ในโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นในวงการกีฬา ธุรกิจ หรือแม้แต่ในชีวิตประจำวัน เราทุกคนต่างปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จและเป็นผู้ชนะ แต่อะไรคือสิ่งที่แยกผู้ชนะออกจากคนธรรมดาทั่วไป? คำตอบอยู่ที่จิตใจ
หนังสือ “The Champion’s Mind” โดย Jim Afremow นักจิตวิทยาการกีฬาผู้มีประสบการณ์ในการช่วยเหลือนักกีฬาระดับโอลิมปิก ได้เปิดเผยให้เห็นถึงความลับของจิตใจแห่งผู้ชนะ
Afremow เชื่อว่าความแตกต่างระหว่างการแสดงผลงานธรรมดากับผลงานที่ยอดเยี่ยมนั้น เริ่มต้นและจบลงด้วยสภาพจิตใจของเรา การมีทัศนคติของผู้ชนะจะช่วยให้เราแสดงศักยภาพสูงสุดและประสบความสำเร็จในเวลาที่สำคัญที่สุด
แต่จิตใจของผู้ชนะนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง? Afremow ได้สรุปองค์ประกอบสำคัญไว้ 4 ประการ โดยใช้คำย่อว่า BEST ซึ่งย่อมาจาก Belief (ความเชื่อ), Enjoyment (ความสนุกสนาน), Self-talk (การพูดกับตัวเอง) และ Toughness (ความแข็งแกร่ง)
เริ่มจาก Belief หรือความเชื่อ ผู้ชนะทุกคนมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จ แต่ความเชื่อมั่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ มันเกิดจากการเตรียมตัวอย่างหนัก
Afremow ยกตัวอย่างเรื่องเล่าของนายพลชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่โยนเหรียญก่อนการสู้รบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทหารของเขา แม้ว่าเหรียญนั้นจะมีหัวทั้งสองด้าน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือทหารเหล่านั้นเข้าสู่สนามรบด้วยความมั่นใจว่าพวกเขาจะเป็นผู้ชนะ
เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นนั้นสามารถสร้างขึ้นได้ และเมื่อเรามีความเชื่อมั่น มันจะส่งผลต่อการกระทำของเรา
Afremow แนะนำว่า เราควร “ฝึกซ้อมเหมือนเราเป็นอันดับสอง แต่แข่งขันเหมือนเราเป็นอันดับหนึ่ง” นี่คือคำพูดของ Merlene Ottey นักวิ่งระดับโลก ความหมายก็คือ เราควรฝึกซ้อมอย่างหนักราวกับว่าเราเพิ่งพลาดชัยชนะไปนิดเดียว แต่เมื่อถึงเวลาแข่งขันจริง เราต้องเชื่อมั่นว่าเราคือผู้ชนะ
ต่อมาคือ Enjoyment หรือความสนุกสนาน Afremow เชื่อว่าผู้ชนะทุกคนสามารถสนุกกับสิ่งที่พวกเขาทำ แม้ในสถานการณ์ที่กดดันที่สุด
Jesse Owens นักกรีฑาในตำนานผู้คว้าเหรียญทองสี่เหรียญในการแข่งขันโอลิมปิกปี 1936 ที่เบอร์ลิน เคยกล่าวไว้ว่า “จงหาสิ่งดีๆ มันอยู่รอบตัวคุณ” คำพูดนี้สะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติที่ผู้ชนะมักจะมี พวกเขามองว่าตนเองโชคดีที่ได้มีโอกาสแข่งขันในระดับสูงสุด
แต่บางครั้ง ความกดดันก็มากเกินจนเรารับกับสถานการณ์เหล่านี้ไม่ค่อยได้ Afremow แนะนำให้ใช้อารมณ์ขัน การหัวเราะสามารถลดความเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพได้ นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมบุคลากรทางทหารและนักดับเพลิงมักจะมีอารมณ์ขันที่ดี
ตัวอย่างเช่น Lieutenant General Chesty Puller นาวิกโยธินผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์มากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา เคยพูดกับทหารของเขาในสถานการณ์คับขันว่า “เราถูกล้อมแล้ว ดี นั่นทำให้ปัญหาง่ายขึ้น” คำพูดนี้แสดงให้เห็นถึงการใช้อารมณ์ขันเพื่อจัดการกับความเครียดในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
องค์ประกอบที่สามคือ Self-talk หรือการพูดกับตัวเอง Dr. Daniel Amen นักประสาทวิทยาและผู้เขียนหนังสือขายดี “Change Your Brain, Change Your Life” ได้คิดค้นแนวคิดเรื่อง ANT หรือ Automatic Negative Thoughts (ความคิดด้านลบอัตโนมัติ) ขึ้นมา เขาเปรียบเทียบความคิดด้านลบเหล่านี้กับมดที่รุกรานห้องครัวของเขา เช่นเดียวกับที่เราต้องกำจัดมดออกจากบ้าน เราก็ต้องกำจัดความคิดด้านลบออกจากจิตใจของเราด้วย
ความคิดด้านลบเหล่านี้มักจะปรากฏในรูปแบบของประโยคเช่น “อย่าทำพลาด” หรือ “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉัน…” ตามด้วยจินตนาการถึงความล้มเหลว ความคิดเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้เราเครียด แต่ยังเพิ่มโอกาสที่เราจะทำพลาดอีกด้วย เหมือนกับนักกอล์ฟที่คิดว่า “อย่าตีลงน้ำ” แล้วก็จบลงด้วยการตีลูกลงน้ำจริงๆ
แทนที่จะปล่อยให้ความคิดด้านลบครอบงำ ผู้ชนะเรียนรู้ที่จะใช้การพูดกับตัวเองในเชิงบวก พวกเขาอาจพูดกับตัวเองว่า “ตรงนี้ ตอนนี้” เพื่อให้จดจ่ออยู่กับปัจจุบัน ซึ่ง Afremow แนะนำให้เตือนตัวเองให้โฟกัสกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ตรงหน้าเพียงเท่านั้น
ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ Sean Green นักเบสบอลอาชีพ ที่ทำสถิติตีลูกได้ 6 ครั้งจาก 6 ครั้งที่เข้าตี และตีโฮมรันได้ 4 ครั้งในเกมเดียว โดยเขาท่องในใจว่า “ตัดไม้ แบกน้ำ” ซ้ำๆ ตลอดเกม คำพูดนี้ช่วยให้เขาจดจ่ออยู่กับปัจจุบันและทำตามหลักพื้นฐานของการตีเบสบอล
องค์ประกอบสุดท้ายคือ Toughness หรือความแข็งแกร่ง Afremow อธิบายว่า ความแข็งแกร่งทางจิตใจไม่ได้หมายถึงการต้องฝืนทน แต่หมายถึงความสามารถในการรักษาความคิดเชิงบวกและเชิงรุกในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด
ในวงการกอล์ฟอาชีพ มีการติดตามสถิติที่เรียกว่า “bounce back” ซึ่งวัดความสามารถของนักกอล์ฟในการฟื้นตัวกลับมาแสดงผลงานที่ดีหลังจากการเล่นหลุมที่แย่ นักกอล์ฟระดับโลกมักจะมีสถิติ bounce back ที่ดีมาก นั่นแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางจิตใจของพวกเขา
Afremow แนะนำให้เราพยายามเพิ่มสถิติ bounce back ของตัวเองในชีวิต โดยมองทุกอุปสรรคเป็นโอกาสสำหรับการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อเผชิญกับความล้มเหลว เราควรเตือนตัวเองถึงการเตรียมตัวที่ดี ใช้อารมณ์ขันเพื่อผ่อนคลายความเครียด และใช้การพูดกับตัวเองเชิงบวกเพื่อกลับมาโฟกัสกับงานที่อยู่ตรงหน้า
นอกจากนี้ Afremow ยังแนะนำให้เราจดบันทึกคะแนน (ทางจิตใจ) สำหรับทุกการแสดงผลงานของเรา โดยให้คะแนนตัวเองในสเกล 1 ถึง 5 ในแต่ละด้านของ BEST ได้แก่ ความเชื่อ ความสนุกสนาน การพูดกับตัวเอง และความแข็งแกร่ง การทำเช่นนี้จะช่วยให้เราเห็นพัฒนาการของตัวเองและรู้ว่าเราควรปรับปรุงด้านไหนเพิ่มเติม
แนวคิดของ Afremow ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวงการกีฬาเท่านั้น แต่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในทุกด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน หรือแม้แต่การจัดการกับความท้าทายในชีวิตประจำวัน การพัฒนาจิตใจของผู้ชนะจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับความกดดันและความท้าทายต่างๆ ได้ดีขึ้น
ลองนึกถึงสถานการณ์ที่คุณต้องนำเสนองานสำคัญต่อหน้าผู้บริหารระดับสูง หากคุณใช้หลัก BEST คุณจะเริ่มด้วยการสร้างความเชื่อมั่นในตัวเองจากการเตรียมตัวอย่างดี คุณจะพยายามสนุกกับประสบการณ์นี้ด้วยการมองว่ามันเป็นโอกาสที่ดีในการแสดงความสามารถ คุณจะใช้การพูดกับตัวเองในเชิงบวกเพื่อควบคุมความคิดและอารมณ์ และหากมีอะไรผิดพลาด คุณจะใช้ความแข็งแกร่งทางจิตใจเพื่อฟื้นตัวและดำเนินการต่อไปอย่างมั่นใจ
อย่างไรก็ตาม Afremow เตือนว่าการมีจิตใจของผู้ชนะไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีวันล้มเหลว แต่หมายถึงการที่เราสามารถรับมือกับความล้มเหลวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียนรู้จากมัน และใช้มันเป็นแรงผลักดันให้เราก้าวไปข้างหน้า ผู้ชนะที่แท้จริงไม่ได้วัดกันที่จำนวนครั้งที่พวกเขาประสบความสำเร็จ แต่วัดที่ความสามารถในการลุกขึ้นมาใหม่หลังจากล้มลง
ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีจิตใจของผู้ชนะจึงเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่ง มันไม่เพียงแต่จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราทำเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เรามีความสุขและพึงพอใจในชีวิตมากขึ้นด้วย เพราะเมื่อเรามีความเชื่อมั่น สนุกกับสิ่งที่ทำ มีการพูดกับตัวเองในเชิงบวก และมีความแข็งแกร่งทางจิตใจ เราก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายใดๆ ที่ชีวิตจะนำมา
การพัฒนาจิตใจของผู้ชนะไม่ใช่เรื่องของการเอาชนะผู้อื่น แต่เป็นเรื่องของการเอาชนะตัวเอง การก้าวข้ามข้อจำกัดของตัวเอง และการเติบโตเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเรา เมื่อเราทำเช่นนี้ได้ ความสำเร็จก็จะตามมาเอง
ในท้ายที่สุด Afremow เน้นย้ำว่า การมีจิตใจของผู้ชนะไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเคร่งเครียดหรือจริงจังกับชีวิตตลอดเวลา แต่หมายถึงการมีความสมดุลระหว่างความมุ่งมั่นและการผ่อนคลาย การรู้จักเวลาที่จะพุ่งชน และเวลาที่จะปล่อยวาง การมีความยืดหยุ่นทางจิตใจที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ
หนังสือ “The Champion’s Mind” ของ Jim Afremow เปรียบเสมือนคู่มือสำหรับทุกคนที่ต้องการพัฒนาตนเองและก้าวสู่ความสำเร็จ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักกีฬา นักธุรกิจ นักเรียน หรือใครก็ตาม หลักการ BEST ที่ Afremow นำเสนอสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในทุกด้านของชีวิต เพื่อช่วยให้คุณก้าวข้ามอุปสรรค เอาชนะความท้าทาย และบรรลุเป้าหมายที่คุณตั้งไว้
การพัฒนาจิตใจของผู้ชนะเป็นการเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด แต่เป็นการเดินทางที่คุ้มค่า เพราะมันไม่เพียงแต่จะนำพาเราไปสู่ความสำเร็จเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราเติบโตเป็นบุคคลที่ดีขึ้น แข็งแกร่งขึ้น และมีความสุขมากขึ้นในทุกๆ วัน ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะกำลังเผชิญกับความท้าทายใดในชีวิต จงจำไว้ว่า ชัยชนะเริ่มต้นจากภายในตัวคุณเอง จากจิตใจของผู้ชนะที่คุณสร้างขึ้นและพัฒนามันอย่างต่อเนื่อง
References :
หนังสือ The Champion’s Mind: How Great Athletes Think, Train, and Thrive โดย Jim Afremow PhD