Book Review : ความสำเร็จดีใจได้วันเดียว

ถือเป็นอีกหนึ่งหนังสือที่คุณค่ามาก ๆ สำหรับนักอ่านโดยเฉพาะเหล่านักธุรกิจรุ่นใหม่ทั้งหลาย ที่กำลังสร้างธุรกิจใหม่ ๆ เพราะหนังสือเล่มนี้เป็นงานเขียนที่บันทึกเรื่องราวชีวิตของท่านเจ้าสัว ธนินท์ แห่งเครือ CP ที่เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งของไทย

หนังสือที่เป็นแรงบันดาลในให้กับคนรุ่นใหม่ ที่ถ่ายทอดผ่านประสบการณ์ ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานเลยทีเดียวของท่านเจ้าสัวธนินท์ ตั้งแต่ยุคบุกเบิกธุรกิจ การรุกเข้าไปในตลาดต่างประเทศ รวมถึงการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เพียงแค่ธุรกิจด้านเกษตรกรรม ตัวอย่างเช่น Trure เครือข่ายมือถือยักษ์ใหญ่ของไทยในปัจจุบัน

หนังสือเล่มนี้ให้ข้อคิดในหลาย ๆ เรื่องทั้งเรื่อง การบริหารคน การบริหารธุรกิจ การต้องต่อสู้กับวิกฤติเศรษฐกิจ รวมถึงการขยายกิจการไปยังประเทศที่เนื้อหอมสุด ๆ ในปัจจุบันอย่างประเทศจีน ซึ่งเจ้าสัว ธนินท์ เป็นผู้บุกเบิกยุคแรก ๆ ของการเข้าไปลงทุนในประเทศจีนเลยก็ว่าได้

แน่นอนว่าในปัจจุบันนั้น เราจะเห็นว่าเครือ CP แทบจะกินรวบตลาดแทบจะทุกอย่างในประเทศเรา โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินที่ทำตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ และส่งตรงสู่ผู้บริโภคผ่านธุรกิจ Retail ที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทยอย่าง เซเว่น อีเลฟเว่น

แต่ต้องบอกว่า ท่าน เจ้าสัว ก็ได้สร้างหลาย ๆ อย่างให้กับคนไทย ทั้งสร้างงาน สร้างที่ทำกิน คอยอุดหนุนช่วยเหลือต่าง ๆ มานับสารพัด ซึ่งเราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ การที่เราสามารถบริโภคอาหารสัตว์ที่ราคาไม่แพงเกินไปนักนั้นก็มาจากการริเริ่มของท่านเจ้าสัว ธนินท์แทบจะทั้งสิ้น ซึ่งต้องบอกว่าท่านได้วางแนวคิดในเรื่องของการเลี้ยงสัตว์ให้ยกระดับคุณภาพชีวิตของทั้งเกษตรกร รวมถึง ผู้บริโภคเองที่ได้รับอาหารดี ๆ ในราคาไม่แพงเกินไปนักผ่าน ธุรกิจของท่านแทบจะทั้งสิ้น

และสิ่งที่สำคัญที่ได้เรียนรู้คือ การเลือกใช้คน ที่เหมาะสม การเลือกคนเก่ง มาช่วยขยายธุรกิจของท่านได้อย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมาก ๆ แม้หลาย ๆ ธุรกิจ ตัวอย่างเช่น เซเว่นอีเลฟเว่น เองที่เจ้าของเฟรนไชน์ ยังมั่นใจว่าไปไม่รอดในไทยแน่ ๆ ด้วยข้อมูลพื้นฐานของเศรษฐกิจไทย อย่างรายได้เฉลี่ยประชากร ที่ต่ำ ที่ดูเหมือนฝรั่งจะมองอยู่มุมเดียว แต่ทางเจ้าสัวก็ได้คิดพลิกฟื้นวิธีการให้สุดท้าย ธุรกิจที่ถูกฝรั่งสบประหม่าว่าเจ๊งแน่ ๆ อย่าง เซเว่นอีเลฟเว่น กลายมาเป็นธุรกิจหลักที่สำคัญ สร้างรายได้ให้กับเครือ CP มากมายอย่างที่เราได้เห็นในปัจจุบัน

แต่มันมียังมีมุมต่างที่เห็นได้จากหนังสือเล่มนี้ที่ความเห็นส่วนตัวนั้น บางทีสิ่งที่เจ้าสัวทำนั้นอาจจะไม่ประสบความสำเร็จไปทุกเรื่องเลยเสียทีเดียว แม้ตัวเจ้าสัวเองต้องการให้ ประชาชนกินดีอยู่ดี ธุรกิจมั่งคง อย่างที่กล่าวไว้ในหนังสือเล่มนี้

แต่จากสภาพปัญหาในปัจจุบัน เราจะเห็นได้ถึงเหล่าเกษตรกร ก็ยังไม่สามารถลืมตา อ้าปากได้เหมือนอย่างที่ท่านกล่าวไว้ในหนังสือเล่มนี้ ถึงจะมีจริง มันก็เพียงส่วนน้อยเท่านั้น ประเทศเรายังติดหล่มกับปัญหาเดิม ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินค้าทางการเกษตร ที่รัฐบาลต้องส่งเงินไปอุดหนุนในทุก ๆ รัฐบาล ซึ่งเป็นภาระมหาศาลต่องบประมาณการเงินของประเทศในแทบจะทุก ๆ ปี แทนที่จะเอาไปพัฒนาประเทศในด้านอื่น ๆ

และทฤษฏีบางอย่างที่ท่านได้กล่าวไว้ในหนังสือ อย่าง สองสูง ที่รู้จักกันดีนั้น ดูเหมือนว่าการขึ้นค่าแรง หรือ เงินเดือนที่รัฐบาลเคยทำไว้ ให้สูงขึ้นนั้น ก็ยังไม่สามารถที่จะเอาชนะอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น เพราะ เมื่อรายได้สูง รายจ่ายก็สูงขึ้นอย่างชัดเจน เพราะราคาสินค้าต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นมานั่นเอง มันก็ไม่ได้ทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นแต่อย่างใด เราน่าจะเห็นภาพนี้กันหลายรอบแล้ว เมื่อใดที่ขึ้นค่าแรง ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ สิ่งที่ตามมาก็คือ ภาระค่าใช้จ่ายของเราก็จะเพิ่มขึ้นทันทีเป็นเงาตามตัวเช่นเดียวกันนั่นเอง

แต่ผมชอบแนวคิดการทำธุรกิจแบบเจ้าสัวในการสร้างธุรกิจหลาย ๆ อย่างและทำตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ซึ่งมีลักษณะคล้าย ๆ รูปแบบเดียวกับ ประเทศ ญี่ปุ่น (ไซบัตสึ) หรือ เกาหลีใต้ ที่เรียกว่า แชบอล ที่ให้บริษัทยักษ์ใหญ่นั้นไปลุยตลาดโลกเพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องมีบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้เยอะมากมายเหมือนที่เกาหลีทำสำเร็จมา จะเห็นได้ว่าประเทศเค้ามีบริษัทยักษ์ใหญ่เพียงไม่กี่แห่งตัวอย่างเช่น Samsung , LG หรือ Daewoo แต่บริษัทพวกนี้ทำธุรกิจแทบจะทุกอย่าง และสร้างรายได้มหาศาล รวมถึงสามารถจ้างงานคนในประเทศด้วยอัตราเงินเดือนที่สูงนั่นได้

ซึ่งในไทยก็น่าจะเลียนแบบบ้าง โดยให้บริษัทเหล่านี้เติบโตและไปหากินกับต่างประเทศ ควรจะบุกตลาดโลก ส่วนคนในประเทศก็ช่วยผลักดันให้บริษัทเหล่านี้ไปเติบโตในระดับโลก ซึ่งสินค้าทางการเกษตรนั้นมันก็มีโอกาสเป็นไปได้อยู่แล้วเพราะดูจากธุรกิจของท่านเจ้าสัว ซึ่งใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ และเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลาสามารถต่อสู้ในตลาดโลกได้

ซึ่งแนวคิดแบบนี้ก็มีโอกาสที่จะทำให้ไทยก้าวพ้นกับดักของการเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาได้เสียที เพราะเมื่อก่อนเกาหลี หรือ ไต้หวันนั้น ก็แทบจะมีสภาพไม่ต่างจากไทย แต่พวกเขาเจริญรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วมากอย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้ และใช้เวลาในการพัฒนาประเทศเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น

ต้องบอกว่า ความสำเร็จดีใจได้วันเดียว นั้น เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องราวความสำเร็จของตัวท่านเจ้าสัวที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม แน่นอนว่าท่านได้ผ่านประสบการณ์เหล่านี้มามากมาย เป็นข้อคิดบทเรียนที่สำคัญให้กับเหล่านักธุรกิจยุคหลัง ได้ศึกษาเรียนรู้ผ่านหนังสือเล่มนี้ได้อย่างดีเยี่ยม และความหมายของ ความสำเร็จดีใจได้วันเดียวนั้น คือ เราไม่ควรคิดว่าเราเก่งแล้ว สำเร็จแล้ว และหยุดการพัฒนา เพราะโลกกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มีธุรกิจเกิดใหม่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และพร้อมจะมา Disrupt ธุรกิจของเราได้อยู่เสมอ เพราะฉะนั้น ความสำเร็จที่ได้มาครั้งนึงนั้น ก็ไม่ควรดีใจกับมันนาน ควรจะพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นอยู่ตลอดเวลาเหมือนที่ท่านเจ้าสัวได้กล่าวไว้ในหนังสือเล่มนี้นั่นเองครับ


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube