารถวิ่งระยะทางหนึ่งไมล์ได้ในเวลาต่ำกว่า 4 นาที ซึ่งในสมัยนั้นเชื่อกันว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หลังจากที่เขาทำสำเร็จ ภายในเวลาเพียงสองเดือนก็มีนักวิ่งอีก 16 คนสามารถทำลายสถิตินี้ได้เช่นกัน

ประการสุดท้ายคือการเลือกคบหาสมาคมกับผู้คนที่สร้างแรงบันดาลใจ Jim Rohn เคยกล่าวไว้ว่า “คุณคือค่าเฉลี่ยของคน 5 คนที่คุณใช้เวลาด้วยมากที่สุด” ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วจากการศึกษาของ Norman Triplett ในปี ค.ศ. 1898 ที่พบว่านักปั่นจักรยานจะทำผลงานได้ดีขึ้นเมื่อปั่นเป็นกลุ่มมากกว่าปั่นคนเดียว

การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่มักเริ่มต้นจากการตัดสินใจเล็กๆ การที่เราเลือกจะอยู่ท่ามกลางผู้คนที่มีแรงบันดาลใจและความหลงใหลในสิ่งที่ทำ จะช่วยยกระดับมาตรฐานและมุมมองของเราให้สูงขึ้น เปลี่ยนคำถามจาก “ฉันจะทำได้อย่างไร” เป็น “ฉันจะไม่ทำได้อย่างไร” เมื่อเห็นตัวอย่างของความสำเร็จรอบตัว

Live Your Legend เติบโตขึ้นจากชุมชนเล็กๆ ที่มีผู้ติดตามเพียงสามคน จนกลายเป็นการเคลื่อนไหวระดับโลกที่มีสมาชิกกว่า 65,000 คนจาก 158 ประเทศ หลังจากที่ Scott ได้ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมและเริ่มคบหากับผู้คนที่มีแนวคิดสร้างสรรค์ในซานฟรานซิสโก

ในโลกปัจจุบัน เราเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ผู้คนกล้าที่จะออกจากงานที่ไม่มีความสุขเพื่อไล่ตามความฝัน แม้ในช่วงเศรษฐกิจที่ท้าทาย นี่เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าผู้คนเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการทำงานที่มีความหมาย และพร้อมที่จะละทิ้งเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้เพื่อสร้างเส้นทางของตัวเอง

เหมือนที่มหาตมะ คานธี เคยกล่าวไว้ว่า “แรกเริ่มพวกเขาเพิกเฉยต่อคุณ แล้วพวกเขาหัวเราะเยาะคุณ แล้วพวกเขาต่อสู้กับคุณ แล้วคุณชนะ” การค้นหาและทำงานที่เรารักไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นความรับผิดชอบของเราที่จะแสดงให้โลกเห็นว่าสิ่งที่เคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ สามารถกลายเป็นความปกติใหม่ได้

คำถามสำคัญที่สุดที่เราต้องถามตัวเองคือ “อะไรคืองานที่เราไม่สามารถไม่ทำได้?” เมื่อค้นพบคำตอบแล้ว จงทุ่มเทให้กับมันอย่างเต็มที่ ไม่เพียงเพื่อตัวเราเอง แต่เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนรอบข้าง เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่

References :
How to find and do work you love | Scott Dinsmore | TEDxGoldenGatePark (2D)
https://youtu.be/jpe-LKn-4gM?si=w2283Tp9tl1DzTQr

Geek Life EP123 : Vector สอนชีวิต ทำไมทิศทางสำคัญกว่าความพยายาม บทเรียนล้ำค่าที่ซ่อนอยู่ใน Despicable Me

หากจะพูดถึงการค้นหาเส้นทางอาชีพที่จะนำพาเราไปสู่ความสุขและความสำเร็จ หลายคนอาจนึกถึงการฟังการพูดสร้างแรงบันดาลใจหรือหนังสือพัฒนาตนเอง

แต่บทเรียนที่ทรงพลังที่สุดบทหนึ่งกลับซ่อนอยู่ในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Despicable Me ในฉากที่ตัวละครเอกอย่าง Gru กำลังนั่งรออยู่ในล็อบบี้ของ Bank of Evil เพื่อขอสินเชื่อสำหรับแผนการขโมยดวงจันทร์ของเขา

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Life’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/y4kypy97

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/ymubjd66

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/pPQJ2JJYGxU

Vector สอนชีวิต : ทำไมทิศทางสำคัญกว่าความพยายาม บทเรียนล้ำค่าที่ซ่อนอยู่ใน Despicable Me

หากจะพูดถึงการค้นหาเส้นทางอาชีพที่จะนำพาเราไปสู่ความสุขและความสำเร็จ หลายคนอาจนึกถึงการฟังการพูดสร้างแรงบันดาลใจหรือหนังสือพัฒนาตนเอง

แต่บทเรียนที่ทรงพลังที่สุดบทหนึ่งกลับซ่อนอยู่ในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Despicable Me ในฉากที่ตัวละครเอกอย่าง Gru กำลังนั่งรออยู่ในล็อบบี้ของ Bank of Evil เพื่อขอสินเชื่อสำหรับแผนการขโมยดวงจันทร์ของเขา

ในฉากนั้น มีตัวร้ายอีกตนหนึ่งชื่อ Vector ที่สวมชุดสีส้มเดินเข้ามาทักทาย เขาแนะนำตัวว่าชื่อของเขามาจากศัพท์ทางคณิตศาสตร์ที่หมายถึงปริมาณที่มีทั้งทิศทางและขนาด

แม้ Gru จะพยายามหลีกเลี่ยง แต่ Vector ก็ยังคงอธิบายต่อว่าเขาตั้งชื่อนี้เพราะเขาก่ออาชญากรรมที่มีทั้งทิศทางและขนาด

คำพูดของ Vector นี้เองที่สะท้อนแง่คิดสำคัญเกี่ยวกับการใช้ชีวิต เราทุกคนมักได้ยินว่าความสำเร็จมาจากความพยายามและการทำงานหนัก ซึ่งก็เป็นความจริง การจะบรรลุเป้าหมายใดๆ ล้วนต้องอาศัยการทุ่มเทแรงกายแรงใจจำนวนมาก แต่สิ่งที่มักถูกมองข้ามคือ “ทิศทาง” ของความพยายามนั้น

ลองนึกถึงการเรียนคณิตศาสตร์ในโรงเรียน หลายคนเรียนเพื่อให้ได้เกรดดี เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง เพื่อได้งานที่มั่นคง และเพื่อส่งต่อวัฏจักรนี้ไปยังรุ่นต่อไป แต่หากมองย้อนกลับไป เช่น ตัวของ Jason Zhu He (Speaker) ที่จบมัธยมปลายมาแล้ว 1,438 วัน ยังแทบไม่เคยใช้ทฤษฎีปีทาโกรัสเลยสักครั้ง

สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการที่คนรุ่นใหม่จำนวนมากเลือกเส้นทางชีวิตโดยอิงจากปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นคะแนนสอบที่ทำได้ ความคาดหวังของครอบครัว อิทธิพลจากเพื่อนฝูง หรือภาพลักษณ์ทางสังคม

พวกเขาใช้เวลาหลายปีในรั้วมหาวิทยาลัย แบกรับภาระหนี้สินจากค่าเล่าเรียน เพื่อแลกกับปริญญาบัตรและอาชีพที่อาจไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ

เปรียบเสมือนการเดินทางที่แม้จะใช้พลังงานมหาศาล แต่กลับพาเราไปในทิศทางที่ห่างไกลจากจุดหมายที่แท้จริง ดังนั้น ณ จุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต เราควรให้เวลากับการพิจารณาทิศทางอย่างรอบคอบ

แนวคิดที่น่าสนใจในการค้นหาทิศทางที่เหมาะสมคือ Ikigai ซึ่งเป็นคำในภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่า “คุณค่าของการมีชีวิตอยู่ที่แท้จริง” แนวคิดนี้ถูกนำเสนอในหนังสือของ Héctor García และ Francesc Miralles โดยอธิบายว่า Ikigai ประกอบด้วยองค์ประกอบสี่ประการ ได้แก่ สิ่งที่คุณรัก สิ่งที่คุณเก่ง สิ่งที่โลกต้องการ และสิ่งที่สามารถสร้างรายได้

การค้นหา Ikigai เริ่มต้นได้ด้วยการตั้งคำถามกับตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่เรารักและเก่ง โดยไม่จำเป็นต้องคิดแบบตรงไปตรงมา เช่น การที่คุณชอบคณิตศาสตร์ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเป็นนักคณิตศาสตร์เท่านั้น หรือการที่คุณเก่งกีฬาไม่ได้จำกัดว่าคุณต้องเป็นนักกีฬาอาชีพ ทักษะและความสนใจเหล่านี้อาจชี้นำไปสู่อาชีพที่หลากหลายได้

ขณะที่คุณใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะอ่านข่าว หนังสือ หรือเลื่อนดู TikTok ให้สังเกตว่าอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นและประทับใจ นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสิ่งที่โลกต้องการและคุณสามารถมีส่วนร่วมได้

อย่างไรก็ตาม องค์ประกอบสุดท้ายคือการสร้างรายได้ มักเป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุด แม้จะมีคำกล่าวว่า “ทำในสิ่งที่คุณรัก แล้วเงินจะตามมาเอง” แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงที่มีค่าครองชีพสูง แรงกดดันจากครอบครัว และความคาดหวังทางสังคม การไล่ตามความฝันโดยไม่คำนึงถึงความมั่นคงทางการเงินอาจเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

แต่มีวิธีที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง นั่นคือการค่อยๆ พัฒนา Ikigai ของคุณให้กลายเป็นแหล่งรายได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ยกตัวอย่างเช่น หากคุณรักการตัดต่อวิดีโอ เริ่มจากการกันเวลาสักไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพื่อฝึกฝนและสร้างผลงาน ปกป้องเวลานั้นอย่างจริงจัง และค่อยๆ สร้างพอร์ตโฟลิโอของคุณ

การสร้างเนื้อหาบน social media ในปัจจุบันมีรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวสินค้า สอนทักษะต่างๆ หรือแม้แต่การแชร์ไลฟ์สไตล์ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การร่วมมือกับแบรนด์ การขายสินค้าของตัวเอง หรือการสร้างคอร์สออนไลน์

เมื่อเวลาผ่านไป การทำงานอย่างสม่ำเสมอและมีเป้าหมายชัดเจนอาจนำไปสู่การค้นพบ Ikigai ที่แท้จริง แต่ก็ไม่จำเป็นที่ทุกความหลงใหลจะต้องกลายเป็นอาชีพหลัก บางครั้งการรักษาไว้เป็นงานอดิเรกหรืองานเสริมก็มีคุณค่าในตัวมันเอง

สิ่งสำคัญที่สุดคือการไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกพัดพาไปตามกระแสสังคมหรือความคาดหวังของผู้อื่น พยายามค้นหาจุดตัดระหว่างสิ่งที่คุณรัก สิ่งที่คุณเก่ง สิ่งที่โลกต้องการ และสิ่งที่สามารถสร้างรายได้ และเหมือนกับที่ Vector ได้กล่าวไว้ ทิศทางนั้นสำคัญพอๆ กับขนาดของความพยายามที่เราทุ่มเทลงไปนั่นเองครับผม

References :
Ikigai and Vector: Finding Direction and Magnitude in Your Life | Jason Zhu He | TEDxSydney Youth
https://youtu.be/jhCcj5MdT8U?si=7MVWJ9lR4L6nyKMi

Geek Life EP94 : เลิกแคร์สายตาคนอื่น หยุดทำร้ายตัวเองด้วยความคิดคนอื่นแบบถาวร

ในอดีตการอยู่รอดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ขึ้นอยู่กับความสามารถในการคาดการณ์ภัยคุกคาม โดยภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการถูกขับออกจากเผ่า เพราะหากไม่มีเผ่า เราจะไม่สามารถหาอาหารเมื่อเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ และไม่สามารถอยู่รอดได้นาน ด้วยเหตุนี้เราจึงเรียนรู้ที่จะคาดการณ์และกลัวสิ่งที่ผู้อื่นคิดเกี่ยวกับเรา สิ่งนี้เรียกว่า FOBO (Fear of Other People’s Opinions – ความกลัวความคิดเห็นของผู้อื่น)

เป็นข้อมูลที่น่าสนใจจากหนังสือ The First Rule of Mastery: Stop Worrying about What People Think of You โดย Michael Gervais หนึ่งในนักจิตวิทยาชั้นนำของโลกและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านความสัมพันธ์ระหว่างจิตใจและประสิทธิภาพของมนุษย์

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Life’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/5duvta97

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/3vd4pswh

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/NAitX-6fOWY

Geek Life EP90 : Mind Over Matter จากล้มเหลวสู่สำเร็จ วิธีใช้พลังจิตเปลี่ยนชีวิต

มนุษย์เรามักไม่รู้ขีดความสามารถที่แท้จริงของตนเอง จนกว่าจะได้ลงมือทำสิ่งนั้นจริงๆ ประสบการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการสอบได้คะแนนยอดเยี่ยม การเลื่อนตำแหน่งในที่ทำงาน หรือแม้แต่การจัดการเรื่องยุ่งยากให้สำเร็จลุล่วง สิ่งเหล่านี้อาจดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ในตอนแรก แต่เมื่อเราลงมือทำ เราก็จะค้นพบว่าตัวเองมีศักยภาพมากกว่าที่คิด

เป็นข้อมูลทีน่าสนใจจากเวที Ted Talks อีกครั้ง โดย Paneez Oliai จาก Harvard Law School เธอจบการศึกษาสาขาประวัติศาสตร์และจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ที่ได้มาพูดถึงพลังที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเรา

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Life’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/3enxt9az

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/54axr7ne

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/G6t8hbrJibw