5 ขั้นตอนเหล่านี้สามารถช่วยปกป้องคุณจากภาวะ burnout

ในสถานการณ์โลก ณ ปัจจุบัน ภาวะ burnout นั้นดูเหมือนจะพบได้ในผู้คนทั่วไป  ซึ่งมีความน่าสนใจอย่างหนึ่งในการเพิ่มจำนวนของผู้ที่มีภาวะ burnout คือ มันเป็นโรคที่อาจจะติดต่อกันได้จริง

กล่าวอีกนัยหนึ่งคุณมีแนวโน้มที่จะทุกข์ทรมานจากภาวะ burnout หากคุณอยู่ใกล้คนอื่นที่อยู่ในภาวะ burnout เช่นเดียวกัน หรือทำงานในสถานการณ์ที่สร้างเงื่อนไขให้เกิดภาวะ burnout นั่นเอง

ลักษณะที่เป็นไปได้ของภาวะ burnout

ภาวะ burnout มีแนวโน้มที่จะเริ่มต้นด้วยความรู้สึกอ่อนเพลียทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ซึ่งในที่สุดจะส่งผลต่อความรู้สึกอับอายหรือสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของคุณ

ยิ่งไปกว่านั้นมันยังสามารถพัฒนาไปสู่การดูถูกเหยียดหยาม เมื่อคุณรู้สึกว่าถูกปฏิเสธในเรื่องความสามารถของคุณอยู่บ่อย ๆ และยิ่งทำให้ขาดแรงจูงใจในการแก้ปัญหาเพื่อที่จะก้าวต่อไป 

งานวิจัยใหม่จาก  City College of New York ยังพบว่าภาวะ burnout นั้นสอดคล้องกับภาวะซึมเศร้าอย่างมีนัยสำคัญในแง่ของอาการและผลกระทบ จากการศึกษาคน 1,386 คนพบว่า 86% มีความรู้สึกทับซ้อนกันระหว่างภาวะ burnout และภาวะซึมเศร้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความเครียดเกิดจากเหตุการณ์ในชีวิต ความท้าทายในงาน หรือการขาดการสนับสนุนในที่ทำงาน

และ ภาวะ burnout ไม่ใช่แค่ประสบการณ์ส่วนบุคคล จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตทพบว่า ภาวะ burnout นั้นอาจเป็นสิ่งที่คุณได้รับจากผู้อื่น 

นักวิจัยพบว่าภาวะ burnout นั้นแพร่กระจายไปในหมู่เพื่อนร่วมงานที่ใกล้ชิดและเมื่อผู้คนทำงานในวัฒนธรรมที่อาจทำให้เกิดภาวะ burnout 

ต้นทุนที่สูงมากเมื่อเราต้องเจอกับภาวะ burnout

สำหรับบุคคลทั่วไป ภาวะ burnout อาจจะส่งผลต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ หรือแม้กระทั่งทำให้เกิดความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันและอาการนอนไม่หลับ

นอกจากนี้ American Institute of Stress พบว่าภาวะ burnout ที่ทำให้พนักงานต้องขาดงาน หรือลาออก ซึ่งส่งผลต่อการผลิตที่ลดลงและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ( เช่น ค่าใช้จ่ายด้านกฎหมาย การแพทย์ การประกันภัย) ทำให้อุตสาหกรรมต่างๆ ของสหรัฐฯ มีค่าใช้จ่าย 300,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีกับเรื่องดังกล่าว

Burnout เป็นที่แพร่หลาย ดังนั้นนักวิจัยได้สร้างอุปกรณ์ที่สวมใส่ที่ออกแบบมาเพื่อตรวจสอบภาวะดังกล่าวได้ อุปกรณ์ตรวจจับระดับคอร์ติซอลในเลือด คอร์ติซอลเป็นสารเคมีที่ร่างกายปล่อยออกมาเมื่อเราอยู่ภายใต้สภาวะความเครียด ความกดดัน หรือความท้าทาย ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยประเมินความเครียด (และภาวะ burnout ที่ตามมา) เพื่อจัดการกับผลร้ายของมัน

วิธีการต่อสู้กับภาวะ burnout

คุณยังสามารถหลีกเลี่ยงภาวะ burnout โดยมุ่งเน้นไปที่ลักษณะส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตที่มากขึ้น งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Current Psychology พบว่ามีวิธีสำคัญในการจัดการกับภาวะ burnout ดังนี้

  • มุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหา แทนที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาให้หาวิธีจัดการกับปัญหาเหล่านี้ หากคุณมีความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานให้นั่งลงกับพวกเขา และพูดคุยกันในประเด็นต่างๆ หากคุณคิดมากกับงานในที่ทำงานควรแจ้งให้หัวหน้าของคุณทราบ และขอความช่วยเหลือ พยายามต่อสู้กับปัญหามากกว่าการหลีกเลี่ยงปัญหา
  • จงเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง แน่นอนว่าคุณไม่สมบูรณ์แบบ แต่การมีความมั่นใจในความสามารถของคุณจะก้าวไปสู่ความสำเร็จได้อีกยาวไกล ภาวะ burnout นั้นเป็นลักษณะของความอับอายหรือการตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพการทำงานของคุณ เตือนตัวเองถึงสิ่งที่คุณทำสำเร็จแล้ว ลิสต์รายการที่เกี่ยวข้องกับทักษะและพรสวรรค์ของคุณ มุ่งเน้นไปที่สิ่งที่คุณต้องการเรียนรู้ และสถานที่ที่คุณต้องการไป ระบุชั้นเรียนที่คุณต้องการเข้าเรียนหรือบุคคลที่คุณต้องการทำความรู้จักและเรียนรู้จากเขา
  • มองภาพใหญ่ เมื่อผู้คนรู้สึกเหนื่อยหน่ายหรือเกิดภาวะ burnout โลกก็มีแนวโน้มที่จะเล็กลง และการแก้ปัญหาก็ดูเหมือนไม่มีอยู่จริง มุ่งเน้นไปที่ภาพรวมของความพยายามของคุณที่เป็นภาพใหญ่ขึ้น ตัวอย่างเช่น คุณไม่เพียงแต่ดูแลลูก ๆ เท่านั้น คุณมีส่วนทำให้พวกเขามีความสุขและสมหวัง คุณไม่ได้ทำงานในแผนกบัญชีของ บริษัท เท่านั้น คุณกำลังทำให้สถานะทางการเงินขององค์กรของคุณมีความมั่นคง การเน้นว่าบทบาทของคุณมีความสำคัญอย่างไรและงานของคุณก่อให้เกิดสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าได้อย่างไร สามารถลดความรู้สึกเหนื่อยหน่ายหรือความหดหู่ลงได้อย่างมาก
  • รักษาความสัมพันธ์ของคุณ คนที่อยู่ในภาวะ burnout มักจะรู้สึกว่าขาดการเชื่อมต่อกับผู้อื่น ให้พยายามรักษาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด: ติดต่อกับเพื่อนและเพื่อนร่วมงานและใช้เวลากับพวกเขาให้มากขึ้น ซึ่งขั้นตอนนี้มัน work ด้วยเหตุผลสองประการ อันดับแรกผู้คนเหล่านี้สามารถสนับสนุนความคิดของคุณได้ นอกจากนี้เมื่อคุณให้ความสำคัญกับผู้อื่น คุณจะขยายมุมมองของคุณออกไปจากตัวเองและสิ่งนี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลให้เกิดความรู้สึกในแง่บวก เตือนตัวเองว่าคุณสามารถเสนออะไรให้กับคนอื่นได้มากเพียงใด ซึ่งมันดีกว่าการที่ต้องจมกับปัญหาอยู่คนเดียวอย่างแน่นอน
  • มองไปข้างหน้า ปล่อยให้ตัวเองมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและอย่าคาดหวังความสมบูรณ์แบบ รักษาอารมณ์ขัน และเตือนตัวเองว่าคุณกำลังเรียนรู้อยู่เสมอ และคุณไม่มีวันทำทุกสิ่งได้ถูกต้องเสมอไป วันนี้คุณอาจจะรู้สึกแย่ แต่คุณสามารถลุกขึ้นและก้าวต่อไปด้วยการมองโลกในแง่ดีได้ในวันข้างหน้า

ต้องบอกว่าภาวะ burnout นั้นมันไม่ได้อยู่กับเราทั้งชีวิต และสามารถที่จะจัดการได้ แม้ว่าภาวะดังกล่าวจะทำให้คุณรู้สึกเบื่อหน่ายกับมัน แต่คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่อนาคตและหาทางก้าวผ่านไปสู่ความสุขและความสมหวังได้นั่นเองครับผม

References : https://www.workdesign.com/2018/05/burned-out-or-fired-up-how-to-create-the-right-kind-of-spark/
https://www.fastcompany.com/90628736/turn-to-these-steps-to-protect-yourself-from-catching-burnout
https://www.stress.org/workplace-stress
https://www.fastcompany.com/90541715/burnout-can-creep-into-your-work-routine-unnoticed-heres-how-to-fight-it-effectively


 


ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA



Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ



Geek Forever’s Podcast


“Open Your World With Technology


AI , Blockchain และเทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจ ทั้ง แวดวงการเงิน สุขภาพ หรือ งานด้านบริการต่าง ๆ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับ AI หรือ Machine Learning

Podcast ของผมจะเล่าเรื่องราวต่าง รวมถึงเรื่องที่ผมสนใจอื่น ๆ เช่น startup หนังสือ หนัง หรือ กีฬาฟุตบอล อยากชวนคนที่สนใจให้ลองมาติดตาม podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน podbean
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Apple Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Google Podcasts
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Spotify
ฟังผ่าน Youtube
ฟังผ่าน Youtube