วงการเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียถึงกับสั่นคลอนเมื่อ Evan Spiegel ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Snapchat ตัดสินใจปฏิเสธข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการจาก Facebook มูลค่าถึง 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2013 ทั้งที่ตอนนั้น Snapchat แทบไม่มีรายได้แม้แต่ดอลลาร์เดียว
การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ผู้คนในวงการถึงกับอ้าปากค้าง และถือเป็นจุดพีคที่เริ่มการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกของโซเชียลมีเดีย เรื่องราวนี้กลายเป็นตำนานที่ทำให้หลายคนคิดถึงความเจ๋งของการมีวิสัยทัศน์ที่แตกต่าง
Snapchat มีความแตกต่างจากบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ที่เติบโตในแถบ Silicon Valley มากโข Spiegel มองโลกไม่เหมือนใคร เขาไม่ได้คิดว่า Snapchat เป็นแค่บริษัทเทคโนโลยีที่ต้องนำโดยเด็กเนิร์ดด้านเทคโนโลยีหรือตัดสินใจจากข้อมูลเชิงลึกเพียงอย่างเดียว
แต่เขากลับมองว่า Snapchat เป็นบริษัทด้านความบันเทิงและสื่อที่เน้นความ entertain เป็นหลัก จึงตัดสินใจย้ายสำนักงานใหญ่ไปตั้งอยู่ที่แคลิฟอร์เนียแทน ซึ่งเป็นการขีดชะตาชีวิตของบริษัทให้เดินไปในทิศทางที่ไม่มีใครคาดคิด
Spiegel ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าแนวคิดที่อาจดูทะลึ่งในตอนแรก สามารถรังสรรค์ธุรกิจมูลค่ามหาศาลได้ Snapchat เริ่มต้นด้วยไอเดียง่ายๆ คือการส่งข้อความที่จะถูกลบออกไปโดยอัตโนมัติ ที่ตอบโจทย์กลุ่มวัยรุ่นที่เริ่มยี้กับโลกโซเชียลที่ถูกครอบงำโดย Facebook
การที่ Spiegel ปฏิเสธข้อเสนอจาก Facebook สร้างความเจ็บแสบให้กับ Mark Zuckerberg เป็นอย่างมาก จนทำให้ Facebook พยายามจัดเต็มทุกวิถีทางเพื่อทำลาย Snapchat โดยการสร้างแอพที่มีลักษณะคล้ายกัน เช่น Poke และ Slingshot
แต่ความพยายามเหล่านั้นกลับเละไม่เป็นท่า แม้ว่า Facebook จะมีทรัพยากรทั้งวิศวกรเทพนับหมื่นคนและเทคโนโลยีทันสมัย แต่กลับไม่สามารถสร้างแอพที่ดึงดูดผู้ใช้ได้เท่ากับ Snapchat โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการเข้าใจความต้องการของผู้ใช้งานอย่างลึกซึ้งนั้นสำคัญยิ่งกว่าการมีทรัพยากรมากมาย บางครั้งการมองความต้องการที่แท้จริงของผู้ใช้ก็เป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่าเทคโนโลยีล้ำสมัย
ความสามารถที่โดดเด่นของ Spiegel คือการมองเห็นปัญหาในระบบฟีดและโซเชียลมีเดียบนแพลตฟอร์ม Snapchat และสามารถคาดการณ์ปัญหาในวงกว้างเพื่อเข้าถึงผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง ความแสบของเขาอยู่ที่การไม่ทิ้งแนวคิดดั้งเดิมที่ว่าเนื้อหาทั้งหมดต้องหายไปในที่สุด
Snapchat Stories ถูกเสกขึ้นมาในเดือนตุลาคม ปี 2013 หลังจากที่ Spiegel มีแนวคิดนี้มาเกือบหนึ่งปี ฟีเจอร์เจ๋งมาก ๆ นี้ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างเรื่องราวผ่านภาพถ่ายและวิดีโอที่เล่นต่อเนื่องกันเป็นลำดับ โดยเนื้อหาจะอยู่แค่ 24 ชั่วโมงแล้วมลายหายไปหมดสิ้น
ซึ่งต่างจาก Facebook หรือ Instagram ที่มักโฟกัสในเรื่องยอดไลค์และความคิดเห็น Stories ของ Snapchat ไม่มีระบบไลค์และความคิดเห็น ทำให้ผู้ใช้รู้สึกอิสระในการแสดงออกมากขึ้น ราวกับมีเวทมนตร์ที่ปลดปล่อยพวกเขาจากโลกออนไลน์
ความพิเศษของ Snapchat Stories คือการที่ผู้ใช้ไม่สามารถอัปโหลดรูปหรือวิดีโอจากโทรศัพท์ไปยัง Snapchat ได้โดยตรง พวกเขาต้องบันทึกใน Snapchat และส่งให้เพื่อนหรือโพสต์ลงใน Stories แบบทันที ซึ่งสร้างความรู้สึกของการมีส่วนร่วมในขณะนั้นได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ การไม่มีระบบไลค์และความคิดเห็นทำให้ไม่จำเป็นต้องมีอัลกอริธึมการเรียงลำดับเหมือน Facebook, Instagram และ Twitter เนื้อหาจะปรากฏเรียงตามลำดับของผู้ที่โพสต์ล่าสุด เป็นแรงจูงใจเพิ่มเติมให้โพสต์บ่อยขึ้น
Stories ทำให้ผู้ใช้รู้สึกถวิลหาการเป็นดาราในรายการเรียลลิตี้ทีวีหรือคนมีชื่อเสียง พวกเขาสามารถแบ่งปันช่วงเวลาในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการไปเรียน การปาร์ตี้ หรือการท่องเที่ยว ผ่านรูปภาพและวิดีโอจำนวนมาก และยังรู้ว่ามีคนติดตามชีวิตของพวกเขากี่คน
เป็นวิธีที่ใหม่มาก ๆ ในการติดต่อและติดตามชีวิตของเพื่อนๆ ที่อยู่ต่างมหาวิทยาลัยหรือต่างเมือง ผู้ใช้ยังสามารถรับชมเหตุการณ์สำคัญ เช่น คอนเสิร์ตของศิลปินดัง โดยไม่ต้องซื้อบัตรจริงๆ
การใช้ Stories ทำให้การแชร์ช่วงเวลาในชีวิตกลายเป็นเรื่องสะดวกและสนุก แตกต่างจากโซเชียลมีเดียแบบเดิมที่มักจะทำให้ผู้ใช้กังวลว่าโพสต์ของตัวเองจะถูกมองอย่างไร เพราะมันจะอยู่บนโปรไฟล์ตลอดไป
Stories ของ Snapchat ให้ความรู้สึกเหมือนกับการแบ่งปันช่วงเวลาแบบสดๆ กับเพื่อน เหมือนกำลังโทรศัพท์คุยกัน แต่ในรูปแบบที่สร้างสรรค์และสนุกมากกว่า
นวัตกรรม Stories ของ Snapchat ได้ส่งผลกระทบต่อวงการโซเชียลมีเดีย จนทำให้ยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook, Instagram, Google และ Apple ต่างก็จำเป็นต้องเพิ่มฟีเจอร์ที่คล้ายกับ Stories เข้าไปในแพลตฟอร์มของตัวเอง
แม้ว่าในตอนแรก Snapchat อาจถูกมองว่าเป็นแค่แอพสำหรับส่งข้อความลับหรือภาพที่ไม่โสภานัก แต่ความจริงแล้ว มันคือการปฏิวัติการสื่อสารครั้งยิ่งใหญ่สำหรับผู้ใช้จำนวนมาก ยิ่งใช้มากเท่าไหร่ ผู้ใช้ก็ยิ่งรู้สึกเจ๋งและติดใจมากขึ้นเท่านั้น
Snapchat ฝ่าฝันต่อสู้จนได้รับความนิยม กลายเป็นช่องทางการสื่อสารที่มาแทนที่การสนทนาและการแชร์เนื้อหาที่เคยเกิดขึ้นผ่านข้อความหรือบนโซเชียลมีเดียแบบเดิม ผู้ใช้เหมือนถูกมนต์สะกดพร้อมกับความสะดวกและความสนุกที่ได้รับจากแพลตฟอร์มนี้
ความสำเร็จของ Snapchat ส่งผลกระทบชัดเจนต่อ Facebook พี่ใหญ่ในวงการโซเชียลมีเดียในขณะนั้น David Ebersman ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Facebook ได้ยอมรับระหว่างการประกาศรายได้ของบริษัทว่า Facebook เริ่มมีจำนวนผู้ใช้รายวันลดระดับลง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น
นี่เป็นครั้งแรกที่ Facebook ยอมรับกับนักลงทุนว่าพวกเขากำลังมีรอยร้าวในกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นวัยรุ่น และมี Snapchat เป็นคู่แข่งสำคัญที่พุ่งทะยานขึ้นมาแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ยักษ์ใหญ่จะยอมรับว่ามีคู่แข่งที่น่ากลัว
การเกิดขึ้นของ Snapchat และความสำเร็จของ Stories ไม่เพียงเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนใช้โซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่ยังท้าทายการครองตลาดของยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ที่ดูเหมือนจะไม่มีใครแตะต้องได้
เรื่องราวของ Snapchat แสดงให้เห็นว่าในโลกเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย นวัตกรรมและความเข้าใจในพฤติกรรมผู้ใช้สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้ แม้จะเริ่มจากไอเดียที่ดูธรรมดา
ความกล้าของ Spiegel ที่จะปฏิเสธข้อเสนอมูลค่ามหาศาลเพียงเพราะเชื่อในวิสัยทัศน์ของตัวเอง เป็นแรงบันดาลใจให้กับสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ที่กำลังสยายปีกในวงการ
แม้ว่า Facebook จะพยายามลอกเลียนฟีเจอร์ Stories และประสบความสำเร็จกับ Instagram Stories ในเวลาต่อมา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้นตำรับความเจ๋งมาจาก Snapchat ที่เป็นผู้บุกเบิก
การตัดสินใจครั้งสำคัญของ Spiegel ในการปฏิเสธข้อเสนอจาก Facebook แม้ว่าจะมีช่วงที่บริษัทดิ่งลงเหวบ้าง แต่ Snapchat ก็ยังคงยืนหยัดและก่อร่างสร้างตัวเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสำคัญของโลก
เรื่องราวของ Snapchat เป็นบทเรียนสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า บางครั้งการเดินตามกระแสอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด การกล้าที่จะคิดต่าง และมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนอาจนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะในโลกของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
Evan Spiegel ได้พิสูจน์ให้โลกเห็นว่า บางครั้งการปฏิเสธข้อเสนอที่เป็นเงินมหาศาลด้วยความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของตัวเอง สามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการได้ และนั่นคือฟ้าลิขิตที่ทำให้ Snapchat ยังคงอยู่และเติบโตจนถึงทุกวันนี้
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA
Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ
Geek Forever’s Podcast
“Open Your World With Technology“
AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning
Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ