ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาของการเป็นโค้ชฟุตบอลในระดับมหาวิทยาลัย Dr. Ivan Joseph ได้พบเจอกับความท้าทายและบทเรียนมากมายที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งในสนามกีฬาและในชีวิตจริง หลังจากที่ทีมของเขาประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ระดับประเทศ
หลายคนมักเข้าใจผิดว่านักกีฬามากมายอยากเข้าร่วมทีมเพราะชื่อเสียงของทีมเขา แต่ความจริงแล้วแรงจูงใจหลักคือทุนการศึกษามูลค่า 25,000 ดอลลาร์ต่อปี ซึ่งเป็นโอกาสที่จะช่วยให้พวกเขาได้รับการศึกษาที่ดีควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะด้านกีฬา
การพูดคุยกับผู้ปกครองในแต่ละฤดูกาลทำให้ Joseph ได้เห็นภาพที่ชัดเจนว่า หลายครอบครัวยังคงให้ความสำคัญกับทักษะทางกายภาพมากเกินไป โดยมองข้ามปัจจัยสำคัญที่จะทำให้นักกีฬาประสบความสำเร็จในระยะยาว
เมื่อผู้ปกครองเข้ามาถามเขาว่า “ลูกของผมอยากมาเล่นให้ทีมของคุณ เราควรต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง? คุณกำลังมองหาคุณสมบัติแบบไหน?” ด้วยแนวทางการสอนแบบ Socratic ที่ทาง Joseph ยึดถือมาตลอด เขามักจะย้อนถามกลับไปว่า “ลูกของคุณมีความโดดเด่นในด้านใด?”
การตอบคำถามของผู้ปกครองส่วนใหญ่สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมในสังคมที่มักให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่จับต้องได้มากกว่าการพัฒนาทักษะด้านจิตใจ
ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักจะยกย่องความสามารถทางกายภาพและทักษะการเล่น เช่น ลูกชายมีวิสัยทัศน์ดี มองเกมออก สามารถอ่านเกมและคาดการณ์สถานการณ์ได้อย่างแม่นยำ หรือลูกสาววิ่งเร็วที่สุดในทีม ไม่มีใครสามารถไล่ตามทัน หรือลูกชายเตะบอลด้วยเท้าซ้ายได้อย่างแม่นยำ เล่นลูกกลางอากาศเก่ง
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ทักษะเหล่านี้กลับเป็นสิ่งสุดท้ายที่ Joseph ให้ความสำคัญในการพิจารณารับนักกีฬาเข้าทีม เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา เขาพบว่าทักษะทางกายภาพสามารถพัฒนาได้ด้วยการฝึกฝน แต่สิ่งที่ยากกว่านั้นคือการสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง
ความเชื่อมั่นในตนเองคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาตนเอง ไม่เพียงแต่ในวงการกีฬา แต่รวมถึงในทุกแง่มุมของชีวิต เปรียบเสมือนรากฐานที่จะช่วยค้ำจุนให้ความสามารถด้านอื่นๆ เติบโตและแข็งแกร่งขึ้น
การขาดความเชื่อมั่นในตนเองเปรียบเสมือนการสร้างบ้านบนทรายที่ไม่มั่นคง ไม่ว่าคุณจะมีทักษะยอดเยี่ยมเพียงใด แต่หากขาดความเชื่อมั่น ทุกอย่างก็อาจพังทลายลงได้ในพริบตา
Dr. Albert Bandura นักจิตวิทยาชื่อดังได้ศึกษาและพบว่า ความเชื่อมั่นในตนเอง หรือที่เขาเรียกว่า “Self-efficacy” มีผลโดยตรงต่อการตัดสินใจ แรงจูงใจ และความพยายามที่บุคคลจะทุ่มเทให้กับเป้าหมาย บุคคลที่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูงมักจะตั้งเป้าหมายที่ท้าทายและพยายามอย่างหนักเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น แม้จะเผชิญกับอุปสรรคก็ตาม
การสร้างความเชื่อมั่นในตนเองเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความอดทนและความทุ่มเท เปรียบเสมือนการสร้างกล้ามเนื้อที่ต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
หลายคนมักจะบอกว่า “ฉันเป็นคนขี้อาย ฉันคงทำไม่ได้หรอก” แต่นั่นคือความเข้าใจผิดที่อันตราย เพราะความเชื่อมั่นเป็นทักษะที่สามารถพัฒนาได้เช่นเดียวกับทักษะอื่นๆ
Malcolm Gladwell ในหนังสือ “Outliers: The Story of Success” ได้นำเสนอแนวคิดเรื่องกฎ 10,000 ชั่วโมง ซึ่งกล่าวว่าการจะเชี่ยวชาญในทักษะใดๆ ต้องใช้เวลาฝึกฝนประมาณ 10,000 ชั่วโมง
แนวคิดนี้สอดคล้องกับประสบการณ์จริงที่ Joseph ได้พบเห็นในการโค้ชนักกีฬา ตัวอย่างที่ชัดเจนคือกรณีของผู้รักษาประตูจาก Colombia ที่เมื่อเริ่มต้นมาเล่นในทีม เขาแทบจะจับบอลไม่อยู่เลย ทักษะพื้นฐานยังต้องปรับปรุงอีกมาก แต่สิ่งที่ทำให้ Joseph ประทับใจคือความมุ่งมั่นของเขา
ทุกวัน เขาจะมาซ้อมก่อนเพื่อนร่วมทีมและกลับบ้านเป็นคนสุดท้าย การฝึกซ้อมวันละ 350 ครั้ง ต่อเนื่องเป็นเวลา 8 เดือน ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความเชื่อมั่นว่าตนเองสามารถพัฒนาได้ ในที่สุดเขาก็ได้รับโอกาสไปเล่นในยุโรป นี่คือตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นในตนเองเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ
การพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองยังเกี่ยวข้องกับการสื่อสารภายในจิตใจ หรือที่นักจิตวิทยาเรียกว่า “Self-talk” เสียงที่ดังอยู่ในหัวของเราคือตัวกำหนดทิศทางของความคิดและการกระทำ
Muhammad Ali เป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้คำพูดเชิงบวกกับตนเอง เมื่อเขาประกาศว่า “I am the greatest!” นั่นไม่ใช่เพียงคำโอ้อวด แต่เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตนเอง เป็นการตอกย้ำความสามารถและศักยภาพที่มีอยู่ในตัว
Dr. Carol Dweck จาก Stanford University ได้ทำการวิจัยและพบว่า บุคคลที่มี Growth Mindset หรือความเชื่อว่าความสามารถสามารถพัฒนาได้ มักจะประสบความสำเร็จมากกว่าผู้ที่มี Fixed Mindset หรือเชื่อว่าความสามารถเป็นสิ่งตายตัว การสร้างความเชื่อมั่นในตนเองจึงเริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อความสามารถของตนเอง
การสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้อื่นเป็นอีกทักษะสำคัญที่ต้องฝึกฝน การมองหาจุดดีและให้คำชมเชยอย่างจริงใจจะช่วยสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการพัฒนาความเชื่อมั่น
ผู้ที่มีความเชื่อมั่นในตนเองจะสามารถมองสถานการณ์ต่างๆ ในแง่บวกและเรียนรู้จากความผิดพลาดได้ดี พวกเขามักจะมองความล้มเหลวเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา ไม่ใช่จุดจบของความพยายาม
ประสบการณ์ในการเป็นโค้ชสอน Joseph ว่าการสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการพัฒนาความเชื่อมั่นเป็นสิ่งสำคัญ เราต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ที่ผู้คนกล้าที่จะลองผิดลองถูก กล้าที่จะทำผิดพลาด และเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น
โดยในทีมของเขา แทบไม่เคยลงโทษนักกีฬาที่พยายามทำสิ่งใหม่ๆ แม้จะล้มเหลวก็ตาม เพราะนั่นคือส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้และพัฒนา
สุดท้ายแล้วความเชื่อมั่นในตนเองเปรียบเสมือนเข็มทิศที่จะนำทางเราไปสู่ความสำเร็จ ไม่มีใครจะเชื่อในตัวคุณได้ถ้าคุณไม่เชื่อในตัวเองก่อน และเมื่อคุณกล้าที่จะแตกต่าง กล้าที่จะยืนหยัดในความเชื่อของตนเอง นั่นคือจุดเริ่มต้นของการสร้างตัวตนที่แท้จริงของคุณ
References :
The skill of self confidence | Dr. Ivan Joseph | TEDxRyersonU
https://youtu.be/w-HYZv6HzAs?si=zWSXFRpO2BBMkdLv
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA
Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ
Geek Forever’s Podcast
“Open Your World With Technology“
AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning
Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ