Geek Daily EP255 : ราชวงศ์ Samsung กำลังสั่นคลอน? วิกฤติพี่ใหญ่แชโบล สูญมูลค่า 4 ล้านล้านบาทใน 3 เดือน

Samsung ได้ประกาศว่าบริษัทกำลังเผชิญภาวะวิกฤต แต่ Samsung ไม่ใช่แค่บริษัทธรรมดา แต่เป็นราชวงศ์ที่ส่งต่อการบริหารจากรุ่นสู่รุ่น Samsung มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเกาหลีใต้ โดยมีสัดส่วนถึง 20% ของ GDP ทั้งประเทศ มีเพียงไม่กี่บริษัทในโลกที่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจประเทศบ้านเกิดมากขนาดนี้ จนมีการเรียกเกาหลีใต้ว่าเป็น “สาธารณรัฐ Samsung”

ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ อาจรู้จัก Samsung เพียงแค่แบรนด์โทรศัพท์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แต่ในเกาหลีใต้ Samsung มีบทบาทมากกว่านั้นมาก บริษัทมีธุรกิจครอบคลุมเกือบทุกอุตสาหกรรม มีบริษัทในเครือถึง 80 แห่ง โดยมี Samsung Electronics เป็นธุรกิจหลัก แล้วมันเกิดอะไรขึ้นที่มูลค่าธุรกิจของ Samsung สูญหายไป 4 ล้านล้านบาท ภายใน 3 เดือนเพียงเท่านั้น

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/y8djtum5

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/264xzmsz

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://tinyurl.com/ybyd3h85

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/1fZo3nlOw2Y

HPE Aruba Networking หนุนโครงการนำร่อง Wi-Fi 6E 6 GHz สุดล้ำของโรงพยาบาลรามาธิบดี ส่งเสริมอนาตคแห่งการรักษาพยาบาล

Wi-Fi Alliance®, คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ร่วมกับสมาชิก Wi-Fi Alliance® ได้แก่ ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรส์ (HPE), Intel และ Meta รวมถึงได้รับทุนสนับสนุนจากองค์การการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา (USTDA) ในการดำเนินโครงการนำร่อง Wi-Fi 6 GHz ระยะ 7 เดือนเสร็จสิ้นแล้ว และเพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยี Wi-Fi ความถี่ 6 GHz ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงระบบการรักษาพยาบาลด้วยโซลูชันนวัตกรรมการเชื่อมต่อ

จากที่ผ่านมาคลื่นความถี่ที่ใช้ในประเทศไทยต่ำกว่า 500 MHz โครงการนำร่องดังกล่าวนับเป็นการทดสอบการใช้งานคลื่นความถี่ 6 GHz แบบองค์รวมที่รวบรวมทุกย่านความถี่ (สเปกตรัม 1200 MHz) ของ Wi-Fi ในสถานพยาบาล เพื่อนำไปเป็นต้นแบบต่อยอดและใช้งานต่อไปทั่วประเทศ

การเปลี่ยนแปลงการฝึกอบรมแพทย์ฝึกหัดและการบริการในระบบการรักษาพยาบาล

เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านของระบบดิจิทัลที่นำมาใช้ในการรักษาพยาบาลมีความก้าวหน้ามากขึ้น อุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ มีการเชื่อมต่อกัน และอุปกรณ์เชื่อมต่อระหว่างผู้ป่วยและเครื่องมือแพทย์ก็เชื่อมต่อกัน จึงต้องมีเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงที่เสถียรและปลอดภัย

และการนำ Wi-Fi 6 GHz มาใช้จะช่วยตอบสนองความต้องการนี้โดยการเพิ่มสเปกตรัมความถี่วิทยุและช่องสัญญาณการทำงานที่มีอยู่ให้มากขึ้น ซึ่งทำให้สถานพยาบาลสามารถบริหารจัดการอุปกรณ์ได้ดีขึ้นและมีความปลอดภัย ช่วยลดเวลาแฝง (Latency) และรองรับปริมาณงานได้สูง ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในแวดวงการแพทย์ปัจจุบัน

คลื่นความถี่ 6 GHz ถือเป็นรากฐานสำคัญของเทคโนโลยี Wi-Fi 6E และ Wi-Fi 7 ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อด้วยการให้ช่องสัญญาณที่ไม่แออัดหลายๆ ช่อง ความก้าวหน้าเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อรองรับความเร็วระดับ Gigabit และการทำงานที่ราบรื่นในสภาพแวดล้อมที่มีความหนาแน่นของข้อมูลสูง เช่น ในโรงพยาบาล เป็นต้น

รายละเอียดและวัตถุประสงค์ของโครงการนำร่อง Wi-Fi 6 GHz

โครงการนำร่อง Wi-Fi 6 GHz จัดขึ้นที่โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยโครงการประกอบด้วย:

  • การใช้งานเทคโนโลยี AR/VR – โครงการนำร่องนี้จะสาธิตการสร้างภาพกายวิภาคแบบเสมือนจริงโดยใช้จุดกระจายสัญญาณ Wi-Fi 6 GHz ของ HPE Aruba Networking และชุดแว่นของ Meta ซึ่งช่วยให้แพทย์และนักศึกษาแพทย์สามารถวิเคราะห์โครงสร้าง 3 มิติของร่างกายมนุษย์ได้อย่างละเอียด ได้แก่ โครงกระดูก กล้ามเนื้อ และระบบประสาท ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกอบรมแพทย์ฝึกหัดด้วยประสบการณ์ที่สมจริง
  • การใช้สเปกตรัมสำหรับแอปพลิเคชัน AR/VR: โครงการนี้แสดงประสบการณ์ของผู้ใช้ขณะใช้งานในย่านความถี่ต่ำกว่า 500 MHz เทียบกับย่านความถี่ 1,200 MHz แบบเต็มของสเปกตรัม 6 GHz โดยแสดงให้เห็นว่าการมีสเปกตรัมที่เพียงพอนั้นสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด
  • การใช้งานที่มีปริมาณผู้ใช้หนาแน่นและการสตรีมข้อมูล: การทดลองใช้งานจะแสดงให้เห็นประโยชน์ของสเปกตรัม 6 GHz แบบเต็มย่านความถี่ ในการรองรับการสตรีมวิดีโอความละเอียดสูง และการย้ายไฟล์พร้อมๆ กันในสภาพแวดล้อมการใช้งานที่มีข้อมูลขนาดใหญ่และผู้ใช้หนาแน่น เช่น ห้องเรียนขนาด 500 ที่นั่ง

ประโยชน์ของ Wi-Fi 6E และ Wi-Fi 7 แบบ 6 GHz ในระบบรักษาพยาบาล 

Wi-Fi 6E และ Wi-Fi 7 นำเสนอความก้าวหน้าครั้งสำคัญสำหรับสถานพยาบาล โดยช่วยให้สามารถใช้ช่องสัญญาณ 80 MHz หรือ 160 MHz ที่กว้างขึ้นได้ เพื่อปรับปรุงปริมาณงานรวมของแต่ละจุดเชื่อมต่อไร้สาย และเพิ่มอัตราการส่งข้อมูลสูงสุด

โดยคลื่นความถี่ 6 GHz ที่ขยายเพิ่มเติมนี้ ช่วยให้ใช้งานสเปกตรัมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการชนกันของสัญญาณ (Signal Collisions) และลดเวลาแฝงให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีข้อมูลและผู้ใช้หนาแน่น และมีปริมาณการใช้งานสูง เช่น โรงพยาบาลและมหาวิทยาลัย เป็นต้น

การใช้งาน Wi-Fi 6 GHz แบบเต็มย่านความถี่ รองรับเครือข่ายแบบแบ่งส่วนที่สามารถจัดลำดับความสำคัญของ
แอปพลิเคชันทางการแพทย์ที่สำคัญได้ พร้อมๆ กับการแยกการรับส่งข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกมา

ทำให้มั่นใจได้ว่าเทคโนโลยีสำหรับช่วยชีวิตผู้ป่วยนี้จะทำงานได้อย่างเสถียร และนวัตกรรมดังกล่าวจะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้ทั้งการฝึกอบรมแพทย์ฝึกหัด และแอปพลิเคชันด้านการรักษาพยาบาลอื่นๆ ด้วย ซึ่งเป็นการกำหนดมาตรฐานให้แก่โซลูชันการเชื่อมต่อในหลายภาคส่วน ทั้งองค์กรธุรกิจ ยานยนต์ และ IoT

ความสำเร็จของโครงการนำร่อง Wi-Fi 6E นี้อาจช่วยปูทางไปสู่การนำเทคโนโลยี Wi-Fi ขั้นสูงไปใช้ในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งช่วยยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของสถานพยาบาล และเพิ่มศักยภาพให้กับนวัตกรรมในอนาคตสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ

คุณสมบัติขั้นสูงเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

โรงพยาบาลรามาธิบดีได้ทำงานร่วมกับ HPE Aruba Networking มาเป็นระยะเวลาหลายปีเพื่อติดตั้งโซลูชันนวัตกรรมของ HPE ในด้านเครือข่ายองค์กรให้กับสถานพยาบาลของตน และได้เลือก HPE ให้สนับสนุนโครงการนำร่องนี้

โดย HPE Aruba Networking ได้เสนอเทคโนโลยีการกรองสัญญาณแบบ Ultra Tri-band Filtering ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้คลื่นความถี่ 6 GHz โดยลดการรบกวนให้ต่ำที่สุด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีความหนาแน่นของผู้ใช้สูง เช่น วิทยาเขตของสาขาวิชาการแพทย์ เทคโนโลยีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการเชื่อมต่อจะมีความสม่ำเสมอ และมีคุณภาพสูงสำหรับแอปพลิเคชันหลากหลายประเภท

นอกจากนี้ HPE ยังสนับสนุนองค์กรด้านการรักษาพยาบาลด้วยการผสาน IoT ที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังรองรับ Zigbee และ BLE และด้วยแดชบอร์ด IoT ที่ครอบคลุม และการรองรับระบบนิเวศ ประกอบกับข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า เหล่านี้จะช่วยปรับปรุงการจัดการเครือข่าย และลดความเสี่ยงในการดำเนินงาน ทำให้เราได้รากฐานเครือข่ายที่ปลอดภัยและวางใจได้สำหรับแอปพลิเคชันด้านการรักษาพยาบาล

ผลลัพธ์จากการนำใช้เทคโนโลยี Wi-Fi ความถี่ 6 GHz ทั่วโลก

จากการนำใช้เทคโนโลยี Wi-Fi ความถี่ 6 GHz มาใช้ สถานพยาบาลทั่วโลกสามารถใช้แนวคิดริเริ่มนี้เพื่อเป็นมาตรฐานในการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลของตนได้ การทำให้ย่านความถี่ 6 GHz แบบเต็ม (5925-7125 MHz) ใช้งานสำหรับ Wi-Fi ได้จะช่วยรองรับแอปพลิเคชันการรักษาพยาบาลใหม่ๆ พร้อมทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงขึ้นไปอีกระดับในสภาพแวดล้อมแบบต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และสำนักงานของบริษัท

โครงการนี้เป็นตัวอย่างของความพยายามร่วมกันระหว่างผู้นำในอุตสาหกรรมและสถาบันต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นตัวกำหนดอนาคตของระบบการรักษาพยาบาลและการศึกษา

โบลท์ ประเทศไทย ตอกย้ำผู้นำขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านความปลอดภัยบนท้องถนน จัดสัมมนาพร้อมมอบหมวกกันน็อคให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ ส่งเสริมการสร้างสังคมปลอดภัยอย่างยั่งยืน

โบลท์ ในประเทศไทย ยกระดับสู่การเป็นผู้นำแพลตฟอร์มด้านความปลอดภัย ประกาศความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรพันธมิตร จัดงานสัมมนาภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมการลดอุบัติเหตุ ส่งเสริมการขับขี่ปลอดภัย เพื่อสังคมที่มั่นคง” พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญด้านความปลอดภัยบนท้องถนนด้วยการมอบหมวกกันน็อคจำนวน 500 ใบแก่พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ โดยมุ่งสร้างความตระหนักรู้และช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุที่ยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย

ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทย ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกภาคส่วนควรต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างจริงจัง จากสถิติพบว่านับตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงปัจจุบัน มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากถึง 12,447 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 25/11/2567 10:00) โดยร้อยละ 83 เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และร้อยละ 17 เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล โบลท์ ในฐานะผู้ให้บริการการเรียกรถที่มีบริการหลักเกี่ยวข้องกับการใช้ท้องถนนเพื่อรับส่งผู้โดยสาร มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจและปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ จึงเกิดเป็นความร่วมมือระหว่างโบลท์กับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรพันธมิตรจัดงานสัมมนานี้ขึ้น 

งานสัมมนาได้จัดขึ้น ณ ห้องประชุมหมายเลข 501 บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัย นำเสนอแนวทางการลดอุบัติเหตุ และการรับมือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายหน่วยงานสำคัญ อาทิ คณะกรรมการศึกษาแนวทางความปลอดภัย ป้องกัน และลดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างยั่งยืน (คศป.)  สมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าEVรับจ้างสาธารณะ และบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด

ในวันเดียวกันนี้ โบลท์ได้มอบหมวกกันน็อคจำนวน 500 ใบให้แก่พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติตามกฎจราจรและลดความเสี่ยงรวมถึงความรุนแรงของอุบัติเหตุ อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความห่วงใยที่มีต่อพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ โดยผู้ได้รับการคัดเลือกต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐาน อาทิ การมีคะแนนรีวิวยอดเยี่ยม ความสม่ำเสมอในการรับงาน และการมีระยะทางการขับขี่สะสมสูง

สมชาย สุดเสนาะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด กล่าวว่า “แม้การเรียกร้องสิทธิจากคู่กรณีจะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาชนทั่วไปพึงทราบ แต่ผู้ทำประกันจำเป็นต้องศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถให้เข้าใจ ทั้งในส่วนสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากบริษัทประกันภัยและสิทธิเรียกร้องจากคู่กรณี โดยบริษัทประกันภัยไม่สามารถดำเนินการเรียกร้องแทนผู้เสียหายได้ เนื่องจากไม่อยู่ในเงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์ ทั้งนี้ ผู้ทำประกันควรพิจารณาเลือกความคุ้มครองให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้รถด้วย​​​​​​​​​​​​​​​​”

สันติ ปฏิภาณรัตน์ นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าEVรับจ้างสาธารณะ กล่าวว่า “พี่น้องวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะสามารถช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ไม่มากก็น้อย เนื่องจากเราเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่บนท้องถนนมากกว่าประชาชนทั่วไป และที่สำคัญ พ.ร.บ. ต้องไม่ขาด เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุจะได้รับความคุ้มครองทั้งคนขับและผู้โดยสาร มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการลดอุบัติเหตุอย่างยั่งยืนกันครับ”

ณัฐดนย์ สุขศิริฐานันท์ ผู้จัดการประจำโบลท์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ความปลอดภัยคือสิ่งที่โบลท์ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเสมอ การจัดกิจกรรมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของโบลท์ในการร่วมมือกับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนนถือเป็นความรับผิดชอบที่ต้องอาศัยความพยายามร่วมกันจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน เราหวังว่างานสัมมนาครั้งนี้และการมอบหมวกกันน็อคจะไม่เพียงแต่เพิ่มความปลอดภัยให้กับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่เท่านั้น แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้ผู้ใช้ถนนทุกคนให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ร่วมกันสร้างสังคมที่ปลอดภัยและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น.”

ความมุ่งมั่นของโบลท์ไม่เพียงแต่พัฒนาแพลตฟอร์มให้มีความปลอดภัย แต่ยังพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนสังคมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น เราตระหนักดีว่าความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องได้รับการสนับสนุนจากทุกคน การทำงานร่วมกันคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราสามารถลดอุบัติเหตุและสร้างสังคมที่ยั่งยืนได้ โบลท์พร้อมเดินหน้าสร้างมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงขึ้นต่อไป เพื่อให้ทุกคนสามารถเดินทางได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยในทุกๆ การเดินทาง