วันที่ 11 เดือน 11 หรือที่เรียกกันว่า วันคนโสด นั้น เดิมทีเป็นคำล้อเลียนตนเองของหนุ่มสาวในเมือง ที่ออฟฟิสของอาลีบาบา ในวันหนึ่งแจ๊ค หม่าได้ยินพนักงานอายุน้อยสองคนคุยกัน คนหนึ่งถามว่าวันคนโสดจะทำอะไร อีกคนตอบประชดตัวเองว่า ต้องกินอยู่คนเดียวเพราะเป็นคนโสด แต่ก็อยากให้รางวัลตัวเองบ้าง ด้วยการไปกินไปเที่ยวให้หนำใจ
แจ๊คฟังแล้วเห็นถึงโอกาสที่อยู่เบื้องหน้าจากการฟังคำประชดประชันเหล่านี้ การให้รางวัลกับตัวเองก็หมายถึงการต้องบริโภค การใช้จ่ายของคู่รักนั้นเป็นสิ่งที่สิ้นเปลืองมานานแสนนานแล้ว ไม่งั้นจะมีเทศกาลวันวาเลนไทน์ของฝรั่ง หรือ เทศกาลวันแห่งความรักของจีนไปเพื่ออะไร มันเกิดมาเพื่อให้จับจ่ายซื้อของนั่นเอง
แต่แจ๊คคิดสิ่งที่ตรงกันข้าม โดยจะไม่ขายให้เหล่าคู่รักที่มีเทศกาลอยู่มากพอแล้ว แต่จะทำการขายให้กับคนโสด ซึ่งเป็นไอเดียที่แจ๊คคิดว่ามีความเป็นไปได้ และได้เริ่มลองปรึกษากับคณะที่ปรึกษาของเขาในบริษัทอาลีบาบา
มีทั้งผู้ที่สนับสนุนไอเดียนี้ของแจ๊ค และมีอีกส่วนหนึ่งที่คัดค้าน สุดท้ายทีมงานของ อาลีบาบา ก็จึงได้จัดการทดลอง โดยเริ่มในวันที่ 11/11 ปี 2009 แม้ตอนนั้นจะมีพ่อค้าแม่ค้าเพียง 27 รายที่ร่วมกิจกรรม แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ มีการซื้อขายสินค้าในวันนั้นไปกว่า 50,000 รายการในวันเดียว ซึ่งทีมงานทุกคนจึงรู้สึกว่าวันนี้น่าจะเป็นวันที่มีศักยภาพ ที่จะจัดให้เป็นเทศกาลช็อปปิ้งใหญ่ได้ และในที่สุด เทศกาลช็อปปิ้ง วันคนโสด จึงได้ถูกใช้อย่างเป็นทางการในเว๊บไซต์ taobao เป็นที่แรก
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่แนวคิดเพียงชั่ววูบของแจ๊คเท่านั้นที่มาสนับสนุนเทศกาลใหญ่อย่างเช่นวันคนโสด จากการวิจัยทางด้านจิตวิทยาการบริโภคนั้นพบว่า เมื่อคนเรามีปัญหาทางอารมณ์ระดับหนึ่ง เช่นรู้สึกโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาเป็นต้น มักมีแนวโน้มจะซื้อของที่ตนเองไม่ได้ต้องการเพื่อชดเชย
ซึ่งผู้ซื้อที่ตกอยู่ภายใต้จิตวิทยาการบริโภคเช่นนี้นั้นย่อมถูกชักจูงได้ง่าย ซึ่งการจัดเทศกาลช็อปปิ้ง วันคนโสดของ taobao นั้น ได้เสนอ Deal ที่ดีที่สุดในการซื้อให้แก่ผู้บริโภค และผู้บริโภคเองก็ทำตัวสอดรับกับแนวคิดของแจ๊คอย่างพอดิบพอดี
ซึ่งหลังจากการจัดครั้งแรกในปี 2009 นั้นสำเร็จลงด้วยดี แจ๊คจึงได้จัดเป็นเทศกาลใหญ่ขึ้นในปี 2010 และ 2011 ยอดขายก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึง 35,000 ล้านหยวน ในปี 2013
ซึ่งจากการรายงานของ Sina.com พบว่า Single Day ปี 2018 ซึ่งจัดขึ้นภายในเวลา 24 ชั่วโมงของวันที่ 11 พฤศจิกายนสามารถทำรายได้รวมสูงถึง 213,500 ล้านหยวน หรือ 30,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมากกว่าสถิติปี 2017 ถึง 45,300 ล้านหยวน (ยอดซื้อ-ขายสูงสุดในปี 2017 อยู่ที่ 168,200 ล้านหยวน หรือ 25,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
ซึ่งเรียกได้ว่ามันเป็นความสำเร็จที่สำคัญจาก ไอเดียเล็ก ๆ ของแจ๊ค หม่า ที่ทำให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทของเขาได้มากมายเพียงนี้ โดยตัวเลขการซื้อ-ขายที่ในช่วง Single Day 11-11 หรือ Double 11 Shopping Festival ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตและความแพร่หลายของ Ecommerce ในสังคมจีน คนจีนยุคใหม่ช๊อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น
และไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อ อาลีบาบาของแจ๊ค หม่าเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยรวมต่อ ecosystem ทั้งหมดของอีคอมเมิร์ซในจีน แจ๊คทำให้ตลาด E-Commerce ในประเทศจีนใหญ่ขึ้น ทำให้ทุกคนได้รับส่วนแบ่งจากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ ซึ่งเขาไม่ได้แคร์ว่าประโยชน์ก็จะตกไปที่คู่แข่งของเขาด้วยก็ตามที
และเทศกาลชอปปิ้งวันคนโสด มันเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญแห่งการเปลี่ยนโฉมหน้าของเศรษฐกิจจีน และจะเป็นศึกใหญ่ระหว่างเศรษฐกิจใหม่ โมเดลการทำธุรกิจแบบใหม่ กับ รูปแบบธุรกิจแบบเดิม ๆ ซึ่งมันส่งผลให้พ่อค้าแม่ขายที่ใช้ แพลตฟอร์มของอาลีบาบานั้นได้รู้ว่า ตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว และรูปแบบของการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซมันจะเปลี่ยนไปตลอดกาล
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA
Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ
Geek Forever’s Podcast
“Open Your World With Technology“
AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning
Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ