fbpx

Geek Forever

ด.ดล Blog

Open Your World with Technology. เปิดโลกใบใหม่ของคุณ ด้วยเรื่องราวของเทคโนโลยี ( Business x Technology x Inspirational Stories )

HOME

  • ABOUT ME
  • BECOME A SUPPORTER
  • CONTACT
  • EDITORS ‘ PICKS
  • PODCAST

Follow us

  • facebook
  • twitter
  • instagram
  • youtube
  • linkedin
  • tiktok
  • blogger
  • line

Categories

  • Ads & PR
  • AI & Robot
  • Automobiles
  • Blog Series
    • A Day In The Life
    • Billion Dollar Loser
    • Cyberwar
    • Digital Music War
    • Failed Startup
    • JT 8704
    • Leadership Styles
    • Life of Pine
    • Paypal Mafia
    • Paypal Wars
    • Search War
    • Smartphone War
    • Tokyo in the Rain
    • ประวัติ Bill Gates
    • ประวัติ Bitcoin
    • ประวัติ Elon Musk
    • ประวัติ Ethereum
    • ประวัติ Google
    • ประวัติ iPod
    • ประวัติ Jack Ma
    • ประวัติ Jeff Bezos
    • ประวัติ Jho Low
    • ประวัติ mark zuckerberg
    • ประวัติ MBS
    • ประวัติ Netscape
    • ประวัติ Steve Jobs
    • ประวัติ TikTok
    • ประวัติ Tim Cook
    • ประวัติ Twitter
    • ประวัติ Vladimir Putin
    • ประวัติ เกาหลีใต้
  • Business
  • Case Study
  • China
  • COVID-19
  • Cryptocurrency
  • Economy
  • Entertainment
  • Entrepreneurship
  • Games
  • Healthcare
  • Insights
  • Inspiration
  • Investment
  • Marketing
  • News
  • Podcast
    • Geek Book
    • Geek China
    • Geek Daily
    • Geek Life
    • Geek Monday
    • Geek Story
    • Geek Talk
  • Podcast Series
    • Chip War
    • Digital Music War
    • Rise of South Korea
    • Search War
    • Smartphone War
    • ประวัติ Bill Gates
    • ประวัติ Elon Musk
    • ประวัติ Google
    • ประวัติ Jack Ma
    • ประวัติ Jeff Bezos
    • ประวัติ Mark Zuckerberg
    • ประวัติ Tim Cook
    • ประวัติ WeWork
    • ประวัติการก่อตั้ง Twitter
    • ประวัติการสร้าง iPod
  • Politics
  • Popular Blog
  • Programming
  • Recommendations
  • Review
    • Books
    • Documentary
    • Movies
    • Products
    • Series
  • Science & Tech
  • Self Help
  • Sport
  • Startup
  • Story
  • The Story
  • Travel
  • World War III

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025
  • July 2025
  • June 2025
  • May 2025
  • April 2025
  • March 2025
  • February 2025
  • January 2025
  • December 2024
  • November 2024
  • October 2024
  • September 2024
  • August 2024
  • July 2024
  • June 2024
  • May 2024
  • April 2024
  • March 2024
  • February 2024
  • January 2024
  • December 2023
  • November 2023
  • October 2023
  • September 2023
  • August 2023
  • July 2023
  • June 2023
  • May 2023
  • April 2023
  • March 2023
  • February 2023
  • January 2023
  • December 2022
  • November 2022
  • October 2022
  • September 2022
  • August 2022
  • July 2022
  • June 2022
  • May 2022
  • April 2022
  • March 2022
  • February 2022
  • January 2022
  • December 2021
  • November 2021
  • October 2021
  • September 2021
  • August 2021
  • July 2021
  • June 2021
  • May 2021
  • April 2021
  • March 2021
  • February 2021
  • January 2021
  • December 2020
  • November 2020
  • October 2020
  • September 2020
  • August 2020
  • July 2020
  • June 2020
  • May 2020
  • April 2020
  • March 2020
  • February 2020
  • January 2020
  • December 2019
  • November 2019
  • October 2019
  • September 2019
  • August 2019
  • July 2019
  • June 2019
  • May 2019
  • April 2019
  • March 2019
  • February 2019
  • January 2019
  • December 2018
  • November 2018
  • October 2018
  • September 2018
  • August 2018
  • May 2018
  • January 2018
  • December 2017
  • November 2017
  • October 2017
  • September 2017
  • August 2017
  • July 2017
  • June 2017
  • May 2017
  • April 2017
  • March 2017
  • February 2017
  • September 2016
  • June 2016
  • April 2016
  • March 2016
  • February 2016
  • January 2016
  • December 2015
  • October 2015
  • September 2015
  • May 2015
  • April 2015
  • March 2015
  • February 2015
  • December 2014
  • November 2014
  • October 2014
  • September 2014
  • August 2014
  • April 2014
  • March 2014
  • February 2014
  • January 2014

หมอ คืออะไร

TOEFL คืออะไร

ACT คืออะไร

A-Level คืออะไร

TGAT คืออะไร

CU-AAT คืออะไร

CU-ATS คืออะไร

Meta

  • Log in
  • Entries feed
  • Comments feed
  • WordPress.org

บทเรียนจาก Google Plus จาก 500 ล้านยูสเซอร์สู่ความล้มเหลว เมื่อการเป็นที่สองไม่เพียงพอในโลกโซเชียล

By tharadhol in Business, Case Study, Investment, Recommendations, Startup, The Story October 24, 2025

ในโลกของเทคโนโลยี คงไม่มีคำว่า “แน่นอน”

บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ดูเหมือนจะไม่มีวันพ่ายแพ้ ก็อาจสะดุดล้มลงได้ในสมรภูมิที่พวกเขาไม่คุ้นเคย

และถ้าจะพูดถึงความล้มเหลวครั้งประวัติศาสตร์ที่กลายเป็นบทเรียนราคาแพง เรื่องราวของ Google Plus ก็คงเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจที่สุดเรื่องหนึ่ง

เครื่องหยุดกรนอัตโนมัติ หยุดกรนง่าย หลับสนิททั้งคืน

เครื่องหยุดกรนอัตโนมัติ หยุดกรนง่าย หลับสนิททั้งคืน

เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมบริษัทที่เปรียบเสมือนเจ้าแห่งโลกอินเทอร์เน็ตอย่าง Google ถึงพ่ายแพ้อย่างย่อยยับในสนามรบโซเชียลมีเดีย?

หลายคนอาจเข้าใจว่า Google กระโดดเข้าสู่โลกโซเชียลมีเดียช้าเกินไป แต่ความจริงแล้ว พวกเขามองเห็นโอกาสนี้มาตั้งแต่ยุคแรก ๆ

ย้อนกลับไปก่อนที่โลกจะรู้จัก Facebook หรือแม้แต่ MySpace ด้วยซ้ำ Google เคยพยายามจะเข้าซื้อกิจการของ Friendster ซึ่งเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กยอดนิยมในยุคนั้น

เครื่องหยุดกรนอัตโนมัติ หยุดกรนง่าย หลับสนิททั้งคืน

เครื่องหยุดกรนอัตโนมัติ หยุดกรนง่าย หลับสนิททั้งคืน

ข้อเสนอมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ในรูปแบบของหุ้น Google ถูกยื่นให้กับ Friendster แต่น่าเสียดายที่ข้อเสนอนั้นถูกปฏิเสธไป

ซึ่งนี่อาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์เทคโนโลยี เพราะหากวันนั้น Friendster ตอบตกลง หุ้นที่พวกเขาได้รับในวันนั้น จะมีมูลค่าพุ่งสูงกว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน

เมื่อการซื้อกิจการไม่สำเร็จ Google ก็ไม่ได้ยอมแพ้ พวกเขาตัดสินใจที่จะสร้างแพลตฟอร์มของตัวเองขึ้นมา

กาว Epoxy ที่ดีที่สุด ติดได้ทุกวัสดุ

กาว Epoxy ที่ดีที่สุด ติดได้ทุกวัสดุ

จุดเริ่มต้นของความพยายามครั้งนี้คือ “Orkut” ที่เปิดตัวในปี 2004

Orkut ตั้งชื่อตามผู้สร้าง ซึ่งเป็นวิศวกรชาวตุรกีของ Google ที่พัฒนาโครงการนี้ขึ้นมาเป็นการส่วนตัว โดยใช้นโยบายของบริษัทที่อนุญาตให้พนักงานแบ่งเวลาการทำงานมาสร้างสรรค์โปรเจกต์ของตัวเองได้

สิ่งที่น่าทึ่งก็คือ Orkut เปิดตัวก่อน The Facebook ของ Mark Zuckerberg เพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น

Orkut มีฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ข้อความ แชร์รูปภาพ หรือการกดไลค์ เรียกได้ว่ามีทุกอย่างที่โซเชียลมีเดียควรจะมี

แม้จะเริ่มต้นได้ดี แต่ความนิยมของ Orkut กลับจำกัดอยู่แค่ในประเทศบราซิลและอินเดียเท่านั้น ในขณะที่ตลาดอื่น ๆ กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

สาเหตุสำคัญประการหนึ่งคือทีมงานที่ดูแล Orkut นั้นมีขนาดเล็กเกินไป ทำให้การพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ล่าช้า และไม่สามารถรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มได้อย่างทันท่วงที

เมื่อปัญหาเรื่องสแปมและการละเมิดกฎเริ่มทวีความรุนแรง ประกอบกับการมาถึงของคู่แข่งหน้าใหม่อย่าง MySpace และ Facebook ที่ดูจะถูกใจผู้ใช้งานมากกว่า Orkut ก็ค่อย ๆ เลือนหายไปจากความทรงจำ

แต่ความพ่ายแพ้ครั้งแรกไม่ได้ทำให้ Google ถอดใจ

ในปี 2008 พวกเขาเปิดตัว Google Friend Connect ซึ่งเป็นเครื่องมือให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถเพิ่มฟังก์ชันโซเชียลเข้าไปในเว็บของตัวเองได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับความนิยม

จากนั้นในปี 2009 ก็มาถึงคิวของ Google Wave ที่เคยถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของทั้ง Facebook และ Twitter

Google Wave เป็นแพลตฟอร์มที่พยายามจะรวมทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งอีเมล, ข้อความ, บล็อก และการแชร์ไฟล์ แต่สุดท้ายผู้ใช้งานกลับรู้สึกว่ามันซับซ้อนเกินไป และก็ล้มเหลวไปอีกครั้ง

พอเรื่องเป็นแบบนี้ Google ก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะมีโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นของตัวเองให้ได้

ในปี 2010 พวกเขาจึงเปิดตัว Google Buzz โดยครั้งนี้มาพร้อมกับกลยุทธ์ใหม่ คือการผนวกมันเข้ากับบริการอีเมลยอดนิยมอย่าง Gmail

ในทางทฤษฎีแล้ว นี่คือแนวคิดที่ชาญฉลาด เพราะ Google สามารถใช้ฐานผู้ใช้งาน Gmail ที่มีอยู่มหาศาลเป็นจุดเริ่มต้นได้ทันที

แต่การนำไปปฏิบัติกลับกลายเป็นหายนะ

อยู่มาวันหนึ่ง ผู้ใช้งาน Gmail ทั่วโลกต่างก็ต้องประหลาดใจ เมื่อพบว่าตัวเองถูกบังคับให้เป็นสมาชิกของ Google Buzz โดยไม่รู้ตัว

รายชื่อผู้ติดต่อที่พวกเขาส่งอีเมลหาบ่อยที่สุด ถูกเพิ่มเป็นเพื่อนโดยอัตโนมัติ ซึ่งหมายความว่าข้อมูลส่วนตัวบางอย่างถูกเปิดเผยสู่สาธารณะโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เหตุการณ์นี้สร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรง จนนำไปสู่การฟ้องร้องแบบกลุ่ม และสุดท้าย Google ก็ต้องยอมจ่ายเงินหลายล้านดอลลาร์เพื่อยุติคดี

Google Buzz จึงมีอายุขัยที่สั้นมาก และกลายเป็นอีกหนึ่งความล้มเหลวที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของบริษัท

หลังจากล้มเหลวมาแล้วถึง 4 ครั้ง ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ Google จะต้องทุ่มสุดตัวกับโครงการที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ในช่วงปี 2010 บรรดาผู้บริหารของ Google เริ่มรู้สึกร้อนใจกับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Facebook ที่กำลังจะกลายเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวที่สุด

Vic Gundotra รองประธานของ Google ในขณะนั้น คือคนที่ผลักดันให้ Larry Page ซีอีโอของบริษัท เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องมีโซเชียลมีเดียที่แข็งแกร่งเป็นของตัวเอง

และนั่นคือจุดกำเนิดของ “Google Plus”

ครั้งนี้ Google ไม่ได้มาเล่น ๆ พวกเขาทุ่มงบประมาณและทรัพยากรอย่างมหาศาล มีการระดมพนักงานกว่าหนึ่งพันคนมาเพื่อพัฒนาโครงการนี้โดยเฉพาะ

ที่สำคัญกว่านั้น Larry Page ได้ประกาศนโยบายที่สั่นสะเทือนไปทั้งบริษัทว่า 25% ของโบนัสประจำปีของพนักงานทุกคน จะผูกอยู่กับความสำเร็จของ Google Plus

นี่คือการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า โครงการนี้คือเดิมพันครั้งสำคัญที่สุดของ Google

Google Plus เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2011 ด้วยฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย

ฟีเจอร์เด่นอย่าง “Circles” ที่ให้ผู้ใช้สามารถจัดกลุ่มเพื่อนและเลือกว่าจะแชร์เนื้อหาให้ใครเห็นได้บ้าง ซึ่งถือเป็นแนวคิดที่ล้ำหน้ากว่า Facebook ในตอนนั้น

นอกจากนี้ยังมี “Hangouts” สำหรับการวิดีโอคอลแบบกลุ่ม ที่ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม

ในช่วงแรก Google Plus ใช้ระบบเชิญเท่านั้น ทำให้เกิดกระแสความอยากรู้อยากเห็นไปทั่ววงการเทคโนโลยี ทุกคนต่างก็อยากจะเข้ามาสัมผัสกับโซเชียลมีเดียตัวใหม่จาก Google

แม้แต่ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook ก็ยังเป็นหนึ่งในผู้ใช้งานกลุ่มแรก ๆ

มีรายงานว่า Facebook ตื่นตระหนกกับการมาถึงของ Google Plus เป็นอย่างมาก ถึงขั้นที่ Zuckerberg ต้องสั่งให้พนักงานทุกคนหยุดงานที่ทำอยู่ เพื่อระดมสมองหาทางรับมือกับคู่แข่งรายใหม่นี้

เมื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Google ประกาศทุ่มสุดตัว นักวิเคราะห์หลายคนต่างก็ฟันธงว่านี่อาจจะเป็นจุดจบของ Facebook

ตัวเลขในช่วงแรกก็ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น ภายในสิ้นปีแรก Google Plus มีผู้ใช้งานถึง 90 ล้านคน และทะยานสู่ 500 ล้านคนในอีกไม่กี่ปีต่อมา

ดูเหมือนว่าในที่สุด Google ก็ค้นพบสูตรสำเร็จในการสร้างโซเชียลมีเดียแล้ว แต่เบื้องหลังตัวเลขที่สวยหรูนั้น กลับมีความจริงที่เจ็บปวดซ่อนอยู่

ปัญหาแรกที่ร้ายแรงที่สุดคือ “การบังคับ”

Google เริ่มใช้นโยบายบังคับให้ผู้ที่ต้องการใช้งานบริการอื่น ๆ อย่าง YouTube หรือ Gmail ต้องสมัครบัญชี Google Plus ควบคู่ไปด้วย สิ่งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้งานเป็นวงกว้าง

ผู้คนไม่ได้อยากจะเข้าร่วม แต่พวกเขาถูกบีบให้ต้องทำ

เปรียบไปก็เหมือนกับการซื้อคอมพิวเตอร์ Windows เครื่องใหม่ ที่เราต้องจำใจเปิดเบราว์เซอร์ของ Microsoft เพื่อเข้าไปดาวน์โหลด Chrome หรือ Firefox เท่านั้นเอง

ปัญหาที่สองคือความซับซ้อน แม้ว่าฟีเจอร์ Circles จะเป็นแนวคิดที่ดี แต่มันก็ยุ่งยากเกินไปสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่คุ้นเคยกับความเรียบง่ายของ Facebook

ปัญหาที่สามคือการขาดเอกลักษณ์ที่ชัดเจน Google Plus ไม่ได้นำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างจากสิ่งที่มีอยู่เดิมในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ

คำถามคือ ทำไมคนเราจะต้องย้ายไปใช้แพลตฟอร์มใหม่ ในเมื่อเพื่อนของเราทุกคนยังอยู่ที่เดิม? นี่คือคำถามที่ Google ไม่เคยตอบได้อย่างน่าพอใจ

และปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือ ตัวเลขผู้ใช้งานที่ดูสวยหรูนั้นเป็นเพียงภาพลวงตา

ผลสำรวจพบว่า 90% ของผู้ใช้งาน Google Plus ใช้เวลาบนแพลตฟอร์มเฉลี่ยไม่ถึง 5 วินาทีต่อการเข้าใช้งานหนึ่งครั้ง

หนังสือพิมพ์ New York Times ถึงกับขนานนาม Google Plus ว่าเป็น “เมืองร้าง” ที่มีประชากรถึง 500 ล้านคน แต่กลับไม่มีใครออกมาใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกเลย

Google พยายามที่จะเอาชนะ Facebook ด้วยการสร้างสิ่งที่คล้ายคลึงกัน แทนที่จะสร้างนวัตกรรมที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

ในยุคแรก Facebook เอาชนะคู่แข่งอย่าง MySpace ได้ เพราะพวกเขานำเสนอสิ่งที่แตกต่าง ไม่ใช่แค่การลอกเลียนแบบ

เช่นเดียวกันกับในปัจจุบันที่ความนิยมของ Facebook เริ่มลดลง ไม่ใช่เพราะมีใครมาสร้าง Facebook เวอร์ชันใหม่ที่ดีกว่า แต่เป็นเพราะการมาถึงของแพลตฟอร์มที่สดใหม่และสร้างสรรค์กว่าอย่าง TikTok

Google Plus ไม่มีจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ไม่มีใครตอบได้ชัดเจนว่าแพลตฟอร์มนี้มีไว้เพื่ออะไรกันแน่

Facebook คือที่สำหรับติดตามเรื่องราวของเพื่อน, Twitter คือที่สำหรับข่าวสารแบบเรียลไทม์ แล้ว Google Plus คือที่สำหรับอะไร?

และแล้วฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ทุกอย่างพังทลายก็มาถึง

ในปี 2018 เกิดเหตุการณ์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านบัญชีรั่วไหล ซึ่งเป็นปัญหาด้านความปลอดภัยที่ร้ายแรงเกินกว่าจะให้อภัยได้

เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่นำไปสู่การฟ้องร้อง แต่ยังเป็นจุดที่ทำให้ Google ตัดสินใจยุติการให้บริการ Google Plus สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปลงอย่างเป็นทางการในปี 2019

มหากาพย์การไล่ตาม Facebook ที่ใช้เงินลงทุนมหาศาลและเวลายาวนานนับทศวรรษ ได้จบลงอย่างสมบูรณ์

เรื่องราวของ Google Plus ได้ทิ้งบทเรียนสำคัญไว้มากมาย

บทเรียนแรกคือ การลอกเลียนแบบไม่ใช่คำตอบของนวัตกรรม การสร้างสิ่งที่แตกต่างและมีคุณค่าอย่างแท้จริงเท่านั้นที่จะทำให้เราโดดเด่น

จบทุกปัญหา เรื่องท่อตัน ส้วมตัน ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

จบทุกปัญหา เรื่องท่อตัน ส้วมตัน ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

บทเรียนที่สองคือ ต้องฟังเสียงของผู้ใช้งาน การบังคับฝืนใจผู้บริโภคจะนำไปสู่การต่อต้านเสมอ

บทเรียนที่สามคือ ความเรียบง่ายคือหัวใจสำคัญ ฟีเจอร์ที่ซับซ้อนเกินไปอาจกลายเป็นอุปสรรคที่ทำให้ผู้คนไม่อยากใช้งาน

และบทเรียนสุดท้ายคือ ความไว้วางใจคือสิ่งที่เปราะบางที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

จบปัญหาทุกการรั่วซึม

จบปัญหาทุกการรั่วซึม

ความล้มเหลวของ Google Plus คือเครื่องพิสูจน์ว่า ต่อให้เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีทรัพยากรล้นฟ้า ก็ไม่ได้การันตีความสำเร็จเสมอไป

Google Plus พยายามที่จะเป็นทุกอย่างสำหรับทุกคน แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นอะไรเลยสำหรับใครสักคน

นี่คือบทเรียนราคาแพงที่แม้แต่บริษัทที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบอย่าง Google ก็ยังต้องเรียนรู้ และมันยังคงเป็นบทเรียนที่สำคัญมาจนถึงทุกวันนี้.

References : [Mashable, TheVerge, Wired, ArsTechnica, TheNewYorkTimes]

อ่านจบแล้วอย่างเพิ่งไปไหน เรายังมีอะไรเด็ด ๆ ให้อ่านอีกเพียบ ...คลิกเลย

อ่านจบแล้วอย่างเพิ่งไปไหน เรายังมีอะไรเด็ด ๆ ให้อ่านอีกเพียบ …คลิกเลย

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine

Related Posts

  • บทเรียนจาก Google Plus จาก 500 ล้านยูสเซอร์สู่ความล้มเหลว เมื่อการเป็นที่สองไม่เพียงพอในโลกโซเชียล

    ในโลกเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย เรื่องราวความสำเร็จและความล้มเหลวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแบบที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึง แต่ไม่มีเรื่องราวไหนที่จะให้บทเรียนได้เท่ากับเรื่องของ Google Plus อีกแล้ว นี่คือความพยายามครั้งใหญ่ที่สุดของ…

  • บทเรียนจาก Google Plus : จาก 500 ล้านยูสเซอร์ สู่ความล้มเหลว เมื่อการเป็นที่สองไม่เพียงพอในโลกโซเชียล

    ในโลกของเทคโนโลยีและสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องราวของความสำเร็จและความล้มเหลวมักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่คาดคิด แต่ไม่มีเรื่องราวใดที่น่าสนใจและให้บทเรียนมากไปกว่าเรื่องราวของ Google Plus ซึ่งถือเป็นความพยายามครั้งใหญ่ของ Google…

  • Geek Monday EP250 : บทเรียนจาก Google Plus จาก 500 ล้านยูสเซอร์สู่ความล้มเหลว เมื่อการเป็นที่สองไม่เพียงพอในโลกโซเชียล

    ในโลกของเทคโนโลยีและสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องราวของความสำเร็จและความล้มเหลวมักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่คาดคิด แต่ไม่มีเรื่องราวใดที่น่าสนใจและให้บทเรียนมากไปกว่าเรื่องราวของ Google Plus ซึ่งถือเป็นความพยายามครั้งใหญ่ของ Google…

  • สงครามการเมือง กับเบื้องหลังความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญของ Google Plus ที่มีต่อ Facebook

    Google+ ได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกปิดตัวลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  หลังจากที่ บริษัท ใช้เงินไปหลายร้อยล้านดอลลาร์กับโปรเจ็คดังกล่าว Google Plus…

  • Goodbye Chrome เมื่อ Browser จาก Google กำลังสอดแนมคุณ

    รู้หรือไม่ เมื่อคุณเปิดเบราว์เซอร์ของคุณเพื่อดูเว็บ มีใครบางคนกำลังจ้องมองดูคุณอยู่ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ได้ท่องเว็บโดยใช้ Google Chrome ทีมงานของ…


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology“


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube

รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด

รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด


 

Advertisements
กาวเหนียวขั้นเทพ กาวติดผนัง กาวติดไม้ กาวติดอลูมิเนียม | Sponsors

กาวเหนียวขั้นเทพ กาวติดผนัง กาวติดไม้ กาวติดอลูมิเนียม

Advertisements
ชุดฟอกฟันขาว ฟอกสีฟัน ด้วยแสงเลเซอร์ | Sponsors

ชุดฟอกฟันขาว ฟอกสีฟัน ด้วยแสงเลเซอร์

Advertisements
เก้าอี้เพื่อสุขภาพ ergonomic นั่งทำงาน ออฟฟิส แนะนำ ราคาถูกสุด ๆ

เก้าอี้เพื่อสุขภาพ ergonomic นั่งทำงาน ออฟฟิส แนะนำ ราคาถูกสุด ๆ

Advertisements
shirtlocker.co ตัวจริงเรื่องสื้อบอล ของแท้ หายาก ของที่ระลึกสุด exclusive คลิกเลย

shirtlocker.co ตัวจริงเรื่องเสื้อบอล ของแท้ หายาก ของที่ระลึกสุด exclusive คลิกเลย

Tags Google BuzzGoogle Plus คืออะไรGoogle Plus ล้มเหลวGoogle สู้ FacebookOrkut คือVic Gundotraกรณีศึกษา Google Plusกลยุทธ์ธุรกิจการตลาดดิจิทัลความผิดพลาดของ Googleทำไม Google Plus เจ๊งบทเรียนธุรกิจ Googleประวัติ Google Plusประวัติศาสตร์เทคโนโลยีสงครามโซเชียลมีเดียโซเชียลมีเดียที่หายไป
จ่ายดอกเบี้ยวันละ 100 ล้าน! ถอดรหัสกลยุทธ์ “อุ้ม” VinFast ของ Vingroup ที่อาจฉุดทั้งบริษัทให้จมลง
Geek Story EP496 : เกิดอะไรขึ้นกับ Compaq? ชนะ IBM แต่กลับพ่ายแพ้ให้กับตัวเอง

Search

  • POSTS
  • TAGS

POSTS

  • เปิดโปงปฏิบัติการ Shotgiant จุดเริ่มต้นสงครามไซเบอร์ เมื่อยักษ์ใหญ่จีนโดน NSA ล้วงตับ
  • Geek Story EP514 : Huawei ขโมยเทคโนโลยี Nortel จริงหรือ? ไขคดีปริศนาการล่มสลายของยักษ์ใหญ่แคนาดา
  • Geek Story EP513 : ใครฆ่า Netbook? แค่ 3 ปี จาก “อนาคต” กลายเป็น “อดีต”
  • Geek Monday EP300 : จาก Distar สู่ Karmart เจาะลึกการ Pivot ธุรกิจครั้งประวัติศาสตร์
  • วันที่ eBay แตกหักกับ PayPal หายนะ 2,000 ล้านเหรียญ ที่เกือบทำบริษัทล้มละลาย

TAGS

AI alibaba apple BYD chatgpt elon musk facebook google huawei iphone ipod jack ma machine learning mark zuckerberg microsoft openai paypal Robot samsung SpaceX startup steve jobs Tesla tim cook TSMC กรณีศึกษาธุรกิจ กลยุทธ์ธุรกิจ การพัฒนาตนเอง ความสำเร็จ บทเรียนธุรกิจ ประวัติ Apple ปัญญาประดิษฐ์ พัฒนาตนเอง พัฒนาตัวเอง รถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้าจีน สงคราม AI สงครามชิป สงครามเทคโนโลยี อีลอน มัสก์ เคล็ดลับความสำเร็จ เทคโนโลยี AI เรื่องเล่าธุรกิจ เศรษฐกิจจีน แรงบันดาลใจ
November 2025
M T W T F S S
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
« Oct    
Proudly powered by WordPress. Theme: DW Minion by DesignWall.

อย่าลืมช่วยกด Like เพจกันด้วยนะคร้าบ!


This will close in 320 seconds