สุนทรพจน์จาก Sundar Pichai : ทำไมคนธรรมดาถึงสร้างความเปลี่ยนแปลงระดับโลกได้

ในห้วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงของโลกเทคโนโลยี เรื่องราวของเด็กหนุ่มจากเมือง Chennai ประเทศอินเดีย ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าความคิดและความมุ่งมั่นสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้

เป็นอีกหนึ่ง Speech ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในแวดวงเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก จาก Sundar Pichai ในงาน Global Entrepreneurship Summit GES 2016 ที่จัดขึ้นโดย Stanford

Pichai ได้เล่าประวัติชีวิตของตัวเองว่า เขาเติบโตมาในครอบครัวธรรมดาที่ได้รับโทรศัพท์เครื่องแรกตอนอายุ 12 ปี เป็นโทรศัพท์แบบหมุนที่ไม่สามารถถ่าย selfie ได้ แต่มันกลับจุดประกายความหลงใหลในเทคโนโลยีให้กับเขา

ขณะที่อ่านหนังสือในบ้านที่ Chennai เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับการประดิษฐ์ทรานซิสเตอร์ที่ Bell Labs ซึ่งกลายเป็นรากฐานของ Silicon Valley และนำไปสู่การก่อตั้งบริษัทอย่าง Fairchild Semiconductor และ Intel รวมถึงการพัฒนาคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่เราใช้กันในปัจจุบัน

จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของ Pichai เกิดขึ้นเมื่อได้เข้าเรียนที่ Indian Institutes of Technology (IIT) Kharagpur หนึ่งในสถาบันวิศวกรรมและเทคนิคชั้นนำของอินเดีย เขาต้องเดินทางด้วยรถไฟที่แน่นขนัดจาก Chennai เป็นเวลา 24 ชั่วโมง แต่โอกาสนี้ได้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล

หลังจากจบการศึกษา พ่อของเขาได้ใช้เงินเท่ากับเงินเดือนหนึ่งปีซื้อตั๋วเครื่องบินให้เขาไปเรียนต่อที่ Stanford ซึ่งเป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกในชีวิต

การมาถึงแคลิฟอร์เนียของ Pichai ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาจินตนาการไว้ ทั้งค่าครองชีพที่สูง ค่าโทรศัพท์กลับบ้านที่แพงถึงนาทีละ 2 ดอลลาร์ กระเป๋าเป้ที่มีราคาเท่ากับเงินเดือนหนึ่งเดือนของพ่อในอินเดีย แม้แต่น้ำทะเลที่ชายหาดแคลิฟอร์เนียก็เย็นเกินคาด

แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อเขาได้ใช้คอมพิวเตอร์อย่างเต็มที่เป็นครั้งแรกในชีวิต ความสนใจในเทคโนโลยีของเขาพุ่งสูงขึ้น จากเด็กที่เคยดูโทรทัศน์ช่องเดียวที่บ้าน กลายเป็นผู้ที่สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มที่มีช่องทางนับล้าน

ปีที่เขามาถึง Stanford เป็นปีเดียวกับที่เบราว์เซอร์ Mosaic ถูกเปิดตัว ซึ่งทำให้ World Wide Web และอินเทอร์เน็ตเป็นที่นิยม และในช่วงฤดูร้อนที่เขาจบการศึกษา นักศึกษาปริญญาเอกชื่อ Sergey Brin ได้พบกับนักศึกษาวิศวกรรมที่กำลังจะเข้าเรียนชื่อ Larry Page เหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อชีวิตของเขา แม้ในตอนนั้นเขาจะยังไม่รู้ตัวก็ตาม

ปัจจุบัน Pichai ได้กลายเป็น CEO ของ Google และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงโลก

ตัวอย่างเช่น Gmail เริ่มต้นจากความหลงใหลของคนเพียงคนเดียวที่ต้องการปฏิวัติอีเมล จนมีผู้ใช้งานรายเดือนมากกว่า 1 พันล้านคน เบราว์เซอร์ Chrome เกิดจากความมุ่งมั่นของทีมเล็กๆ ที่ต้องการสร้างเว็บที่เร็วและปลอดภัยมากขึ้น จนมีผู้ใช้งานรายเดือนมากกว่า 1 พันล้านคนเช่นกัน

แม้แต่นวัตกรรมอย่าง Cardboard อุปกรณ์ดู Virtual Reality ก็เริ่มต้นจากวิศวกรเพียง 2 คนในสำนักงานปารีสที่มีไอเดียเรียบง่ายเกี่ยวกับกระดาษแข็งและโทรศัพท์มือถือ และมีผู้ใช้งานมากกว่า 5 ล้านคนทั่วโลก ครูสามารถพานักเรียนไปทัศนศึกษาเสมือนจริงได้ตั้งแต่ Great Barrier Reef ไปจนถึง Machu Picchu

ความสำเร็จเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าอุปสรรคในการเป็นผู้ประกอบการและการนำเสนอไอเดียสู่ผู้คนทั่วโลกกำลังลดน้อยลง ผู้คนสามารถทำงานและสร้างผลิตภัณฑ์จากที่ไหนก็ได้ในโลก การเติบโตของเทคโนโลยีและการเชื่อมต่อทั่วโลกได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่สามารถสร้างนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงโลกได้จากทุกมุมโลก

Google ได้สร้าง campus หลายแห่งเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับผู้ประกอบการในการสร้างสรรค์และทำงานร่วมกันในศูนย์กลางเทคโนโลยีหลัก ทั้งใน London, Madrid, Seoul และ Tel Aviv มีธุรกิจขนาดเล็กมากกว่า 30 ล้านแห่งทั่วโลกที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Google อย่างน้อยหนึ่งอย่างในการค้นหาลูกค้า สร้างการเติบโต และเพิ่ม productivity

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ลงทุนมากกว่า 140 ล้านดอลลาร์ในการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลให้กับผู้คนกว่า 5.5 ล้านคน และตั้งเป้าที่จะให้การฝึกอบรมฟรีแก่คนหนุ่มสาว 1 ล้านคนในแอฟริกา เพราะพวกเขาเชื่อว่าการเข้าถึงเทคโนโลยีและความรู้คือกุญแจสำคัญในการพัฒนาโลก

Thomas Edison เคยกล่าวไว้ว่า “ผมไม่ได้ล้มเหลว ผมเพียงแค่พบ 10,000 วิธีที่ไม่ได้ผล” คำพูดนี้สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณของผู้ประกอบการที่ต้องผ่านความท้าทายมากมาย ทั้งชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน การเสียสละเวลากับครอบครัว การเผชิญกับการปฏิเสธ และความไม่แน่นอนของไอเดียที่พวกเขาเชื่อมั่น

แนวโน้มที่น่าสนใจประการหนึ่งที่ Pichai กล่าวถึงก็คือ คนรุ่นก่อนหน้ามักจะประเมินศักยภาพของรุ่นต่อไปต่ำเกินไป เพราะพวกเขาไม่ได้ตระหนักว่าความก้าวหน้าของรุ่นหนึ่งจะกลายเป็นรากฐานให้กับรุ่นต่อไป ต้องมีคนรุ่นใหม่เข้ามามองเห็นความเป็นไปได้ทั้งหมดและผลักดันขอบเขตของนวัตกรรมให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น

ปัจจุบันมีศูนย์กลางเทคโนโลยีเกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งในเยอรมนี บราซิล สหราชอาณาจักร อิสราเอล และจีน ข้อมูลล่าสุดระบุว่า 21% ของผู้ใหญ่ใน 60 ประเทศ ตั้งใจที่จะเริ่มต้นธุรกิจในอีก 3 ปีข้างหน้า และมีผู้หญิงมากกว่า 200 ล้านคนทั่วโลกที่กำลังเริ่มต้นหรือดำเนินธุรกิจ ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Silicon Valley ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่อีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นแนวคิดและอุดมการณ์ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก

Pichai กล่าวว่า ความไม่อดทนและความหงุดหงิดกับข้อจำกัดของเทคโนโลยีในปัจจุบันอาจเป็นแรงผลักดันที่สำคัญในการสร้างนวัตกรรมครั้งต่อไป เพราะมันจะกระตุ้นให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่สร้างสิ่งต่างๆ ที่คนรุ่นก่อนไม่เคยคิดฝัน สิ่งสำคัญคือการเปิดใจค้นหาสิ่งที่ตนเองหลงใหล และกล้าที่จะไล่ตามความฝันนั้น

ยุคแห่งการปฏิวัติเทคโนโลยีครั้งใหม่กำลังจะมาถึง และใครก็ตามที่มีความคิดที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมสามารถสร้างผลกระทบต่อโลกได้ ไม่ว่าจะมาจากที่ไหน มีภูมิหลังอย่างไร หรือเริ่มต้นจากจุดไหน เพราะในที่สุดแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพลังแห่งความคิดและความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น

References :
Speech of the Google’s CEO Sundar Pichai in Global Entrepreneurship Summit GES 2016
https://www.facebook.com/watch/?v=461668431109166

Geek Talk EP44 : Trifecta ของ Bill Gates และวิสัยทัศน์ด้าน AI พลังงานสะอาด สุขภาพโลก

Bill Gates กำลังดำเนินโครงการต่างๆ กับสิ่งที่เขาเรียกว่า “trifecta” ซึ่งประกอบด้วย การสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ การได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และความสนุกสนาน

พอดแคสต์ EP นี้จะมาชวนติดตามเส้นทางของ Bill Gates จากการพัฒนาซอฟต์แวร์สู่งานกับมูลนิธิ Gates Foundation ที่ครอบคลุมประเด็นสำคัญระดับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สุขภาพโลก และศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงของ AI นอกจากนี้ เขายังลงลึกถึงความสำคัญของนวัตกรรมในพลังงานหมุนเวียน การผลิตโปรตีน และการกำจัดโรคภัยไข้เจ็บ ที่ให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการ Possible Podcast โดย Reid Hoffman

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/4cj7bf43

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/5w7rk47e

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://tinyurl.com/hpnsmtwt

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/5Ot5q-Qw3HQ

Geek Life EP82 : เทคนิคสร้างทีมให้ปัง ทีมแย่เพราะขาด Working Genius เปิดกลยุทธ์จัดทีมรูปแบบใหม่

ในโลกของการทำงานยุคใหม่ การเข้าใจศักยภาพที่แท้จริงของตนเองและทีมถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ Patrick Lencioni นักเขียนและที่ปรึกษาด้านการบริหารชื่อดัง ได้นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจผ่านหนังสือ “The Six Types of Working Genius” ที่จะช่วยให้ผู้นำและสมาชิกในทีมค้นพบความเป็นอัจฉริยะที่ซ่อนอยู่ในตัวตน

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Life’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/mw2sx7hr

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/3xu87jmk

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/pS19wt86XI8