House of Mouse กับเรื่องราวการรีมาสเตอร์สู่โลกดิจิทัลของ Disney

ด้วยเทรนด์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ที่ตอนนี้เนื้อหากลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโลกธุรกิจบันเทิง โดยเฉพาะบริการสตรีมมิ่งที่กำลังกลายเป็นไอคอนใหม่แห่งวงการธุรกิจสื่อด้านบันเทิงที่กำลังขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด

ในการตอบสนองต่อพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไปเหล่านี้ และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากบริการสตรีมมิ่งออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Amazon Prime Video หรือ Netflix ต้องบอกว่าดุเดือดเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

Disney ได้มีการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญ เพื่อวางตำแหน่งของตัวเองให้สามารถที่จะจัดจำหน่ายเนื้อหาของพวกเขาโดยตรงไปยังผู้บริโภคที่ได้กลายเป็นหัวใจของธุรกิจสื่อในตอนนี้

Disney ได้ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อเตรียมเนื้อหาที่มีคุณค่าและการต่อสู้ในด้านเทคโนโลยี ที่พร้อมจะรุกคืบ เพื่อทวงคืนความเป็นผู้นำด้านเนื้อหาของตัวเองในธุรกิจบันเทิงคืนมา

การเดิมพันครั้งใหญ่กับ BAMTech

ต้องบอกว่า Disney ได้มีการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญที่สุดครั้งนึงในประวัติศาสตร์ของบริษัทเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2016 ในการลงทุนเบื้องต้น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในบริษัท BAMTech ผู้เชี่ยวชาญด้านสตรีมมิ่ง

กาารเข้าซื้อหุ้น 33% ของ BAMTech มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบ OTT (over-the-top) โดยได้แบรนด์อย่าง ESPN รวมถึงเทคโนโลยีแบ็คเอนด์ที่มีความแข็งแกร่งมาก ๆ ของ BAMTech มาเสริมทัพ

ลงทุนใน BAMTech เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยี

หลังจากนั้นในเดือนสิงหาคมปี 2017 Disney ก็เดินเกมอย่างรวดเร็ว เพื่อลงทุนเพิ่มใน BAMTech โดยลงทุนเพิ่มอีกกว่า 1.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเข้าถือหุ้นแบบเบ็ดเสร็จในบริษัท

และได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น Disney Streming Services ซึ่งตอกย้ำถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของ Disney ในการจัดจำหน่ายเนื้อหาของพวกเขาไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง

ในขณะเดียวกัน Disney ได้ยืนยันแผนการที่จะดึงภาพยนตร์และรายการทีวีส่วนใหญ่ออกจาก Netflix ซึ่งเคยทำรายได้ให้กับ Disney กว่า 150 ล้านดอลลาร์ต่อปี และเปิดตัว Disney+ บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงรูปแบบใหม่ในปลายปี 2019

ปรับโครงสร้างและโฟกัสใหม่

การตัดสินใจครั้งสำคัญอีกอย่างนึงของ Disney ก็คือ การเจรจาเข้าซื้อกิจการของ 21st Century Fox ซึ่งได้รวมเอาเครือข่ายกีฬาระดับภูมิภาคอย่าง (RSN) ของสหรัฐฯ ด้วยมูลค่า ประเมินที่ 52.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ข้อตกลงในครั้งนี้ ทำให้ Disney มีคลังเนื้อหาที่ครอบคลุมในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งรวมถึงแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็น The Simpsons, X-Men , Aliens , Planet of the Apes , Home Alone , 24 และ Family Guy

ในเดือนเมษายนปี 2018 หลังจากความล่าช้าอย่างต่อเนื่อง ในที่สุด ESPN+ ก็ได้เริ่มเปิดให้บริการในสหรัฐอเมริกา ด้วยเนื้อหาจาก National Hockey League (NHL) , Major League Baseball (MLB) , PGA Tour , เทนนิสแกรนสแลม และ กีฬาในระดับชั้นมหาวิทยาลัย

ภายในเดือน กุมภาพันธ์ปี 2019 จำนวนสมาชิกก็ทะลุ 2 ล้านคนได้สำเร็จ ส่วนหนึ่งมาจากรายการมวยชื่อดังอย่าง Ultimate Fighting Championship’s (UFC) ที่ช่วยให้มีผู้ลงทะเบียนใหม่กว่า 568,000 ราย

เกือบ 18 เดือนหลังจากการเจรจาระหว่าง Disney กับ Fox ของ Rupert Murdoch ในที่สุดก็สามารถปิดดีล ได้ที่ราคา 71.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งได้รวมเอา ภาพยนตร์และสตูดิโอโทรทัศน์ของ Fox , National Geographic และ FX รวมถึงกิจการในต่างประเทศของ Fox อย่าง Star India ยักษ์ใหญ่ด้านบันเทิงจากอินเดียที่มีบริการอย่าง OTT Hotstar อยู่ในมือมาเสริมความแข็งแกร่งได้อีกด้วย

การปรับโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ให้จัดจำหน่ายเนื้อหาสู่ผู้บริโภคโดยตรง
การปรับโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ให้จัดจำหน่ายเนื้อหาสู่ผู้บริโภคโดยตรง

ในเดือนพฤษภาคมปี 2019 Disney มีแผนที่จะควบรวมกิจการของ Hulu อย่างเต็มรูปแบบ หลังจากตกลงซื้อหุ้นหนึ่งในสามจาก Comcast ซึ่ง Hulu นั้นเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 28 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา และมีความทะเยอทะยานที่จะขยายไปสู่ต่างประเทศ

เตรียมฆ่าคู่แข่งและขึ้นสู่เบอร์หนึ่งตัวจริง

ต้องบอกว่าเป็นการปรับโครงสร้างทางธุรกิจครั้งใหญ่สำหรับ Disney ในการสู้ศึกกับการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคครั้งใหม่ ดูเหมือนว่าเส้นทางของพวกเขานั้นจะสดใสเอามาก ๆ

มันเป็นการ รวมบริการต่าง ๆ ที่ปรับปรุงใหม่ไว้ในแพ็คเกจกับธุรกิจแห่งอนาคตอย่างบริการสตรีมมิ่ง ทั้งกีฬา และความบันเทิงแบบชุดใหญ่บน Disney+ ซึ่งจะมีการให้บริการควบคู่ไปกับ ESPN+ และ Hulu ในราคาที่เข้าถึงได้

ด้วยทีมงานเบื้องหลังแบรนด์ยักษ์ใหญ่ 4 แบรนด์ของ Disney อย่าง Disney , Marvel , Lucasfilm และ Pixar รวมถึง Fox , Fox Searchlight และ National Geographic มันคือทีมงานระดับคุณภาพที่มีเหนือ Netflix ที่เติบโตมาจากธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีมากกว่าการมีรากฐาน DNA ของการเป็นบริษัทบันเทิงอย่างที่ Disney เป็น

การแพร่ระบาดของ COVID-19 นั้น กลายเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ Disney ข้อดีคงเป็นเรื่องบริการสตรีมมิ่งอย่าง Disney+ ที่เติบโตเร็วเกินคาด

Disney+ สามารถสร้างฐานสมาชิก 50 ล้านคนในเวลาเพียงแค่ 6 เดือนเพียงเท่านั้น ทั้งที่เป้าหมายเดิมของ Disney ตัวเลข 50 ล้านคนของจำนวนสมาชิก พวกเขาวางไว้ว่าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวในปี 2024 เรียกได้ว่า COVID-19 นั้นช่วยลดระยะเวลาการเข้าสู่ตลาดแมส ของ Disney ได้ถึง 4 ปีเลยทีเดียว

ด้วยจุดแข็งที่สำคัญที่สุดของ Disney ด้วยจำนวนเนื้อหาในคลังของพวกเขาที่มีมหาศาล ทำให้พวกเขาไม่ต้องกังวลกับการที่จะต้องสร้างเนื้อหาใหม่ตลอดเวลาเหมือนที่ Netflix กำลังประสบอยู่ในตอนนี้

และอย่างที่เราทราบตอนนี้ สวนสนุกของ Disney ทุกแห่งปิดให้บริการเนื่องจาก COVID-19 ซึ่งในรายงานทางการเงินฉบับล่าสุด บริษัทยังรายงานถึงการหยุดชะงักในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งทำให้การขายสินค้าที่เป็นรายได้หลักของบริษัทต้องหยุดชะงักไป

การระบาดครั้งใหญ่ทำให้ แหล่งทำเงินใหญ่ที่สุดของ Disney ต้องหยุดชะงัก นั่นเป็นเหตุผลที่ Disney ยังไม่สามารถที่จะต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้างกำไรทั้งหมดจากฐานแฟน ๆ ของ Disney+ ได้ ผ่านสินค้าที่ระลึกต่าง ๆ รวมถึงธุรกิจสวนสนุก

แต่ในที่สุดโรคระบาดก็จะผ่านพ้นไป สวนสนุกของ Disney จะกลับมาคึกคักอีกครั้งด้วยเด็กๆ หลายล้านคน ของเล่นของ Disney จะขายดีอย่างถล่มทลายอีกครั้งจากแฟน ๆ ที่ติดตามเนื้อหาผ่าน Disney+ และเครื่องจักรทำเงินของ Disney จะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งและแน่นอนว่ามันจะมีพลังมากขึ้นกว่าเดิมอย่างมหาศาลอย่างแน่นอนครับผม

References : https://en.wikipedia.org/wiki/Disney%2B
https://www.forbes.com/sites/danrunkevicius/2020/07/08/disney-master-plan-with-disney-plus-that-no-one-is-talking-about
https://variety.com/2019/biz/features/disney-plus-streaming-plans-bob-iger-1203120734/
https://www.sportspromedia.com/from-the-magazine/disney-plus-espn-bamtech-fox-takeover-hulu-ott-streaming
https://www.fastcompany.com/90607786/how-disney-plus-is-winning-by-ripping-up-the-streaming-playbook
https://adage.com/article/cmo-strategy/netflix-already-feeling-impact-disney/2164726


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube