BYD ยึดครองตลาดบราซิลอย่างไร? เมื่อยักษ์ใหญ่จากจีนปฏิวัติวงการรถยนต์ไฟฟ้าในแดนแซมบ้า

ในทุกวันนี้ท้องถนนในเซาเปาโลกำลังเปลี่ยนไป เสียงเครื่องยนต์ที่เคยดังกระหึ่มค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยความเงียบสงบของรถยนต์ไฟฟ้า และส่วนใหญ่จะมีโลโก้ BYD ปรากฏขึ้นอย่างเด่นชัด

บราซิลเคยขึ้นชื่อเรื่องรถ flex fuel ที่ใช้เอทานอล แต่ตอนนี้มีสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงพัดเข้ามา ยุคแห่งรถยนต์ไฟฟ้ากำลังมาถึง และ BYD กำลังเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

เมื่อไม่กี่ปีก่อน ใครจะเชื่อว่าแบรนด์จีนที่แทบไม่มีใครรู้จักจะกลายเป็นชื่อคุ้นหูในบราซิล? แต่ BYD ทำสำเร็จ พวกเขามองเห็นโอกาสทองในประเทศที่มีประชากรกว่า 200 ล้านคน

BYD ไม่ได้แค่บุกตลาดแบบมั่วซั่ว พวกเขาวางแผนอย่างรอบคอบ นำเสนอสิ่งที่ชาวบราซิลต้องการจริงๆ: รถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาเข้าถึงได้ ไม่ใช่ของเล่นสำหรับคนรวยอีกต่อไป

ความสำเร็จของ BYD ไม่ได้มาจากแค่ราคาถูก แต่เป็นเรื่องของจังหวะเวลาที่เหมาะสม กลยุทธ์ที่ชาญฉลาด และความกล้าที่จะเข้าถ้ำเสือในตลาดที่ไม่มีใครกล้าเสี่ยง

เมื่อ BYD เริ่มบุกบราซิล พวกเขาเจอกำแพงยักษ์: ผู้บริโภคที่ไม่คุ้นเคยกับรถไฟฟ้า ความสงสัยในแบรนด์จีน และโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จที่แทบไม่มี แต่พวกเขามีกลยุทธ์โครตเทพ

แทนที่จะนำรถหรูราคาแพงมาขาย BYD แนะนำรุ่น Dolphin ที่ราคาเข้าถึงได้ ให้ระยะทางพอใช้ในเมือง และมีดีไซน์ที่ถูกใจคนบราซิล บริษัทเข้าใจความต้องการของตลาดอย่างลึกซึ้ง

Carlos Silva นักวิเคราะห์อุตสาหกรรม บอกว่า: “BYD รู้ว่าชาวบราซิลอยากได้อะไร – รถที่ดูเท่ ประหยัด และคุ้มค่า พวกเขาไม่ได้ขายรถไฟฟ้าเป็นของหรู แต่เป็นทางเลือกฉลาดสำหรับคนทั่วไป”

BYD สร้างเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายอย่างรวดเร็ว ทำให้คนได้ลองขับจริง ความนิยมพุ่งทะยานเมื่อเจ้าของรถคนแรกๆ เริ่มแชร์ประสบการณ์ดีๆ ความกังวลเรื่องความน่าเชื่อถือและปัญหาเรื่องซ่อมบำรุงก็เริ่มหายไป

กลยุทธ์สุดเจ๋งของ BYD คือไม่จำกัดตัวเองแค่ตลาดรถส่วนตัว พวกเขาเสนอรถบัสไฟฟ้าให้เทศบาลต่างๆ เมือง São José dos Campos เป็นเมืองแรกๆ ที่ใช้รถบัส BYD และความสำเร็จนี้ทำให้เมืองอื่นๆ เริ่มสนใจตาม

แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น รัฐบาลของประธานาธิบดี Luis Inácio Lula da Silva ประกาศกลับมาเก็บภาษีนำเข้ารถไฟฟ้า ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์ของ BYD ดิ่งลงเหวได้

BYD ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ พวกเขาประกาศลงทุน 1.5 พันล้านดอลลาร์สร้างโรงงานในรัฐ Bahia ซึ่งไม่เพียงช่วยหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้า แต่ยังสร้างงานนับพันในพื้นที่ยากจน ทำให้ได้ใจผู้นำท้องถิ่นและชุมชน

ในเวลาเดียวกัน การแข่งขันเริ่มรุนแรง บริษัทจีนอื่นๆ อย่าง GAC และ Great Wall Motors เห็นช่องทางและเริ่มส่งรถเข้ามาแข่ง แต่ BYD ยังได้เปรียบเพราะมีสายการผลิตแบตเตอรี่เอง ทำให้ควบคุมต้นทุนได้ดีกว่า

ปัญหาไม่คาดฝันโผล่มาเมื่อองค์กรสิทธิแรงงาน ALPES รายงานว่า BYD มีปัญหาด้านแรงงาน มีการใช้คำว่า “กึ่งๆความเป็นทาส” ในข่าว ซึ่งอาจทำลายชื่อเสียงของ BYD ได้

BYD รีบแก้ไขสถานการณ์ ปฏิเสธข้อกล่าวหาและเชิญสื่อเยี่ยมชมโรงงาน เพื่อแสดงว่าพวกเขาทำตามมาตรฐานแรงงานบราซิล นี่เป็นบทเรียนว่าการเติบโตเร็วมาพร้อมการจับตามองที่เข้มข้น

แม้เจอปัญหารุมเร้า แต่ BYD ยังรักษาความได้เปรียบด้วยความสามารถในการปรับตัว พวกเขาปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการออกรุ่นใหม่ หรือพัฒนาความสัมพันธ์กับคนท้องถิ่น

มองย้อนกลับไป การเดินทางของ BYD ในบราซิลแสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถเปลี่ยนแปลงตลาดได้อย่างไร ในเวลาไม่กี่ปี พวกเขาเปลี่ยนรถไฟฟ้าจากของแปลกหรูหราให้กลายเป็นตัวเลือกจริงจังสำหรับชนชั้นกลางบราซิล

ปัจจุบัน การเห็นรถ BYD ในเซาเปาโลหรือริโอเดจาเนโรเป็นเรื่องปกติ ความสำเร็จนี้ส่งผลกระทบลึกซึ้งต่อตลาด ทำให้ค่ายรถเดิมอย่าง Volkswagen และ GM ต้องเร่งแผนรถไฟฟ้าของตัวเองเพื่อไม่ให้ตกขบวน

Ana Pereira ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ในเซาเปาโลกล่าวว่า: “BYD ทำให้ผู้ผลิตรถทุกรายในบราซิลต้องตื่นตัว พวกเขาพิสูจน์ว่ามีตลาดสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าราคาเหมาะสม และตอนนี้ทุกคนกำลังวิ่งไล่ตาม”

โรงงานใหม่ของ BYD ในรัฐ Bahia จะเปิดปี 2026 คาดว่าจะผลิตรถได้ถึง 150,000 คันต่อปี การลงทุนนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นระยะยาวต่อบราซิล และมองประเทศนี้เป็นศูนย์กลางการขยายตัวทั่วละตินอเมริกา

Maria Consuelo นักวิเคราะห์การค้าระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัย São Paulo บอกว่า: “การสร้างโรงงานของ BYD มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์มาก บราซิลมีข้อตกลงการค้ากับประเทศในภูมิภาค ซึ่งหมายความว่ารถที่ผลิตที่นี่ส่งออกไปยังอาร์เจนตินา ชิลี และประเทศอื่นๆ โดยไม่เสียภาษีสูง”

รัฐบาลของประธานาธิบดี Lula ยังประกาศแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยขจัดอุปสรรคใหญ่ของการยอมรับรถไฟฟ้า: ความกังวลเรื่องระยะทาง แผนนี้รวมถึงการติดตั้งสถานีชาร์จตามทางหลวงและในเมืองต่างๆ

อนาคตยังมีความไม่แน่นอน แบรนด์จีนอื่นๆ กำลังบุกตลาด และค่ายรถตะวันตกก็เร่งแผนรถไฟฟ้าของตนเอง แม้แต่ Tesla ที่เคยมองว่าบราซิลไม่ใช่ตลาดเป้าหมาย ก็กำลังพิจารณานำรุ่นราคาถูกกว่ามาขาย

ความท้าทายของ BYD คือการรักษาโมเมนตัมในช่วงรอโรงงานในบราซิลสร้างเสร็จ พวกเขาต้องสมดุลระหว่างการนำเข้ารถที่แข่งขันได้ในระยะสั้น กับการเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตในท้องถิ่นระยะยาว

Roberto Veiga นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมยานยนต์จาก Rio de Janeiro บอกว่า: “สองสามปีข้างหน้าเป็นช่วงสำคัญสำหรับ BYD ในบราซิล พวกเขาสร้างฐานแข็งแกร่ง แต่ต้องทำงานหนักเพื่อรักษาไว้ ขณะที่คู่แข่งกำลังตามมาติดๆ”

สำหรับชาวบราซิล การเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าหมายถึงการประหยัดระยะยาวและการลดมลพิษในเมืองที่คุณภาพอากาศแย่มาก การเปลี่ยนแปลงนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น รถไฟฟ้ายังมีเพียง 5% ของยอดขายรถใหม่ แต่ตัวเลขนี้กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ในภาพกว้าง ความสำเร็จของ BYD เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงระดับโลก บริษัทจีนกำลังใช้ความเชี่ยวชาญด้านรถไฟฟ้าขยายอิทธิพลในตลาดเกิดใหม่ ขณะที่ยุโรปและอเมริกาเป็นตลาดยากเพราะมาตรการกีดกัน แต่ละตินอเมริกา แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เปิดโอกาสให้แบรนด์จีน

เมื่อยุครถไฟฟ้าในบราซิลเบ่งบาน BYD ขีดชะตาตัวเองให้อยู่แถวหน้าของการเปลี่ยนแปลงนี้ และดูเหมือนว่าจังหวะก้าวของพวกเขาจะไม่หยุดแค่นี้ แต่จะก้าวต่อไปบนถนนแห่งความสำเร็จที่พวกเขาปลุกปั้นขึ้นด้วยตัวเอง


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube