เลิกกลัวการพูดต่อหน้าคนเยอะๆ : เทคนิคพูดแบบธรรมชาติ ที่จะทำให้คุณกลายเป็นนักพูดที่น่าฟัง

จากประสบการณ์อันยาวนานในฐานะวิทยากร Lawrence Bernstein ได้พบว่าความกลัวที่ใหญ่ที่สุดของผู้พูดในที่สาธารณะมักเกี่ยวข้องกับสามประการหลัก ประการแรกคือความกลัวที่จะลืมสิ่งที่ต้องการจะสื่อสาร ประการที่สองคือความกลัวที่จะถูกหัวเราะเยาะ (ยกเว้นในกรณีที่ตั้งใจจะเล่าเรื่องตลก) และประการสุดท้ายคือความกลัวที่จะเห็นผู้ฟังแสดงท่าทีเบื่อหน่าย ไม่ว่าจะเป็นการหลับ เล่นโทรศัพท์ หรือไม่ให้ความสนใจ

ในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยสิ่งเร้าและการรบกวนสมาธิมากมาย ไม่ว่าจะเป็น WhatsApp แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง หรือแอปพลิเคชันต่างๆ การที่ผู้ฟังจะสามารถจดจำสาระสำคัญได้มากกว่าหนึ่งประเด็นถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ

ทุกคนต่างมีภารกิจที่ต้องทำ มีสิ่งที่ต้องเรียนรู้ มีนัดที่ต้องไป หรือแม้แต่การติดตามการแข่งขันกีฬา ทำให้การรักษาความสนใจของผู้ฟังเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง

เมื่อมนุษย์ตกอยู่ภายใต้ความกดดัน ร่างกายมักจะตอบสนองด้วยกลไกที่เรียกว่า “การตอบสนองแบบสู้หรือหนี (fight or flight response)” ในบริบทของการพูดในที่สาธารณะ การตอบสนองนี้แสดงออกได้หลายรูปแบบ บางคนอาจพูดเร็วจนควบคุมไม่ได้ ราวกับต้องการให้จบการนำเสนอโดยเร็วที่สุด

ในขณะที่บางคนกลับเกร็งจนแทบขยับตัวไม่ได้ พลังงานและความมีชีวิตชีวาหายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงน้ำเสียงราบเรียบที่ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ฟังได้

Bernstein ได้ยกตัวอย่างกรณีศึกษาที่น่าสนใจสองเรื่อง เรื่องแรกเป็นเรื่องของ Jane หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่ในสถานการณ์ปกติเป็นคนมีเสน่ห์ สามารถพูดคุยได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่าฟัง

แต่เมื่อต้องพูดต่อหน้ากล้องในการฝึกอบรม เธอกลับเปลี่ยนเป็นคนละคน ใช้ศัพท์เทคนิคอย่าง “LRUs” (Learning Receptor Units) ซึ่งแม้แต่เพื่อนร่วมงานในที่นั้นก็ยังไม่เข้าใจความหมาย เธอกลายเป็นเหมือนหุ่นยนต์องค์กรที่พูดภาษาที่ห่างไกลจากความเป็นมนุษย์

กรณีที่สองเป็นเรื่องของ Jim วิศวกรอาวุโสที่ต้องนำเสนอโครงการสะพานลอยต่อคณะกรรมการบริหารของบริษัทขนส่งรายใหญ่ แทนที่เขาจะเล่าถึงความสำคัญของโครงการที่จะช่วยปกป้องชีวิตของเด็กนักเรียนที่ต้องเสี่ยงอันตรายวิ่งข้ามถนนที่มีการจราจรคับคั่งทุกเช้า

เขากลับเลือกที่จะนำเสนอแต่ข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง กราฟ และแผนภูมิต่างๆ จนทำให้โครงการที่มีความสำคัญถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลทางเทคนิคที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์หลักของโครงการ

การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมักเกิดขึ้นเมื่อผู้พูดสามารถเชื่อมโยงกับผู้ฟังในระดับมนุษย์ เหมือนการพูดคุยในร้านกาแฟที่เป็นธรรมชาติ

ในร้านกาแฟ เราไม่จำเป็นต้องคิดมากเกี่ยวกับการใช้เสน่ห์หรือการสร้างความน่าสนใจ เพราะมันเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เราคิดถึงคู่สนทนาและความต้องการของพวกเขา เราเล่าเรื่องที่คิดว่าพวกเขาจะสนใจ และนั่นทำให้แม้แต่หัวข้อที่ซับซ้อนที่สุดก็สามารถมีชีวิตชีวาได้ผ่านการเล่าเรื่อง

ตัวอย่างที่ชัดเจนของพลังแห่งการเล่าเรื่องคือกรณีอื้อฉาวของ Post Office ในสหราชอาณาจักรเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ Horizon ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของ subpostmasters (ผู้จัดการสำนักงานไปรษณีย์ย่อย)

เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานกว่า 20 ปี และมีการรายงานข่าวในสื่อต่างๆ มาโดยตลอด ทั้งใน หนังสือพิมพ์ และการพิจารณาคดีในศาลสูง แต่ส่วนใหญ่เป็นการนำเสนอในแง่มุมทางเทคนิค คณิตศาสตร์ และกฎหมาย

จนกระทั่งเมื่อมีการนำเสนอเรื่องราวผ่านรายการโทรทัศน์ที่เน้นเล่าถึงผลกระทบต่อชีวิตของผู้คน การเชื่อมโยงทางอารมณ์ และความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชีวิตจริง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนนายกรัฐมนตรีต้องสั่งจ่ายค่าชดเชยหลายร้อยล้านปอนด์โดยไม่ต้องผ่านการลงมติในรัฐสภา

Bernstein ยังยกตัวอย่างการไปพบแพทย์ของเขาเอง เมื่อเขามีอาการปวดท้องและรู้สึกกังวล แพทย์ใช้คำศัพท์ทางการแพทย์อย่าง “อิเล็กโทรไลต์และแบคทีเรียก่อโรค” ซึ่งทำให้ความกังวลของเขาเพิ่มขึ้นเป็นความตื่นตระหนก

แทนที่แพทย์จะอธิบายอย่างเรียบง่ายตั้งแต่แรกว่าเป็นเพียงปัญหาเกี่ยวกับอาหารที่สามารถหายได้ภายในสัปดาห์ นี่เป็นตัวอย่างของการให้ข้อมูลทางเทคนิคก่อนที่จะอธิบายบริบทและประโยชน์ที่แท้จริงต่อผู้ฟัง

ในการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เราควรให้ความสำคัญกับการส่งสารที่ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น เหมือนกับที่เราทำในร้านกาแฟ เมื่อพบเพื่อน สิ่งแรกที่เราถามคือสารทุกข์สุขดิบ ไม่ใช่รายละเอียดทางเทคนิคที่ซับซ้อน การสื่อสารที่ดีควรเริ่มจากการสร้างความเข้าใจพื้นฐานก่อนที่จะลงลึกในรายละเอียด

การพูดในที่สาธารณะที่มีประสิทธิภาพไม่ได้อยู่ที่การพยายามจัดการกับอาการประหม่าหรือความกังวล เช่นเดียวกับที่การแก้อาการจามจากภูมิแพ้ไม่ควรเน้นที่การหากระดาษทิชชูที่นุ่มขึ้น แต่ควรรักษาที่ต้นเหตุด้วยยาแก้แพ้

การพูดในที่สาธารณะก็เช่นกัน สิ่งสำคัญอยู่ที่เนื้อหาและวิธีการนำเสนอที่เป็นธรรมชาติ เมื่อเราสามารถพูดกับผู้ฟังเหมือนที่เราคุยกับเพื่อนในร้านกาแฟ เสน่ห์และพลังงานตามธรรมชาติจะปรากฏออกมาเอง มือจะขยับสื่อสารโดยไม่ต้องคิด เหมือนกับตอนที่เราคุยโทรศัพท์กับเพื่อน และนั่นจะทำให้การพูดในที่สาธารณะครั้งต่อไปเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและท้าทายมากกว่าที่จะน่ากลัว

การสื่อสารที่ทรงพลังที่สุดเกิดจากความจริงใจและความเป็นธรรมชาติ เมื่อเราเข้าใจหลักการนี้ การพูดในที่สาธารณะจะไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นโอกาสในการแบ่งปันเรื่องราวและสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย

Bernstein ยังเน้นย้ำว่า แม้ในการนำเสนอเรื่องที่มีความซับซ้อนทางวิชาการ การเริ่มต้นด้วยการสร้างความเข้าใจพื้นฐานและการเชื่อมโยงกับประสบการณ์จริงจะช่วยให้ผู้ฟังเข้าถึงเนื้อหาได้ดีกว่า เช่นเดียวกับที่นักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่หลายคนสามารถอธิบายทฤษฎีที่ซับซ้อนให้คนทั่วไปเข้าใจได้ผ่านการเปรียบเทียบกับสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน

การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพไม่ได้วัดที่ความซับซ้อนของภาษาหรือความลึกซึ้งของเนื้อหา แต่วัดที่ความสามารถในการทำให้ผู้ฟังเข้าใจและจดจำสาระสำคัญได้ เมื่อเราสามารถทำให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนกำลังนั่งคุยกันในร้านกาแฟ พลังของการสื่อสารจะเกิดขึ้นเอง

ในท้ายที่สุด Bernstein สรุปว่า การพูดในที่สาธารณะที่ทรงพลังไม่ได้เกิดจากการท่องจำเทคนิคหรือการฝึกซ้อมจนเกร็ง แต่เกิดจากความสามารถในการรักษาความเป็นธรรมชาติและความจริงใจ แม้ในสถานการณ์ที่มีความกดดัน การระลึกถึงบทสนทนาในร้านกาแฟจะช่วยให้ผู้พูดผ่อนคลายและสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เมื่อเราเข้าใจว่าผู้ฟังก็คือมนุษย์ที่ต้องการการเชื่อมโยงและความเข้าใจ การพูดในที่สาธารณะจะไม่ใช่การแสดงหรือการสอบ แต่เป็นโอกาสในการแบ่งปันและสร้างความเปลี่ยนแปลง บทเรียนจากร้านกาแฟจึงเป็นมากกว่าเพียงเทคนิค แต่เป็นการเตือนใจให้เรารักษาความเป็นมนุษย์ในทุกการสื่อสาร

ประสบการณ์ของ Bernstein สะท้อนให้เห็นว่า ความสำเร็จในการสื่อสารไม่ได้วัดที่ความสมบูรณ์แบบ แต่วัดที่ความสามารถในการสร้างการเปลี่ยนแปลงและความเข้าใจในใจผู้ฟัง เมื่อเราก้าวข้ามความกลัวและความกังวล เราจะพบว่าพลังที่แท้จริงของการสื่อสารอยู่ที่ความเป็นธรรมชาติและความจริงใจที่เรามีต่อกัน

การเดินทางจากความกลัวในการพูดต่อหน้าผู้คนไปสู่การสื่อสารที่มีพลัง เริ่มต้นจากการยอมรับว่าเราทุกคนมีความสามารถในการเล่าเรื่อง เพียงแค่เราต้องกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง และเชื่อมั่นในพลังของความเป็นธรรมชาตินั่นเองครับผม

References :
The Trick to Powerful Public Speaking | Lawrence Bernstein | TED
https://youtu.be/bsxJVgb6Kls?si=5QyQPWjc-Tq8qHM9


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube