บทเรียนจาก Handspring : กับเรื่องราวของวีรบุรุษที่ไม่มีใครจดจำในสงครามสมาร์ทโฟน

ในโลกของเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว เรามักจดจำเพียงผู้ชนะรายสุดท้ายเท่านั้น แต่เบื้องหลังความสำเร็จของ iPhone และ Android มีเรื่องราวของผู้บุกเบิกที่มองเห็นอนาคตก่อนใคร นั่นคือบริษัท Handspring ที่ก่อตั้งโดยกลุ่มวิศวกรและนักธุรกิจผู้มีวิสัยทัศน์

ย้อนกลับไปในช่วงปลายทศวรรษ 1990 โลกกำลังเข้าสู่ยุคดอทคอม อินเทอร์เน็ตกำลังเป็นที่นิยม แต่ยังไม่มีสมาร์ทโฟนอย่างที่เรารู้จักในปัจจุบัน สิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดคือ PDA (Personal Digital Assistant) หรือเครื่องช่วยงานส่วนบุคคล ซึ่งเป็นอุปกรณ์จัดการข้อมูลขนาดพกพาที่ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สายได้

ในขณะนั้น มีเพียง Palm Pilot เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จในตลาด PDA Jeff Hawkins หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Palm อธิบายว่า “Palm คืออุปกรณ์จัดการข้อมูลขนาดเล็ก มันเป็นคอมพิวเตอร์จริงๆ ที่บังเอิญเป็นคอมพิวเตอร์พกพาที่ได้รับความนิยมที่สุดในตอนนั้น มีคนใช้งานประมาณ 11 ล้านคนทั่วโลก”

แต่ทีมงานเบื้องหลัง Palm มองเห็นว่าการปฏิวัติด้านอุปกรณ์เคลื่อนที่กำลังจะมาถึง พวกเขาเชื่อว่าโทรศัพท์ธรรมดาจะต้องเปลี่ยนไป มันจะไม่ใช่แค่โทรศัพท์อีกต่อไป แต่จะกลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่สามารถโทรออกได้

ซึ่ง Jeff ได้เคยกล่าวไว้ว่า “มันจะเกิดขึ้นจริงๆ อุปกรณ์พกพาทุกชิ้นในอนาคตจะมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เร็วและราคาไม่แพง คุณจะใช้มันสำหรับการโทร รับส่งข้อมูล และทำธุรกรรมต่างๆ”

แต่ปัญหาคือ Palm ถูกซื้อกิจการโดยบริษัทผลิตโมเด็มอย่าง U.S. Robotics และต่อมาถูกซื้อต่ออีกทอดหนึ่งโดย 3Com ซึ่งเป็นอีกบริษัทผลิตโมเด็ม ผู้บริหารของ 3Com ไม่เข้าใจว่าอุปกรณ์เคลื่อนที่จะสำคัญขนาดไหน พวกเขาไม่เห็นว่ามันคืออนาคต และอินเทอร์เน็ตแบบ Dial-up จะกลายเป็นอดีตในไม่ช้า

Donna Dubinsky หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Palm เล่าว่า “เราถูกซื้อโดย U.S. Robotics และ U.S. Robotics ก็ถูกซื้อโดย 3Com โดยทางบริษัท 3Com เองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขากำลังได้เรา (Palm) ไปด้วย มีแค่บันทึกเล็กๆ ว่ามีเรามาด้วย เราถึงจุดที่รู้สึกว่าไม่สามารถทำงานที่ดีที่สุดได้ที่ Palm อีกต่อไปแล้ว”

ด้วยความไม่ลงรอยกันทางความคิด Jeff Hawkins, Donna Dubinsky และ Ed Colligan จึงตัดสินใจออกจาก Palm เพื่อก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Handspring โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างอุปกรณ์พกพาที่เป็นมากกว่า PDA ธรรมดา

Jeff Hawkins, Donna Dubinsky และ Ed Colligan ออกจาก Palm มาก่อตั้ง Handspring (CR:Computer History Museum)
Jeff Hawkins, Donna Dubinsky และ Ed Colligan ออกจาก Palm มาก่อตั้ง Handspring (CR:Computer History Museum)

Handspring เริ่มต้นด้วยการสร้าง PDA ที่ชื่อว่า Visor ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่างจาก Palm คือ “ช่อง Springboard” ที่สามารถเสียบโมดูลเพิ่มฟังก์ชันการทำงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายรูป เครื่องเล่น MP3 หรือแม้แต่โมดูลโทรศัพท์มือถือ

Peter Skillman ซึ่งเข้าร่วมทีม Handspring เพื่อช่วยออกแบบฮาร์ดแวร์ เล่าว่า “เราพยายามทำให้โมดูล Springboard และแนวคิดแพลตฟอร์มที่ขยายได้เป็นไอเดียใหม่ และทำให้ประสบการณ์การใช้งานเร็วขึ้นและดีขึ้นมาก”

Visor ประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาด PDA แต่ทีมงาน Handspring รู้ดีว่าตลาด PDA มีวันหมดอายุ และการขาย PDA ไม่ใช่โอกาสทางธุรกิจที่แท้จริง สิ่งที่พวกเขาต้องการทำจริงๆ คือสร้างโมดูลไร้สาย พวกเขาเชื่อว่าอนาคตของคอมพิวเตอร์พกพาคือการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ซึ่งในที่สุดก็จะกลายเป็นสิ่งที่เรารู้จักในชื่อ “สมาร์ทโฟน”

การสร้างสมาร์ทโฟนในสมัยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือถูกครอบงำโดยยักษ์ใหญ่อย่าง Nokia, Motorola และ Ericsson ซึ่งเป็นธุรกิจพันล้านดอลลาร์ และมีเทคโนโลยีเฉพาะตัวทั้งหมด ไม่มีชิปที่สามารถซื้อมาใช้ได้ทั่วไป

การที่ทีมเพียง 8 คนจะสร้างโทรศัพท์ขึ้นมาเองนั้น เป็นเรื่องที่กล้าหาญมาก เหมือนกับการที่คุณจัดปาร์ตี้ดินเนอร์แล้วเจ้าภาพบอกว่า “เฮ้ พวกเรามาสร้างโทรศัพท์กันเถอะ”

แต่ด้วยระบบโมดูล Handspring สามารถทดลองได้หลายอย่าง พวกเขาเริ่มจากการสร้างโมดูลโทรศัพท์ที่สามารถเสียบเข้ากับ Visor ได้ โมดูลนี้มีวิทยุ แบตเตอรี่ ลำโพง และแม้แต่สวิตช์เปิด-ปิดเสียงเรียกเข้าเป็นของตัวเอง มันมีขนาดใหญ่และดูแปลกตา แต่ก็จำเป็น เพราะในตอนนั้นมันเป็นเหมือนการทดสอบว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเปลี่ยน PDA ให้กลายเป็นสมาร์ทโฟน

Visor จาก Handspring (CR:Mobile Phone Museum)
Visor ที่สามารถปรับเปลี่ยนโมดูลได้จาก Handspring (CR:Mobile Phone Museum)

หลังจากการทดลองกับโมดูลโทรศัพท์ Handspring ก็เริ่มพัฒนาสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของตัวเองที่ชื่อว่า Treo โดย Jeff Hawkins มีความคิดสุดเจ๋งในตอนนั้นที่จะรวม PDA และโทรศัพท์เข้าด้วยกัน เขาบอกว่า “ดูสิ นี่คือ PDA ขนาดนี้ และนี่คือโทรศัพท์ขนาดนี้ เราจะรวมมันเข้าด้วยกันได้อย่างไร” ความคิดแรกของเขาคือ “ถ้าเราทำให้มันเล็กลงอีกนิดและแทนที่ส่วนนี้ด้วยแป้นพิมพ์ มันน่าจะโอเค”

Treo รุ่นแรกๆ มีฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยมากสำหรับยุคนั้น เช่น แอปโทรศัพท์ที่มีปุ่มขนาดใหญ่สำหรับโทรด่วน ความสามารถในการพิมพ์บนแป้นพิมพ์เพื่อค้นหาชื่อในสมุดโทรศัพท์ และสวิตช์เปิด-ปิดเสียงเรียกเข้าที่สามารถรู้สึกได้ในกระเป๋า นอกจากนี้ยังมีแอปสำหรับอ่านหนังสือ เกม แผนที่ อีเมล ปฏิทิน และเพลง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้น 5 ปีก่อนที่ iPhone จะถือกำเนิดขึ้นมา

แต่การสร้างสมาร์ทโฟนไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่าย ผู้ให้บริการไม่เข้าใจสมาร์ทโฟน และมีอำนาจควบคุมเกือบทั้งหมดว่าอะไรจะเกิดขึ้นบนโทรศัพท์ ไม่ใช่แค่โทรศัพท์รุ่นไหนจะขาย แต่รวมถึงวิธีการทำงานและสิ่งที่อนุญาตให้ทำได้ด้วย

Ed Colligan เล่าว่า “ผมจำได้ชัดเจนตอนไปที่ Sprint และบอกว่า ‘เยี่ยมมาก ตอนนี้คุณสามารถถ่ายรูปด้วยเครื่องนี้และส่งให้คนอื่นได้แล้ว’ พวกเขาตอบว่า ‘ไม่ เราไม่อยากทำแบบนั้น อุปกรณ์อื่นๆ ของเราทำไม่ได้'”

Treo รุ่นแรกๆ ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ต้องใช้เวลาแก้ไขสองสามรอบกว่าจะได้อุปกรณ์ที่ใช้งานได้ดีพอสมควร พวกเขาต้องทำให้วิทยุดีขึ้น คุณภาพดีขึ้น และต้องทำให้ผู้คนคุ้นเคยกับแนวคิดนี้มากขึ้น

Treo 600 เป็นรุ่นแรกที่ได้รับความสนใจมากขึ้นจากผู้ให้บริการเครือข่าย มันมีรูปร่างที่จะกลายเป็นมาตรฐานของ Treo ในอีกหลายปีต่อมา และมีฟีเจอร์ที่ล้ำสมัย เช่น แอป SMS ที่แสดงการสนทนาเป็นเธรดเดียวบนหน้าจอเดียว แทนที่จะต้องสลับไปมาระหว่างกล่องข้อความขาเข้าและขาออก

แต่แม้ Treo 600 จะเป็นก้าวสำคัญ Handspring ก็ยังคงเผชิญกับปัญหามากมาย ทั้งด้านการเงินและการแข่งขันในตลาด ในช่วงต้นปี 2000 เกิดวิกฤตดอทคอม ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก รวมถึง Handspring ด้วย

Donna Dubinsky เล่าถึงช่วงเวลานั้นว่า “เรากำลังจะหมดเงิน และเราต้องทำอะไรสักอย่าง สำหรับฉัน นั่นคือการตัดสินใจครั้งสำคัญ Handspring จะอยู่รอดได้นานแค่ไหนด้วยเงิน 40 ล้านดอลลาร์?”

ในที่สุด Handspring ก็ต้องตัดสินใจขายกิจการให้กับ Palm ซึ่งเป็นบริษัทเดิมที่พวกเขาเคยทำงานด้วย Donna อธิบายว่า “เราและ Palm เติบโตในทิศทางที่เสริมกันและกัน เรา (Handspring) ไปในทิศทางของการสื่อสาร ซึ่งพวกเขา (Palm) ไม่ได้ทำเลย และพวกเขาเพิ่งตระหนักว่าพวกเขาต้องทำ ดังนั้นการกลับมารวมกันจึงเป็นการผสมผสานผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างง่ายในตอนนั้น”

การขายกิจการครั้งนี้เป็นจุดจบของ Handspring แต่ไม่ใช่จุดจบของวิสัยทัศน์ของพวกเขา ทีมงานยังคงพัฒนา Treo ต่อไปภายใต้แบรนด์ Palm อีกหลายปี แต่ในที่สุด Jeff Hawkins และ Donna Dubinsky ก็ออกจากบริษัท ในขณะที่ Ed Colligan ยังอยู่ต่อเพื่อพยายามอีกครั้งกับ Palm

แต่แล้วในปี 2007 Steve Jobs ก็ประกาศเปิดตัว iPhone ซึ่งเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนไปตลอดกาล Ed Colligan มองว่า Apple ทำสิ่งที่ Handspring ไม่สามารถทำได้ นั่นคือทำลายอำนาจการผูกขาดของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถืออย่างสิ้นเชิง และการลงทุนอย่างมหาศาลในห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด

ในปี 2007 Steve Jobs ก็ประกาศเปิดตัว iPhone ซึ่งเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนไปตลอดกาล (CR:Vox)
ในปี 2007 Steve Jobs ก็ประกาศเปิดตัว iPhone ซึ่งเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนไปตลอดกาล (CR:Vox)

Ed อธิบายว่า “Apple ทำงานที่น่าทึ่งในการลงทุนกับห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด มันต้องใช้ระดับการลงทุนและความมุ่งมั่นที่บริษัทไม่กี่แห่งสามารถทำได้ ในขณะนั้นพวกเขามีลูกค้า iTunes 100 ล้านคน พวกเขาสามารถเดินเข้าไปหาผู้ให้บริการเครือข่ายและพูดว่า ‘คุณอยากได้ลูกค้าใหม่ไหม? เพราะเมื่อผมนำผลิตภัณฑ์นี้มา พวกเขาจะต้องการมัน และมันจะอยู่บนเครือข่ายของคุณ’ ซึ่งนั่นเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจมาก”

แม้ว่า Handspring จะไม่ได้เป็นผู้ชนะในตลาดสมาร์ทโฟนในที่สุด แต่บทบาทของพวกเขาในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ก็ไม่อาจมองข้ามได้ พวกเขาเป็นผู้บุกเบิกที่มองเห็นอนาคตของการสื่อสารเคลื่อนที่ก่อนใคร และพยายามสร้างมันขึ้นมาด้วยทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด

Ed ตั้งคำถามที่น่าสนใจว่า “ถ้าเราไม่ได้สร้าง Palm Steve Jobs จะมีชีวิตอยู่นานพอที่จะพัฒนา iPhone หรือไม่? เขา (Jobs) ฉลาดพอที่จะตระหนักหลังจากความล้มเหลวกับ Newton ว่า ‘โอเค สิ่งนี้ยังไม่พร้อม และเราจะไม่ทำมันจนกว่าเราจะพร้อม’ แล้วเรา (Handsrping) ได้วางรากฐานให้ จนในที่สุดเขาพูดว่า ‘โอเค ตอนนี้พร้อมแล้ว ตอนนี้ฉันจะเข้ามาด้วยวิสัยทัศน์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงและเอาชนะให้จงได้'”

เรื่องราวของ Handspring เป็นตัวอย่างที่ดีของนวัตกรรมและความกล้าหาญในโลกเทคโนโลยี พวกเขาไม่เพียงแต่มองเห็นอนาคต แต่ยังพยายามสร้างมันขึ้นมาด้วย แม้ว่าจะเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งด้านเทคโนโลยี การเงิน และการต่อต้านจากอุตสาหกรรมที่มีอยู่เดิม

แม้ว่า Handspring จะไม่ได้เป็นชื่อที่คนทั่วไปจดจำเมื่อพูดถึงประวัติศาสตร์ของสมาร์ทโฟน แต่อิทธิพลของพวกเขาก็ยังคงอยู่ในอุปกรณ์ที่เราใช้ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดของการรวม PDA และโทรศัพท์เข้าด้วยกัน การออกแบบอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย หรือแม้แต่แนวคิดของการใช้แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ

ในท้ายที่สุด เรื่องราวของ Handspring เตือนใจเราว่า ความสำเร็จในโลกเทคโนโลยีไม่ได้วัดกันเพียงแค่ยอดขายหรือส่วนแบ่งตลาดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลกระทบที่มีต่ออุตสาหกรรมในระยะยาวด้วย Handspring อาจไม่ได้เป็นผู้ชนะในสงครามสมาร์ทโฟน แต่พวกเขาก็เป็นส่วนสำคัญในการกำหนดสนามรบและกฎเกณฑ์ของการต่อสู้

ในขณะที่เราใช้สมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพสูงในปัจจุบัน เราควรระลึกถึงผู้บุกเบิกอย่าง Jeff Hawkins, Donna Dubinsky, Ed Colligan และทีมงาน Handspring ที่กล้าฝันถึงอนาคตที่โทรศัพท์มือถือจะเป็นมากกว่าแค่เครื่องมือสื่อสาร แต่เป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่พกพาได้ พวกเขาอาจไม่ได้เป็นผู้ชนะในการแข่งขัน แต่วิสัยทัศน์ของพวกเขาก็ยังคงมีชีวิตอยู่ในเทคโนโลยีที่เราใช้ทุกวันนี้

References :
https://en.wikipedia.org/wiki/Handspring,_Inc.
https://computerhistory.org/blog/the-first-smartphone/
https://sg.finance.yahoo.com/news/apple-employee-once-stood-steve-220152391.html
https://youtu.be/b9_Vh9h3Ohw?si=3dUmQYt1AKp78YWh
หนังสือ Piloting Palm: The inside Story of Palm, Handspring, and the Birth of the Billion-Dollar Handheld Industry โดย Andrea Butter


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube