ในโลกของนวัตกรรมและเทคโนโลยี หากมีบุคคลที่สร้างปรากฏการณ์และเป็นที่จับตามองมากที่สุดคนหนึ่ง คงหนีไม่พ้น Elon Musk ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง Tesla และ SpaceX ความสำเร็จของเขาไม่ได้เกิดจากโชคช่วย แต่เป็นผลจากแนวคิดและหลักการทำงานที่โดดเด่น
จากการศึกษาชีวประวัติที่เขียนโดย Ashlee Vance รวมถึงบทสัมภาษณ์และการตอบคำถามบน Reddit AMAs พบว่ามีบทเรียนสำคัญ 5 ประการที่ทุกคนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้
การให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง: จุดเริ่มต้นของวันที่มีประสิทธิภาพ
เมื่อมีผู้ถามถึงนิสัยประจำวันที่ส่งผลดีต่อชีวิตมากที่สุดใน Reddit AMA ปี 2015 Musk ตอบสั้นๆ เพียงว่า “การอาบน้ำ” คำตอบที่ดูเรียบง่ายนี้แฝงไปด้วยปรัชญาที่ลึกซึ้ง นั่นคือการให้ความสำคัญกับการเริ่มต้นวันใหม่อย่างมีคุณภาพ การดูแลตัวเองให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานตลอดทั้งวัน แม้จะทำงานที่บ้านที่ไม่มีใครเห็น การรักษาระเบียบวินัยในการดูแลตัวเองก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ
การเป็นแบบอย่าง: ผู้นำที่นำด้วยการกระทำ
Musk ขึ้นชื่อในฐานะผู้บริหารที่มีความเข้มงวดและโหดกับทีมงาน เขาคาดหวังให้พนักงานทุ่มเทกับงานอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่ทำให้พนักงานยอมรับและเคารพเขา คือการที่เขาไม่เคยเรียกร้องในสิ่งที่เขาทำไม่ได้ ด้วยการทำงาน 85-100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทุกวันตลอด 7 วัน Musk แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทที่มากกว่าคำพูด
การวางโต๊ะทำงานของเขาที่ Tesla ไว้กลางโรงงาน ท่ามกลางวิศวกรคนอื่นๆ ไม่เพียงแต่แสดงถึงความเป็นผู้นำที่เข้าถึงได้ แต่ยังสะท้อนถึงปรัชญาการทำงานที่ว่า “ผู้นำต้องอยู่แถวหน้าพร้อมกับทีม”
การตั้งเป้าหมายท้าทาย: กุญแจสู่การพัฒนาที่ก้าวกระโดด
แนวทางการตั้งเป้าหมายของ Musk มักถูกมองว่าเป็นไปไม่ได้ แต่กลับเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยผลักดันให้ทีมงานก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง ดังเช่นกรณีของ SpaceX ที่สามารถพัฒนาจรวดที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ทั้งที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเคยกล่าวว่าเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้
การตั้งเป้าหมายที่ท้าทายของ Musk เปรียบเสมือนการผลักดันให้ทีมวิ่งระยะทางไกลเกินกว่าที่พวกเขาคิดว่าทำได้ แม้อาจไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็มักเกินความคาดหมายของทุกคน
การพัฒนาฐานความรู้ที่กว้างขวาง: กุญแจสู่การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
สิ่งที่ทำให้ Musk แตกต่างจากซีอีโอคนอื่นๆ คือความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังผลิตภัณฑ์ของบริษัท เขาไม่เพียงแต่บริหารงาน แต่ยังเข้าใจรายละเอียดทางเทคนิคและสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แนวคิดการเป็นคนแบบ “T-shaped” ที่มีความรู้ลึกในด้านหนึ่งและกว้างในหลายด้าน ช่วยให้ Musk สามารถมองเห็นโอกาสและแนวทางแก้ปัญหาที่คนอื่นมองข้าม การผสมผสานความรู้จากหลากหลายสาขาทำให้เกิดนวัตกรรมที่แหวกแนว
การเชื่อในการพัฒนา: หัวใจของการเติบโตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“การมีระบบ feedback loop และการคิดตลอดเวลาว่าจะทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร” คือหลักการสำคัญที่ Musk ยึดถือ การมีกรอบความคิดแบบ growth mindset ทำให้เขาไม่เคยหยุดพัฒนาและมองหาวิธีที่ดีกว่าเสมอ
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือกรณีของอุปกรณ์ electromechanical actuator ที่มีราคาสูงถึง 120,000 ดอลลาร์ แทนที่จะยอมรับราคานี้ Musk กลับท้าทายทีมให้สร้างขึ้นเองด้วยงบประมาณเพียง 5,000 ดอลลาร์ และสุดท้ายทีมก็ทำสำเร็จด้วยต้นทุนเพียง 3,900 ดอลลาร์
การนำแนวคิดและหลักการเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ ไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาตนเองและองค์กร แต่ยังเป็นแนวทางสู่การสร้างนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงโลกได้เช่นเดียวกับที่ Elon Musk ได้ทำสำเร็จมาแล้วนั่นเองครับผม
References:
How to Be as Productive as Elon Musk – 5 Essential Practices
https://youtu.be/q4cjNYGUaoA?si=cyGlUIqAB0k76NEY