Geek Story EP379 : ทำไม Chagee ถึงขายดีกว่า Starbucks ในจีน? เด็กชาวบ้านที่พิชิต Wall Street ด้วยสูตรชาโบราณ 

เรื่องราวนี้เริ่มต้นในปี 2010 ที่เมือง Kunming มณฑล Yunnan ประเทศจีน เมื่อเด็กหนุ่มวัย 17 ปีชื่อ Zhang Junjie เริ่มต้นชีวิตการทำงานครั้งแรกที่ร้านชานมไต้หวัน เขาไม่มีสักแต่งการศึกษาระดับสูง ไม่มีครอบครวร่ำรวย ไม่มีคนรู้จัก มีแค่คู่มือความกระตือรือร้นและความมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้ทุกสิ่ง

ในวันแรกๆ งานของเขาก็เรียบง่าย ชงชา เติมน้ำแข็ง ใส่ไข่มุก ล้างจาน ถูพื้น และเก็บโต๊ะ แต่ Zhang ไม่เคยมองงานเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อย เขาสนใจทุกขั้นตอน เรียนรู้สูตรชา เข้าใจรสชาติที่ลูกค้าชื่นชอบ และศึกษาวิธีการทำให้เครื่องดื่มแต่ละแก้วออกมาอร่อยเหมือนกันทุกครั้ง

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify :
https://tinyurl.com/y6k89mxw

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/mves6k6t

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://tinyurl.com/mpej9cyd

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/oUDu-5ezHJg

Google พ่อ (AI) ทุกสถาบัน การปฏิวัติเงียบที่จะเปลี่ยนโลกของคุณตั้งแต่วันนี้

เมื่อก่อนเราอาจจะต้องต่อสู้กับการค้นหาข้อมูลใน Google ต้องเลื่อนหน้าจอเป็นชั่วโมง ถึงจะได้คำตอบที่ต้องการ แต่ต้องบอกว่าในทุกวันนี้ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนทุกสิ่งแล้ว

งาน Google I/O 2025 ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า AI ไม่ใช่แค่เรื่องราวในอนาคตอีกต่อไป แต่มันคือปัจจุบันที่กำลังหลอมรวมเข้ากับชีวิตประจำวันของเราอย่างชัดเจน

การประกาศแต่ละอย่างในงานนี้ล้วนมี AI เป็นหัวใจสำคัญ Google จัดเต็มแสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องการให้ AI มาเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ในชีวิตประจำวันแบบไร้รอยต่อ

Gemini คือพระเอกตัวจริง

Gemini โมเดล AI หลักของ Google ได้รับการอัปเกรดใหม่จนเทพมาก ๆ Gemini 2.5 Pro และ Gemini 2.5 Flash คือมาพร้อมกับความฉลาดสุด ๆ

เพราะตอนนี้มันไม่ใช่แค่ฉลาดขึ้น แต่ยังเข้าใจและประมวลผลข้อมูลหลายรูปแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ เสียง หรือวิดีโอ ประสิทธิภาพโดยรวมก็พุ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ลองนึกภาพถึงการใช้งานผลิตภัณฑ์ AI ทั้งหมดของ Google ที่จะมีความเทพมากขึ้น ตั้งแต่การแก้ปัญหาที่ซับซ้อนไปจนถึงการตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำ

Gemini Live กับ Agent Mode: ผู้ช่วยที่เจ๋งสุดๆ

Gemini Live สามารถ “เห็น” สิ่งที่เราเห็นผ่านกล้องและหน้าจอ โต้ตอบในการสนทนาที่เป็นธรรมชาติเหมือนคุยกับเพื่อนสนิท

Agent Mode อีกหนึ่งความเจ๋งที่ทำให้ Gemini เป็นผู้ช่วยส่วนตัวตัวจริง ช่วยค้นคว้าข้อมูลและจัดการงานให้แบบเสร็จสรรพ

สมาร์ทโฟนของเราจะกลายเป็นผู้ช่วยที่เข้าใจความต้องการอย่างลึกซึ้ง ให้ความช่วยเหลือแบบเรียลไทม์โดยอิงจากสิ่งรอบตัว

เพราะฉะนั้นในอนาคตมนุษย์เราทุกคนต้องมีการปรับตัวและเติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยี ซึ่ง Google เองให้ความสำคัญกับการพัฒนา AI ที่เข้าใจความต้องการของมนุษย์

การค้นหารูปแบบใหม่

Google Search ที่เราใช้มากว่า 20 ปี กำลังได้รับการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ AI Mode ใน Google Search เปิดตัวให้ผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาแล้ว

แทนที่จะเสียเวลาเลื่อนหน้าจอแบบเดิมๆ เราจะได้รับคำตอบโดยตรงที่สร้างโดย AI ระบบแยกแยะคำค้นหาที่ซับซ้อน ประมวลผลในหลากหลายแง่มุม และตรวจสอบความถูกต้องด้วยตัวเอง

ที่เจ๋งก็คือ AI Mode ยังใช้บริบทส่วนตัวจาก Gmail เพื่อให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจง ค้นหาเชิงลึกโดยค้นหาหลายเว็บไซต์พร้อมกัน

ผลการค้นหาจะเข้ากับเรามากขึ้น คาดการณ์ความต้องการและหาข้อมูลเชิงลึกที่ก่อนหน้านี้เราต้องฝ่าฝันค้นคว้าด้วยเองนานเป็นชั่วโมง

Generative AI ที่ทำให้ทุกคนเป็นศิลปิน

Veo 3 สำหรับสร้างวิดีโอ และ Imagen 4 สำหรับสร้างภาพ คือการอัปเกรดที่โหดมาก ๆ เรียกได้ว่าใครได้เห็นในวีดีโอจะเห็นความสมจริงที่มันเป๊ะมาก ๆ ทั้งการควบคุมฟิสิกส์ในฉาก เอฟเฟกต์เสียงประกอบ และการจัดตัวอักษรที่เป็นธรรมชาติ

ไม่ว่าจะเป็นผู้สร้างหนังหน้าใหม่หรือธุรกิจขนาดเล็ก การสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่มีความเหลื่อมล้ำทางเครื่องมือกันอีกต่อไป ใช้สมอง creative กันให้เต็มที่ได้เลย

Flow รวม Veo 3 และ Imagen 4 เข้าด้วยกัน สร้างความสอดคล้องของตัวละครและฉาก เพิ่มเพลงผ่าน Lyria 2 ชุดเครื่องมือเหล่านี้ทำให้กระบวนการสร้างสรรค์ง่ายขึ้นมาก

Project Astra: ผู้ช่วยที่เข้าใจโลกรอบตัว

วิสัยทัศน์ของ Google สำหรับผู้ช่วย AI ที่เข้าใจและมีปฏิสัมพันธ์กับโลกผ่านกล้องและเสียงแบบเรียลไทม์ ลองจินตนาการ AI ที่ตอบคำถามเกี่ยวกับวัตถุในห้องได้

AI สามารถแนะนำการทำงานตามสภาพแวดล้อมต่าง ๆ หรือเป็นเครื่องมือช่วยเหลือสำหรับผู้พิการ เพิ่มความเป็นอิสระให้คนที่มีความต้องการพิเศษ

Google Beam: การประชุมที่สมจริง

เดิมชื่อ Project Starline ใช้ AI และกล้องหลายตัวสร้างเวอร์ชัน 3D ของเราสำหรับ Video Call การประชุมจะรู้สึกเป็นส่วนตัวและเหมือนอยู่ด้วยกันจริงๆ มากขึ้น การแปลภาษาแบบเรียลไทม์พร้อมการจับคู่เสียง ช่วยลดอุปสรรคในการสื่อสารได้อย่างน่าทึ่ง

Try on Mode: ลองชุดแบบเสมือนจริง

ใช้ AI เพื่อลองสวมเสื้อผ้าเสมือนจริง ด้วยโมเดลที่เข้าใจร่างกายมนุษย์และการทิ้งตัวของผ้า ปฏิวัติการช้อปปิ้งออนไลน์โดยลดความไม่แน่นอนและการคืนสินค้า ที่เป็นปัญหาใหญ่ของวงการช้อปปิ้งมานานแสนนาน

AI สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์

Google AI Studio ช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ประเมินโมเดลและสร้างแอปด้วย Gemini API ได้อย่างรวดเร็ว เร่งการพัฒนา AI ทำให้สร้างต้นแบบแอปได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดมากมายอีกต่อไป

ML Kit GenAI APIs (Gemini Nano) เป็น API ที่ทำงานบน Android โดยตรง ให้ความเป็นส่วนตัว มีความหน่วงต่ำ และประสิทธิภาพสำหรับการสรุป การตรวจจับภาษา และการแปล

AI ใน Chrome DevTools ผสาน Gemini เข้ากับเครื่องมือนักพัฒนา ช่วยแก้บั๊กและเพิ่มประสิทธิภาพเว็บ ปรับกระบวนการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพขั้นเทพเลยก็ว่าได้

เป็นเวลานานที่ Google ถูกมองว่าเป็นผู้เล่นที่อยู่เบื้องหลังฉากในวงการ AI แต่งาน Google I/O 2025 พิสูจน์ว่าบทบาทของพวกเขาถูกประเมินค่าต่ำเกินจริงไปมาก

ในขณะที่บริษัทอื่นมุ่งเน้นแอปพลิเคชันเฉพาะทาง Google กลับฝัง AI เข้าในผลิตภัณฑ์ที่คนใช้จริงในชีวิตประจำวัน YouTube, Google Search, Chrome และ Gmail

สิ่งที่ทำให้ Google แตกต่างคือการให้ความสำคัญกับ AI ที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน ไม่ใช่แค่ผู้เชี่ยวชาญ ในขณะที่หลายบริษัทสร้างผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้ความรู้เฉพาะหรือราคาแพง

Google มุ่งทำให้ AI เป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้ การพัฒนาทั้งหมดนี้จะเปลี่ยนวิธีที่เราทำงาน สื่อสาร และสร้างสรรค์ ไปอย่างสิ้นเชิง

สำหรับพวกเราในฐานะผู้ใช้งาน สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้และปรับตัวเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันเข้าใจข้อจำกัดและความเสี่ยงของมันด้วย

การมีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับ AI จะช่วยให้เราดำเนินชีวิตในยุคใหม่นี้ได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของยุคที่ AI จะมีบทบาทสำคัญในการขีดชะตาอนาคตของมนุษยชาติเลยก็ว่าได้นั่นเองครับผม

References: [blog .google, theverge, techcrunch, wired, androidauthority]

Geek Talk EP89 : แสนล้านดอลลาร์ที่หายไปในทะเล เรื่องราวของ Forest City ความล้มเหลวครั้งยิ่งใหญ่ของมาเลเซีย

Forest City เดิมพันทุกอย่างไว้กับนักลงทุนชาวจีนที่ร่ำรวย อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างมาเลเซียและจีนได้ตัดกระแสเงินสดที่เคยเชื่อถือได้นี้ออกไป การพัฒนานี้จึงถูกบังคับให้หันไปหาคนท้องถิ่นในความพยายามอย่างสิ้นหวังที่จะหยุดยั้งการขาดทุน

แต่ปัญหาใหญ่ก็คือ คอนโดใน Forest City ขายในราคาเฉลี่ย 1.4 ล้านดอลลาร์ เทียบกับอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปใน JB ที่ขายในราคาเฉลี่ยเพียง 135,000 ดอลลาร์ คนท้องถิ่นส่วนใหญ่จึงไม่สามารถซื้อได้ Forest City จึงกลายเป็นการพัฒนาที่หรูหราเกินไปสำหรับชาวมาเลเซียทั่วไป

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/4n6aj2sh

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/y4n2jj3s

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://tinyurl.com/mrxyh5a9

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/1x6ZXihp6VA