Geek Daily EP256 : นิสสันล่ม ญี่ปุ่นสั่น จีนรุก 12 เดือนก่อนปิดฉาก ต้นแบบความล้มเหลวรถยนต์ญี่ปุ่น

ในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ Nissan หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท ผู้บริหารระดับสูงของ Nissan เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า บริษัทมีเวลาเหลือเพียง 12-14 เดือนเท่านั้นที่จะอยู่รอด หากไม่สามารถหานักลงทุนรายใหม่ได้

สถานการณ์ของ Nissan เริ่มส่อเค้าความรุนแรงเมื่อ Financial Times รายงานว่า ผู้บริหารระดับสูงอย่างน้อย 2 คนที่ไม่เปิดเผยชื่อยืนยันว่า แบรนด์กำลังมองหานักลงทุนหลักรายใหม่อย่างเร่งด่วน หนึ่งในผู้บริหารให้สัมภาษณ์ว่า “เรามีเวลาเหลือประมาณหนึ่งปีที่จะอยู่รอด” และเสริมว่าบริษัทต้องการให้ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เข้ามาช่วยสร้างกระแสเงินสด

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/44sf6zaf

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/3xvv6zfy

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://tinyurl.com/yhr5zv25

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/YvUyzZTMrqo

Geek Life EP104 : Time Poverty Syndrome กฎ 2 ชั่วโมงกับวิธีมีความสุขในยุคที่ทุกคนบ่นไม่มีเวลา

เวลาเป็นทรัพยากรล้ำค่าที่ไม่อาจประเมินค่าได้ เพราะทุกวินาทีที่ผ่านไปล้วนหล่อหลอมเป็นเรื่องราวชีวิตของเรา ในฐานะศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความสุขและการศึกษาเรื่องเวลา Cassie Holmes ได้มาแชร์ข้อมูลที่น่าสนใจผ่านเวที Ted Talks ในหัวข้อ You can be happy without changing your life

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Life’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/5dabxpay

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/yc2eyjxm

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/LqrHRl9D2cA

องค์กรใหญ่ VS ไอเดียใหม่ : ความลับของ Intrapreneur กับบทเรียนการสร้างธุรกิจในองค์กรขนาดใหญ่

การก้าวเข้าสู่เส้นทางการเป็นผู้ประกอบการภายในองค์กรหรือ Intrapreneur นั้นมักเกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดคิด เช่นเดียวกับประสบการณ์ของ Dave Raggio ในช่วงสองปีที่ผ่านมา

เป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจจากเวที Ted Talks โดย Dave Raggio ที่ได้มาแบ่งปันบทเรียนสามประการเกี่ยวกับการสร้างนวัตกรรมภายในองค์กรที่เขาเรียนรู้มาอย่างยากลำบาก

เมื่อ Raggio เริ่มต้นการทำงานที่ Intuit ในปี 2020 ในฐานะผู้ดูแลด้านการตลาดและโฆษณาสำหรับผลิตภัณฑ์อย่าง QuickBooks ไม่มีใครคาดคิดว่าบทบาทนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อเขาได้มองเห็นโอกาสในการเชื่อมต่อธุรกิจขนาดเล็กที่เป็นลูกค้าของ Intuit กับผลิตภัณฑ์และบริการเสริมที่จะช่วยผลักดันให้พวกเขาเติบโตและประสบความสำเร็จ ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าเท่านั้น แต่ยังสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับองค์กรด้วย

ความคิดนี้ฝังอยู่ในใจ Raggio แม้ว่าในตอนแรกเขาพยายามจะโฟกัสกับงานประจำที่รับผิดชอบอยู่ แต่แรงบันดาลใจนี้กลับเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเขาก็ได้ตัดสินใจรวบรวมความคิดและข้อเสนอทั้งหมดนำเสนอต่อทีมผู้บริหาร

สิ่งที่ทำให้ Raggio ประหลาดใจคือการตอบรับอย่างเปิดกว้างจากพวกเขา (ทีมผู้บริหาร) ที่พูดว่า “ไปทำเลย” นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่เต็มไปด้วยความผิดพลาดและบทเรียนมากมาย ซึ่งสุดท้ายได้หล่อหลอมให้ Raggio เข้าใจถึงแก่นแท้ของการเป็น Intrapreneur ที่ประสบความสำเร็จ

บทเรียนแรกที่สำคัญคือเรื่องของการสื่อสาร โดยเฉพาะการสื่อสารวิสัยทัศน์ตั้งแต่เริ่มต้นและทำอย่างสม่ำเสมอ ในช่วงแรก Raggio มีความฝันที่จะสร้างสตาร์ทอัพแบบลับๆ ภายใน Intuit ด้วยการรวมทีมเล็กๆ และทำงานอย่างเงียบๆ โดยจำกัดการรับรู้เฉพาะกลุ่มคนที่จำเป็นเท่านั้น

ด้วยความเชื่อที่ว่ายิ่งมีคนเข้ามาเกี่ยวข้องมาก ก็จะยิ่งมีกระบวนการและระบบราชการที่ซับซ้อน รวมถึงความคิดเห็นที่หลากหลายที่อาจทำให้การทำงานช้าลง แม้ว่าวิธีนี้จะได้ผลในระยะสั้น แต่เมื่อโครงการเริ่มเติบโตและพัฒนาเป็นธุรกิจที่จริงจัง เขากลับพบว่าต้องการการสนับสนุนจากทีมอื่นๆ อีกมาก

ปัญหาที่เกิดขึ้นคือการขาดการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงาน การสนทนาที่ยากลำบากที่สุดคือการต้องเข้าไปขอความช่วยเหลือจากคนที่มีภาระงานล้นมืออยู่แล้ว โดยที่พวกเขาไม่เคยรับรู้ถึงสิ่งที่ Raggio กำลังทำ แล้วต้องขอให้พวกเขาแบ่งเวลามาช่วยสนับสนุนโครงการ

ช่วงเวลานั้น Raggio รู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นที่ชื่นชอบนัก ความพยายามที่จะเร่งความเร็วในการทำงานกลับกลายเป็นการทำให้ทุกอย่างช้าลง เพราะทุกครั้งที่ต้องติดต่อกับทีมใหม่ เขาก็ต้องเริ่มต้นอธิบายและวาดภาพให้เห็นใหม่ทั้งหมด

จากประสบการณ์นี้ทำให้ Raggio ได้เรียนรู้ถึงคุณค่าของการสร้างความสัมพันธ์ผ่านการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งดื่มกาแฟหรือการสังสรรค์เล็กๆ น้อยๆ เขาเริ่มเข้าใจว่าการสร้างความสัมพันธ์ในระดับมนุษย์สำคัญกว่าการติดต่อเชิงธุรกิจเพียงอย่างเดียว

การชวนเพื่อนร่วมงานไปดื่มเบียร์หรือกาแฟพูดคุยกันทำให้ Raggio ได้เรียนรู้เกี่ยวกับภาระงาน ข้อจำกัดด้านทรัพยากร และสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเขา นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่ดีในการแบ่งปันวิสัยทัศน์และความตื่นเต้นของเขาเกี่ยวกับสิ่งที่สามารถทำเพื่อลูกค้าและองค์กร

การพูดคุยแบบไม่เป็นทางการช่วยสร้างความไว้วางใจและความเข้าใจระหว่างทีมได้ดีกว่าการประชุมทางการ เพราะทุกคนรู้สึกผ่อนคลายและกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมามากขึ้น

บทเรียนที่สองที่มีความสำคัญไม่แพ้กันคือการรับฟังอย่างตั้งใจและสม่ำเสมอ ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีในวงการการตลาด ทั้งการทำโฆษณา Super Bowl และแคมเปญแบรนด์ระดับโลก ทำให้ต้วของ Raggio มั่นใจว่าตัวเองเข้าใจทุกแง่มุมของการตลาดและการโฆษณาเป็นอย่างดี

ความมั่นใจนี้ทำให้เขามีภาพที่ชัดเจนในหัวว่าต้องการให้ทุกส่วนของโครงการใหม่นี้ทำงานอย่างไร เมื่อมีคนแสดงความเห็นที่แตกต่างหรือบอกว่าบางอย่างเป็นไปไม่ได้ เขามักด่วนตัดสินว่าคนเหล่านี้เป็นผู้ขัดขวางความก้าวหน้า

แต่ความจริงแล้ว มันกลับกลายเป็นว่าตัวอของ Raggio กำลังมั่นใจในตัวเองมากจนเกินไป ความรู้ของเขาเกี่ยวกับหลักการบัญชีขององค์กรและกฎหมายความเป็นส่วนตัวนั้นมีจำกัด และคนที่เขาเคยมองว่าเป็น “ผู้ขัดขวาง” แท้จริงแล้วคือผู้ที่ทุ่มเทเพื่อความสำเร็จและพยายามป้องกันไม่ให้เขาทำผิดพลาดที่อาจนำไปสู่การยุติโครงการ

การรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างไม่ได้เป็นเพียงการแสดงความเคารพต่อประสบการณ์ของผู้อื่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาความคิดของตัวเองให้รอบด้านมากขึ้น

ด้วยความช่วยเหลือของพวกเขา โครงการไม่เพียงแต่อยู่รอด แต่ยังเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง การรับฟังกลายเป็นหัวใจสำคัญของโครงการจน Raggio ได้ริเริ่ม “การประชุมด้วยคำถามโง่ๆ” ซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ไม่มีการตัดสิน ที่ทุกคนสามารถถามคำถามที่อาจจะกลัวที่จะถามในที่อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเพราะคิดว่าตัวเองควรรู้คำตอบแล้ว หรือเพราะเป็นเรื่องที่ชัดเจนสำหรับคนอื่นในองค์กร แต่ด้วยตำแหน่งหน้าที่ทำให้ไม่เคยได้สัมผัสกับเรื่องนั้นมาก่อน

การสร้างวัฒนธรรมที่เปิดกว้างต่อคำถามและการเรียนรู้ช่วยลดช่องว่างระหว่างทีมและสร้างความเข้าใจร่วมกันได้ดียิ่งขึ้น แม้ว่าบางครั้งคำถามอาจดูเหมือนเรื่องพื้นฐาน แต่การได้เข้าใจอย่างถ่องแท้จะช่วยให้การทำงานราบรื่นขึ้น

Raggio จำได้ดีถึงเหตุการณ์หนึ่งที่มีการใช้คำย่อในการประชุมมาหลายสัปดาห์ และเขาก็ไม่กล้าถามความหมายของมันตั้งแต่แรก เวลาผ่านไปจนเขารู้สึกว่าติดกับดัก ไม่กล้าที่จะถามในตอนนั้นและคิดว่าจะต้องอยู่กับความไม่รู้นี้ไปตลอด แต่ด้วยบรรยากาศของการประชุมคำถามโง่ๆ ที่ไม่มีการตัดสิน ทำให้ทุกคนกล้าที่จะถามและได้เติมเต็มความเข้าใจที่ขาดหายไป

การยอมรับในข้อจำกัดและความไม่รู้ของตัวเองเป็นก้าวแรกของการเรียนรู้และพัฒนา แม้ว่าบางครั้งอาจรู้สึกอึดอัดที่จะยอมรับ แต่การมีพื้นที่ปลอดภัยในการถามคำถามช่วยให้เราก้าวข้ามความกลัวนั้นได้

บทเรียนสุดท้ายที่ Raggio ได้เรียนรู้ และอาจเป็นบทเรียนที่สำคัญที่สุด คือเรื่องของความเสี่ยง ซึ่งอาจขัดกับความเข้าใจทั่วไป ในการเป็น Intrapreneur นั้น ระดับความเสี่ยงส่วนตัวของเราอาจไม่ได้สำคัญเท่ากับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับองค์กร

หากคุณออกไปเริ่มธุรกิจของตัวเองและล้มเหลว แม้จะไม่ใช่เรื่องดีและอาจสร้างความเครียดให้กับครอบครัวหรือมีผลกระทบทางการเงิน แต่บริษัทอย่าง Intuit ได้วางระบบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง

แต่หากการตัดสินใจของคุณส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์และแบรนด์ หรือสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีให้กับผู้ใช้ QuickBooks ผลกระทบอาจลุกลามไปในวงกว้าง กระทบต่อธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมาก

ดังนั้นคุณไม่สามารถทำงานแบบลวกๆ ได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องทำงานด้วยความกลัว เพียงแต่ต้องคิดให้รอบคอบถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจและการกระทำของคุณที่อาจส่งผลต่อองค์กรในภาพรวม

การตระหนักถึงความรับผิดชอบที่มากขึ้นในฐานะ Intrapreneur ไม่ควรเป็นตัวฉุดรั้งความคิดสร้างสรรค์ แต่ควรเป็นแรงผลักดันให้เราทำงานอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับผู้ที่มีไอเดียและความฝันที่อยากสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ จากภายในองค์กร Raggio สนับสนุนให้คุณทำงานร่วมกับระบบที่มีอยู่ เพราะองค์กรขนาดใหญ่มีทรัพยากรและศักยภาพมหาศาลที่รอการนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ จงเรียนรู้และพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ แม้ว่าบางครั้งอาจต้องชะลอความเร็วลงบ้าง หรือต้องประนีประนอมในบางเรื่องที่เราไม่อยากทำ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้จะดีขึ้นอย่างแน่นอน และนั่นคือเป้าหมายที่แท้จริงและปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ

เพราะการเป็น Intrapreneur ไม่ใช่เพียงการนำเสนอไอเดียใหม่ๆ แต่เป็นการผสมผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกับผู้อื่น และการเข้าใจระบบขององค์กรเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนนั่นเองครับผม

References :
Ask Dumb Questions, Embrace Mistakes — and Other Lessons on Innovation | Dave Raggio | TED
https://youtu.be/Nh1QvWm0BrQ?si=PZetQZGQ0B-P2K4F