วิธีสร้างข้อเสนอที่ลูกค้าไม่กล้าปฏิเสธ : เผย 4 เคล็ดลับวิธีสร้างข้อเสนอที่ทรงพลังแบบ Alex Hormozi

ในโลกธุรกิจที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด การสร้างข้อเสนอทางธุรกิจที่โดดเด่นและน่าสนใจถือเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ

Alex Hormozi ผู้เขียนหนังสือ “100 Million Dollar Offers: How to Make Offers So Good People Feel Stupid Saying No” ได้นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสร้างข้อเสนอที่ทรงพลัง หนังสือเล่มนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยมีคะแนนรีวิวสูงถึง 4.9 จากผู้อ่านกว่า 24,000 คนใน Amazon

บทความนี้จะนำเสนอแนวคิดหลักจากหนังสือดังกล่าว โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วนสำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ของคุณ ตลาดของคุณ ราคาของคุณ และข้อเสนอของคุณ

1. ผลิตภัณฑ์ของคุณ: สร้างความแตกต่างเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นสินค้าโภคภัณฑ์

ปัญหาหลักที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เผชิญคือ การมีลูกค้าไม่เพียงพอและกำไรที่เหลือน้อยเกินไป หลายคนพยายามแก้ปัญหาด้วยการลดราคา แต่วิธีนี้มักใช้ได้ผลเฉพาะกับสินค้าโภคภัณฑ์เท่านั้น

สินค้าโภคภัณฑ์ คือผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายทั่วไปและมีคุณภาพใกล้เคียงกัน เช่น ผักและผลไม้ การขายสินค้าประเภทนี้มักนำไปสู่การแข่งขันด้านราคา ซึ่งทำให้กำไรลดลงอย่างมาก

แทนที่จะเน้นการแข่งขันด้านราคา ผู้ประกอบการควรโฟกัสการสร้างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์ ยกตัวอย่างเช่น แทนที่จะเสนอบริการโค้ชลดน้ำหนักออนไลน์ทั่วไป คุณอาจเสนอโปรแกรมที่มีลักษณะพิเศษ เช่น:

  • ลูกค้าจ่ายเงินเมื่อเห็นผลลัพธ์เท่านั้น
  • รับประกันผลลัพธ์ที่ชัดเจน เช่น ลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัมในเดือนแรก
  • มีแอปพลิเคชันเฉพาะที่ช่วยในการซื้อของ ทำอาหาร และรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ
  • ให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมงสำหรับลูกค้า

การสร้างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างเช่นนี้ จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อโดยพิจารณาจากคุณค่าที่ได้รับ มากกว่าการเปรียบเทียบราคากับคู่แข่ง

2. ตลาดของคุณ: เลือกกลุ่มเป้าหมายที่ใช่

การเลือกตลาดที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การมีผลิตภัณฑ์ที่ดี ตลาดที่เหมาะสมควรมีลักษณะดังนี้:

  1. มีความเจ็บปวด (Pain): ลูกค้าต้องมีปัญหาที่ต้องการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เช่น คนที่ปวดหัวย่อมต้องการยาแก้ปวดมากกว่าวิตามินซี
  2. มีอำนาจซื้อ (Purchasing Power): กลุ่มเป้าหมายต้องมีความสามารถในการจ่ายสำหรับสินค้าหรือบริการของคุณ
  3. เข้าถึงง่าย (Easy to Target): ต้องสามารถหากลุ่มเป้าหมายได้ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น รายชื่ออีเมล กลุ่มโซเชียลมีเดีย หรือช่องทางสื่อที่พวกเขาใช้
  4. เป็นตลาดที่กำลังเติบโต (Growing Market): เลือกตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตในอนาคต เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโซเชียลมีเดีย แทนที่จะเป็นธุรกิจที่กำลังถดถอย เช่น หนังสือพิมพ์

นอกจากนี้ ควรโฟกัสไปที่ตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) แทนที่จะพยายามเข้าถึงทุกคนในตลาดใหญ่ การเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของคุณมีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น และลดการแข่งขันลงได้

ตัวอย่างเช่น แทนที่จะขายคอร์สการบริหารเวลาทั่วไป คุณอาจเลือกขายคอร์สการบริหารเวลาสำหรับพยาบาลกะกลางคืนโดยเฉพาะ ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

3. ราคาของคุณ: คิดราคาให้สูงจนรู้สึกเจ็บ

“คิดราคาให้สูงจนรู้สึกเจ็บ” เป็นแนวคิดที่ Alex Hormozi นำเสนอ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะตั้งราคาสูงลิบลิ่วโดยไม่มีเหตุผล แต่หมายถึงการตั้งราคาที่สะท้อนถึงคุณค่าที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ

การตั้งราคาสูงมีข้อดีหลายประการ:

  1. เพิ่มแรงจูงใจสูงในการใช้ผลิตภัณฑ์: ลูกค้าที่จ่ายเงินมากขึ้นมักจะมีแรงจูงใจสูงในการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการให้คุ้มค่า ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
  2. ช่วยให้คุณสามารถเสนอคุณภาพที่สูงขึ้นได้: เมื่อมีรายได้มากขึ้น คุณสามารถลงทุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จ้างพนักงานที่มีคุณภาพ และปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าได้

อย่างไรก็ตาม การตั้งราคาสูงต้องมาพร้อมกับการส่งมอบคุณค่าที่สูงด้วย Hormozi แนะนำให้พิจารณา “ตัวขับเคลื่อน 4 ประการ” ในการสร้างคุณค่า:

  1. ผลลัพธ์ในฝัน (Dream Outcome): สิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ จากผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ
  2. การรับรู้โอกาสที่จะสำเร็จ (Perceived Likelihood of Achievement): ความมั่นใจของลูกค้าว่าพวกเขาจะได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการ
  3. ความล่าช้าของเวลา (Time Delay): ระยะเวลาที่ลูกค้าต้องรอก่อนจะเห็นผลลัพธ์
  4. ความพยายามและการเสียสละ (Effort and Sacrifice): สิ่งที่ลูกค้าต้องทำหรือสละเพื่อใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ

4. ข้อเสนอของคุณ: สร้างข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้

การสร้างข้อเสนอที่ทรงพลังเริ่มต้นจากการเข้าใจผลลัพธ์ในฝันของลูกค้าและอุปสรรคที่ขัดขวางพวกเขาไว้ จากนั้นจึงพัฒนาวิธีแก้ปัญหาที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนในการสร้างข้อเสนอที่น่าสนใจ:

  1. ระบุผลลัพธ์ในฝัน: เข้าใจสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ เช่น “ลดน้ำหนัก 14 กิโลกรัมใน 7 สัปดาห์”
  2. ระบุปัญหา: ค้นหาอุปสรรคทั้งหมดที่อาจขัดขวางลูกค้าจากการบรรลุเป้าหมาย เช่น การซื้ออาหารเพื่อสุขภาพที่มันดูยากเย็นแสนเข็ญ หรือความรู้สึกอึดอัดเมื่อต้องไปยิม
  3. สร้างรายการวิธีแก้ปัญหา: เปลี่ยนปัญหาแต่ละข้อให้เป็นวิธีแก้ปัญหา เช่น “วิธีทำให้การซื้ออาหารง่ายและสนุก”
  4. สร้างวิธีส่งมอบวิธีแก้ปัญหาของคุณ: คิดวิธีที่เป็นไปได้ในการแก้ปัญหาแต่ละข้อ เช่น การให้คำแนะนำในการซื้อของ การจับคู่ลูกค้าเพื่อช่วยเหลือกัน หรือการเสนอรายการซื้อของที่ปรับให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละคน
  5. ตัดทอนและจัดกลุ่ม: พิจารณาต้นทุนและคุณค่าของแต่ละวิธีแก้ปัญหา ตัดทิ้งวิธีที่มีต้นทุนสูงและคุณค่าต่ำ เลือกวิธีที่มีต้นทุนต่ำและคุณค่าสูง หรือปรับวิธีที่มีต้นทุนสูงและคุณค่าสูงให้สามารถทำได้จริง

จากขั้นตอนเหล่านี้ เราก็จะได้ชุดผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น สำหรับปัญหาการซื้ออาหารเพื่อสุขภาพ คุณอาจเสนอ:

  1. การโค้ชด้านโภชนาการแบบตัวต่อตัว
  2. วิดีโอสอนการเลือกซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต
  3. เครื่องคำนวณการซื้อของแบบ DIY
  4. รายการซื้อของรายสัปดาห์ที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละคน
  5. ระบบจับคู่เพื่อนซื้อของ
  6. บริการจัดเตรียมซื้อของล่วงหน้า

การรวมวิธีแก้ปัญหาหลายๆ อย่างเข้าด้วยกันเช่นนี้ จะทำให้ข้อเสนอของคุณมีคุณค่าสูงและแตกต่างจากคู่แข่ง ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าโอกาสที่จะล้มเหลวนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้

บทสรุป

การสร้างข้อเสนอมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ไม่ใช่เรื่องของการโฆษณาชวนเชื่อหรือกลยุทธ์การขายแบบ Hard Sell แต่เป็นเรื่องของการสร้างคุณค่าที่แท้จริงให้กับลูกค้า โดยสรุปแล้ว กุญแจสำคัญมีดังนี้:

  1. สร้างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง: หลีกเลี่ยงการเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีเอกลักษณ์
  2. เลือกตลาดที่เหมาะสม: ให้โฟกัสไปที่กลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการสูง มีกำลังซื้อ และเข้าถึงได้ง่าย
  3. ตั้งราคาตามคุณค่า: อย่ากลัวที่จะตั้งราคาสูง แต่ต้องแน่ใจว่าคุณส่งมอบคุณค่าที่มันคุ้มค่าจริง ๆ
  4. สร้างข้อเสนอที่ครอบคลุม: แก้ปัญหาทุกอย่างที่อาจขัดขวางลูกค้าจากการบรรลุเป้าหมาย
  5. โฟกัสที่ผลลัพธ์: เน้นย้ำถึงผลลัพธ์ที่ลูกค้าจะได้รับ ไม่ใช่แค่คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
  6. ลดความเสี่ยงให้ลูกค้า: สร้างความมั่นใจด้วยการรับประกันผลลัพธ์หรือคืนเงิน
  7. ทำให้ง่ายที่สุด: ลดความพยายามและเวลาที่ลูกค้าต้องใช้ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ด้วยการใช้หลักการเหล่านี้ เราจะสามารถสร้างข้อเสนอที่ไม่เพียงแต่น่าสนใจ แต่ยังทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขาจะโง่มากถ้าคิดจะปฏิเสธ นี่คือวิธีที่จะทำให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นในตลาดที่แข่งขันสูงและสร้างความสำเร็จในระยะยาวได้นั่นเองครับผม

References :
หนังสือ “100 Million Dollar Offers: How to Make Offers So Good People Feel Stupid Saying No” โดย Alex Hormozi


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube