Geek Daily EP249 : ชัยชนะของมนุษยชาติ เมื่อ SpaceX เขียนประวัติศาสตร์ Super Heavy กลับบ้านปลอดภัย

วันที่ 14 ตุลาคม 2024 จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การสำรวจอวกาศโลก เมื่อ SpaceX บริษัทเทคโนโลยีอวกาศชั้นนำของโลก ประสบความสำเร็จในการรับส่วนแรกของจรวดบูสเตอร์ Super Heavy ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของยานอวกาศ Starship ในการทดสอบครั้งที่ 5 นี้

SpaceX ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอันน่าทึ่งในเทคโนโลยีการบินอวกาศแบบนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการปฏิวัติวงการอวกาศโลก

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/hzm8hwy3

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/54hrs3cz

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://tinyurl.com/yc6s5xrr

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/qtoPLTBILeQ

ธุรกิจคือเกมที่ไม่มีวันจบ : 3 เคล็ดลับจาก Simon Sinek สร้างธุรกิจที่ยืนหยัดได้ในทุกวิกฤต

ในโลกธุรกิจที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด เราอาจหลงคิดว่าเป้าหมายสูงสุดคือการ “ชนะ” เหนือคู่แข่ง แต่จริงๆ แล้ว ธุรกิจก็เหมือนกับชีวิต – มันคือเกมที่ไม่มีวันจบ

Simon Sinek นักคิดและผู้เขียนหนังสือขายดี “The Infinite Game” ได้นำเสนอมุมมองที่น่าสนใจว่า เราควรมองธุรกิจเป็นเกมที่ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ใช่การแข่งขันเพื่อชิงชัยชนะแบบสั้นๆ

แนวคิดนี้อาจฟังดูแปลกหูสำหรับหลายคน เพราะในโลกธุรกิจ แม้คุณจะทำกำไรได้ตามเป้า ก็ไม่มีใครหยุดเกมแล้วมอบถ้วยรางวัลให้คุณ ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไป มีความท้าทายใหม่ๆ รอคุณอยู่เสมอ

แล้วเราจะเปลี่ยนมุมมองจากเกมที่มีจุดจบ มาเป็นเกมที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้อย่างไร? Sinek เสนอว่าเราควรให้ความสำคัญกับ “สิ่งที่เอื้อให้เกิดมุมมองแบบไม่มีที่สิ้นสุด” 3 ประการ ซึ่งจะช่วยให้เราสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว

1. อุดมการณ์อันชอบธรรมของคุณ (Your Just Cause)

อุดมการณ์อันชอบธรรม คือวิสัยทัศน์ที่เราต้องการสร้างให้เกิดขึ้นจริงเพื่อผู้คนที่เราให้บริการ มันไม่ใช่แค่พันธกิจองค์กรที่เน้นแต่เรื่องกำไร แต่เป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น

ยกตัวอย่างเช่น Henry Ford ผู้ก่อตั้งบริษัท Ford มีอุดมการณ์ที่จะสร้างยานพาหนะที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพให้กับทุกคน เขาไม่ได้แค่อยากขายรถยนต์ให้ได้มากๆ แต่ต้องการเปิดโลกแห่งการเดินทางให้กับผู้คน

หรืออย่าง CBS ร้านขายยาและร้านค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของอเมริกา ที่มีอุดมการณ์ในการนำพาผู้คนไปสู่เส้นทางสุขภาพที่ดีขึ้น พวกเขาไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นแค่ร้านขายของ แต่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่มีสุขภาพดี

การมีอุดมการณ์ที่แข็งแกร่งจะช่วยให้เรามีพลังในการฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ แม้ในยามที่ธุรกิจเผชิญกับความท้าทาย เราก็จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะเรามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าแค่ตัวเลขกำไร

ลองถามตัวเองดูว่า:

  1. เราจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่อะไรให้กับชีวิตของลูกค้าได้บ้าง?
  2. อะไรคือสิ่งที่เราพร้อมจะเสียสละเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย?
  3. วิสัยทัศน์แบบไหนที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นอยากเข้าร่วมกับเรา?

เมื่อคุณมีอุดมการณ์ที่ชัดเจนแล้ว ให้ลองนึกภาพว่า ถ้าวันหนึ่งคุณค้นพบวิธีที่ดีกว่าในการบรรลุวิสัยทัศน์ระยะยาวของคุณ แม้ว่ามันจะหมายถึงการเปลี่ยนแปลงธุรกิจครั้งใหญ่และอาจต้องสละผลกำไรระยะสั้น คุณพร้อมจะทำหรือไม่?

ถ้าคุณตอบว่า “พร้อม” นั่นแสดงว่าคุณมีอุดมการณ์ที่แท้จริง และมันจะเป็นเข็มทิศนำทางให้คุณในการตัดสินใจทางธุรกิจต่อไป

2. คู่แข่งที่มีค่าของคุณ (Your Worthy Rival)

ในเกมที่ไม่มีที่สิ้นสุด คู่แข่งไม่ใช่ศัตรูที่ต้องกำจัด แต่เป็นแรงผลักดันให้เราพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง

ลองนึกถึงการแข่งขันเทนนิสระหว่าง Roger Federer และ Rafael Nadal สองนักเทนนิสระดับตำนาน พวกเขาเป็นคู่แข่งกันในสนาม แต่นอกสนามกลับเป็นเหมือนพี่น้องที่คอยผลักดันกันและกันให้ก้าวหน้า พวกเขาศึกษาและเรียนรู้จากกันตลอดเวลา การแข่งขันของพวกเขาไม่ใช่แค่เรื่องของการเอาชนะ แต่เป็นการพัฒนาวงการเทนนิสไปด้วยกัน

ในโลกธุรกิจก็เช่นกัน เราควรมองคู่แข่งเป็นแรงบันดาลใจ ไม่ใช่ภัยคุกคาม อย่างเช่น Ford ที่มอง Toyota เป็นคู่แข่งที่มีค่า Toyota ทำให้ Ford เชื่อว่าเป็นไปได้ที่จะผลิตรถยนต์คุณภาพสูงด้วยต้นทุนต่ำ ซึ่งผลักดันให้ Ford พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ การมีคู่แข่งที่มีค่ายังช่วยให้ฉายภาพอุดมการณ์ของเราได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น ในยุค 80 Apple ใช้ IBM เป็นจุดเปรียบเทียบเพื่อบอกโลกว่า Apple เป็นแบรนด์สำหรับคนนอกกรอบและนักสร้างสรรค์นวัตกรรม ในขณะที่ IBM ให้อำนาจกับกลุ่มองค์กรธุรกิจ Apple ก็มุ่งเน้นการให้อำนาจกับคนทั่วไป

ลองคิดดูว่าใครคือคู่แข่งที่มีค่าของคุณ ใครที่สามารถผลักดันให้คุณพัฒนาตัวเองได้มากที่สุด และพวกเขาจะช่วยเสริมสร้างอุดมการณ์ของคุณได้อย่างไร

3. การคิดใหม่เกี่ยวกับกฎ (Rethinking the Rules)

ในเกมที่ไม่มีที่สิ้นสุด กฎไม่ใช่สิ่งตายตัว แต่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผู้ที่ยึดติดกับกฎเก่าๆ มักจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในที่สุด

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือกรณีของ Blockbuster ร้านเช่าวิดีโอยักษ์ใหญ่ที่เคยครองตลาดมาอย่างยาวนาน พวกเขายึดติดกับโมเดลธุรกิจแบบเดิมๆ คือให้ลูกค้ามาเช่าหนังที่ร้าน และจ่ายค่าปรับเมื่อคืนช้า แต่แล้ว Netflix ก็เข้ามาในตลาดด้วยแนวคิดใหม่ ลูกค้าไม่ต้องออกจากบ้านเพื่อเช่าหนัง และไม่มีค่าปรับเมื่อคืนช้า Blockbuster ปรับตัวไม่ทันกับกฎใหม่เหล่านี้ จึงต้องปิดตัวลงในที่สุด

ในทางกลับกัน Netflix ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะพวกเขาพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงกฎของตัวเองอยู่เสมอ จากบริการให้เช่า DVD ทางไปรษณีย์ มาสู่การสตรีมมิ่งออนไลน์ และปัจจุบันก็ผลิตคอนเทนต์เป็นของตัวเอง

ในฐานะผู้ประกอบการ เราควรมองตัวเองเป็นเหมือนนักปีนเขาที่มองหาเส้นทางใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ใช่แค่เดินตามเส้นทางเดิมๆ ที่คนอื่นทำไว้ เราสามารถสร้างกฎใหม่ๆ เพื่อให้บรรลุอุดมการณ์ของเราได้ดียิ่งขึ้น

การนำแนวคิดนี้มาปรับใช้ในบริบทของธุรกิจไทย

ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของไทย การนำแนวคิดเรื่องเกมที่ไม่มีที่สิ้นสุดมาปรับใช้อาจมีความท้าทาย แต่ก็มีโอกาสมากมาย ให้ลองนึกถึงธุรกิจครอบครัวที่มีมาหลายรุ่น หรือบริษัทที่มีประวัติยาวนานในประเทศไทย พวกเขาสามารถอยู่รอดและเติบโตได้เพราะมีวิสัยทัศน์ระยะยาว ไม่ใช่แค่มุ่งเน้นกำไรระยะสั้น

ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ที่เริ่มต้นจากร้านขายเมล็ดพันธุ์พืชเล็กๆ แต่มีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาภาคการเกษตรของไทย จนปัจจุบันกลายเป็นบริษัทระดับโลก CP ไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นแค่ผู้ขายอาหารสัตว์หรือเกษตรกรรม แต่เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและผู้บริโภค

หรืออย่างธนาคารกสิกรไทย ที่ปรับตัวจากธนาคารแบบดั้งเดิมสู่การเป็นผู้นำด้านดิจิทัลแบงกิ้ง พวกเขาไม่ได้ยึดติดกับกฎเก่าๆ แต่กล้าที่จะคิดใหม่และสร้างนวัตกรรมทางการเงินเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่

แล้วธุรกิจของคุณล่ะ? คุณมีอุดมการณ์อะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าแค่การทำกำไร? คุณเห็นคู่แข่งเป็นแรงบันดาลใจให้พัฒนาตัวเองหรือไม่? และคุณพร้อมที่จะท้าทายกฎเกณฑ์เดิมๆ เพื่อสร้างคุณค่าใหม่ให้กับลูกค้าและสังคมหรือเปล่า?

บทสรุป: มุมมองใหม่สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

การมองธุรกิจเป็นเกมที่ไม่มีที่สิ้นสุดไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ตั้งเป้าหมายหรือวัดผลสำเร็จ แต่เป็นการเปลี่ยนมุมมองจากการมุ่งเน้นชัยชนะระยะสั้น มาเป็นการสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

เมื่อเรามีอุดมการณ์ที่ชัดเจน เราจะมีแรงขับเคลื่อนที่มากกว่าแค่ตัวเลขกำไร เราจะมีพลังในการฝ่าฟันอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ

เมื่อเรามองคู่แข่งเป็นแรงบันดาลใจ เราจะไม่หยุดพัฒนาตัวเอง และยังสามารถสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

และเมื่อเราพร้อมที่จะคิดใหม่เกี่ยวกับกฎเกณฑ์ต่างๆ เราจะสามารถปรับตัวได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ

ในท้ายที่สุด การมองธุรกิจเป็นเกมที่ไม่มีที่สิ้นสุดจะช่วยให้เราสร้างองค์กรที่แข็งแกร่ง มีความหมาย และสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมได้อย่างยั่งยืน ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก ผู้บริหารบริษัทใหญ่ หรือผู้ประกอบการหน้าใหม่ การนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้จะช่วยให้คุณมองเห็นโอกาสและความท้าทายในมุมที่แตกต่างออกไป

จำไว้ว่า ในเกมที่ไม่มีที่สิ้นสุด เป้าหมายไม่ใช่การเอาชนะคนอื่น แต่เป็นการเอาชนะตัวเองและสร้างผลงานที่ดีกว่าเดิมอยู่เสมอ เมื่อคุณให้ความสำคัญกับอุดมการณ์และผู้คนที่คุณให้บริการ ความสำเร็จทางธุรกิจก็จะตามมาเอง

References :
หนังสือ The Infinite Game โดย Simon Sinek
How Great Leaders Inspire Action | Simon Sinek | TED -> https://youtu.be/qp0HIF3SfI4?si=2GUFZqTx6kXHAwtW

Geek Life EP63 : พูดยังไงให้ปัง? จากคนเงียบขรึมสู่นักพูดมือทอง เคล็ดลับจาก Google และ BCG

ในโลกปัจจุบันที่การสื่อสารเป็นทักษะสำคัญ การพูดและเขียนอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักศึกษา พนักงานบริษัท หรือผู้บริหาร การสื่อสารที่ชัดเจนและตรงประเด็นจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในทุกด้านของชีวิต

Matt Huang ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์และการดำเนินงานที่ Google และอดีตที่ปรึกษาด้านการจัดการที่ BCG ได้มาแบ่งปันเคล็ดลับการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพที่เขาใช้ในการทำงานและชีวิตประจำวันผ่านช่อง Youtube ของเขา (Matt Huang Channel)

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Life’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/4d7t7yx6

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/y5xxpr4u

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/3Dsz_EjSqMw