ในกระบวนการหยิบจับสินค้าแบบอัตโนมัติ สำหรับกระบวนการหยิบจับและขนส่งสินค้าแต่ละรายการ ในศูนย์โลจิสติกส์บริดจสโตนเดินหน้าสู่การดำเนินธุรกิจหุ่นยนต์นิ่มขนาดเล็ก ผ่านการสร้างคุณค่าร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจในระหว่างแผนการดำเนินธุรกิจระยะกลาง (พ.ศ. 2567 – 2569)
บริดจสโตนดำเนินธุรกิจหุ่นยนต์นิ่ม (Soft-Robotics Business) เพื่อสนับสนุนการดำเนินชีวิตของผู้คน มุ่งสู่ “ด้าน Empowerment (พลังทางสังคม) ใน “Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของ บริดจสโตน)” *1 ด้วยการสนับสนุนและร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ๆ แก่สังคม และลูกค้าผ่านธุรกิจหุ่นยนต์นิ่ม”
นับเป็นความท้าทายครั้งใหม่ในธุรกิจหุ่นยนต์นิ่มของบริดจสโตนซึ่งจัดอยู่ในประเภทผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการเดินทางที่ปลอดภัย ตลอดจนการขนส่งของผู้คนและสินค้า ด้วยการใช้ประโยชน์หลักจาก “ความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับยาง” และ “ความเชี่ยวชาญในการควบคุมยางรถยนต์เมื่อสัมผัสพื้นถนน”
ตลอดจนยกระดับจากการพัฒนายางรถยนต์และธุรกิจท่อยางรถยนต์ รวมถึงความเชี่ยวชาญในการผลิต บริดจสโตนกำลังมุ่งมั่นพัฒนาอุปกรณ์ควบคุมกระบวนการทำงานของยาง(กล้ามเนื้อเทียมจากยาง) เพื่อพัฒนารูปแบบธุรกิจใหม่ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งอุปกรณ์ควบคุมกระบวนการทำงานของยางของบริดจสโตนมีคุณสมบัติยืดหยุ่น ทนทานต่อแรงกระแทก น้ำหนักเบา และประสิทธิภาพสูง
บริดจสโตนจึงใช้คุณสมบัติเฉพาะดังที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ช่วยแก้ไขปัญหาและตอบโจทย์ให้สังคมและลูกค้า เช่น การขาดแคลนแรงงานและการหลีกเลี่ยงการสัมผัสในการทำงานผ่านการใช้ระบบอัตโนมัติด้วยแขนและมือของหุ่นยนต์นิ่มแทน
เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565 บริดจสโตนร่วมกับผู้ค้าส่งของใช้ในชีวิตประจำวันและสินค้าต่างๆ ผู้ผลิตหุ่นยนต์ และพันธมิตรทางธุรกิจอื่นๆ ทดสอบความเป็นไปได้จากการใช้มือจับของหุ่นยนต์นิ่มซึ่งถูกติดตั้งด้วยอุปกรณ์ควบคุมกระบวนการทำงานของยางของบริดจสโตนเพื่อใช้ในกระบวนการหยิบจับสินค้าแบบอัตโนมัติในคลังสินค้าของศูนย์โลจิสติกส์
นับเป็นเรื่องที่ยากสำหรับหุ่นยนต์ธรรมดาเพียงตัวเดียวในการหยิบจับวัตถุ ที่มีรูปร่าง ความแข็งแรง และน้ำหนักที่แตกต่างกันไป เช่น หลอด ขวด และกระเป๋า
ดังนั้นการหยิบจับชิ้นส่วนอัตโนมัติโดยใช้หุ่นยนต์จึงเป็นปัญหาที่ต้องใช้ความพยายามในการจัดการ แขนของหุ่นยนต์นิ่มเพียงหนึ่งข้างที่ยึดติดกับอุปกรณ์ควบคุมกระบวนการทำงานของยางของบริดจสโตน สามารถจับวัสดุได้อย่างกระชับมั่นคง โดยบริษัทฯ จะเดินหน้าทดสอบความเป็นไปได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อนำแขนหุ่นยนต์นิ่มไปใช้ในการหยิบจับอุปกรณ์ในศูนย์โลจิสติกส์อย่างเป็นรูปธรรม
โนริคาซุ โอะโทะยะมะ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์เตรียมความพร้อมด้านธุรกิจหุ่นยนต์นิ่มของบริดจสโตน กล่าวถึงการเริ่มต้นทดสอบความเป็นไปได้ว่า
“การสร้างสรรค์ร่วมกันเป็นพื้นฐานในธุรกิจใหม่ของบริดจสโตน ซึ่งเชื่อว่าการได้รับความเข้าใจจากพันธมิตรทางธุรกิจในการสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ๆ ต่อสังคมและลูกค้ารวมถึงทดสอบความเป็นไปได้ในพื้นที่ของพันธมิตรทางธุรกิจจะช่วยให้บริดจสโตนก้าวไปอีกขั้นของการดำเนินธุรกิจหุ่นยนต์นิ่ม จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลต่ออัตราการเกิดที่ต่ำลงกลุ่มประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้นและความต้องการหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้คนทำให้เกิดความต้องการนำระบบทำงานอัตโนมัติมาใช้ในพื้นที่ทำงานและมุ่งความสนใจไปที่หุ่นยนต์นิ่มที่สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ โดยตลอดธุรกิจยางรถยนต์บริดจสโตนได้สนับสนุนการเดินทางของผู้คนและการขนส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทาง และด้วยโมเดลธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นเราหวังว่าจะช่วยสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ๆ ไปพร้อมกับพันธมิตรที่หลากหลายผ่านธุรกิจหุ่นยนต์นิ่มในอนาคตได้”
บริดจสโตนมีจุดยืนทางการตลาดในธุรกิจรีไซเคิล ธุรกิจหุ่นยนต์นิ่ม และธุรกิจต้นวายูเล่ ซึ่งถือเป็นธุรกิจใหม่ของบริดจสโตนรวมถึงได้บุกเบิกเทคโนโลยีและโมเดลธุรกิจในด้านใหม่ๆ โดยยกระดับความสามารถหลักขององค์กรเพื่อตอบโจทย์การเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืนในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มองหาผู้ประกอบการผ่านภารกิจต่างๆ โดยธุรกิจใหม่เหล่านี้เป็นพื้นที่ในการนำทักษะความสามารถและจิตวิญญาณผู้ประกอบการเข้ามาขับเคลื่อนในการทำงาน เช่นเดียวกับธุรกิจหุ่นยนต์นิ่มที่ได้นำทักษะความสามารถมาใช้ในการเริ่มต้นจากศูนย์ และผลักดันขอบเขตโครงการให้หลุดจากกรอบการทำงานแบบเดิมด้วยโครงการลงทุนภายในเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการดำเนินธุรกิจหุ่นยนต์นิ่ม ทั้งนี้บริดจสโตนจะเดินหน้าพัฒนาธุรกิจใหม่โดยสร้างโอกาสจากศักยภาพหลากหลายสู่การเติบโตที่เป็นเลิศ
สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับหุ่นยนต์นิ่มของบริดจสโตนเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bridgestone.com/technology_innovation/rubber_actuator/
บริดจสโตน)” เพื่อช่วยให้บรรลุวิสัยทัศน์: “สู่ปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) บริดจสโตนยังคงส่งมอบคุณค่า ให้สังคมและลูกค้าในฐานะองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน” ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการบริหารควบคู่ไปกับการสร้างความไว้วางใจและน่าเชื่อถือให้กับคนรุ่นต่อไปในอนาคต
“Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)” ประกอบด้วยคุณค่า 8 ด้านของ บริดจสโตนที่เริ่มต้นด้วยตัวอักษร “E” (ด้าน Energy (พลังงาน), ด้านEcology (สิ่งแวดล้อม), ด้าน Efficiency (ประสิทธิภาพ), ด้าน Extension (การเติบโต), ด้าน Economy (เศรษฐกิจ),ด้าน Emotion (ความรู้สึก), ด้าน Ease (ความสะดวกสบาย)
และด้าน Empowerment (พลังทางสังคม) ซึ่งกลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนจะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผ่านเจตจำนงและ กระบวนการทำงานร่วมกับพนักงาน สังคม พันธมิตร และลูกค้า เพื่อสังคมที่ยั่งยืน
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bridgestone.com/corporate/news/2022030101.html