Geek Story EP222 : จาก CPU King สู่วิกฤตครั้งใหญ่ ความล้มเหลวของ Intel กับบทเรียนราคาแพงในยุค AI

ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา Intel เคยเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยี ครองตำแหน่งผู้นำในการผลิตหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) สำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและเซิร์ฟเวอร์ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทกลับประสบปัญหาอย่างหนัก ทั้งรายได้ที่ลดลง ส่วนแบ่งตลาดที่หดหาย และราคาหุ้นที่ร่วงลงอย่างรุนแรง แม้จะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ตาม

พอดแคสต์ EP นี้จะมาชวนวิเคราะห์กันว่าเกิดอะไรขึ้นกับ Intel และอะไรคือสาเหตุที่ทำให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่แห่งนี้ประสบปัญหา

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/bde353d4

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/yte2yuxw

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://tinyurl.com/23v2jvsa

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/F5tTmP43uYM

มองการณ์ไกล 5 ก้าว : พิชิตเป้าหมายธุรกิจ กับวิธีคิดที่จะทำให้คุณชนะตลอดกาล

ในโลกของการแข่งขันทางธุรกิจที่ดุเดือด การมองการณ์ไกลและวางแผนล่วงหน้าเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่ง เปรียบเสมือนการเล่นหมากรุกที่ผู้เล่นต้องคิดหลายตาล่วงหน้าเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ ในทำนองเดียวกัน นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จต้องมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล วางแผนอย่างรอบคอบ และเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

Patrick Bet-David ผู้เขียนหนังสือ “Your Next Five Moves” ได้นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับการวางแผนธุรกิจในระยะยาว โดยเปรียบเทียบกับการเล่นหมากรุกที่ต้องคิดล่วงหน้าอย่างน้อย 5 ตา Bet-David เสนอว่า การคิดล่วงหน้า 5 ก้าวในโลกธุรกิจจะช่วยให้คุณก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดและเอาชนะคู่แข่งได้ในที่สุด

ก้าวแรกสู่ความสำเร็จ: รู้จักตัวตนที่แท้จริง

การรู้จักตัวเองอย่างลึกซึ้งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการก้าวสู่ความสำเร็จ Benjamin Franklin เคยกล่าวไว้ว่า “มีสามสิ่งที่แข็งแกร่งยิ่งคือ เหล็กกล้า เพชร และการรู้จักตนเอง” ในขณะที่ Lao Tzu ปราชญ์ชาวจีนก็ได้กล่าวไว้ว่า “คำตอบทั้งหมดอยู่ที่ศูนย์กลางของตัวคุณเอง คุณรู้ว่าคุณเป็นใครและต้องการอะไร”

การทำความเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้งจะช่วยให้คุณค้นพบแรงผลักดันภายในที่แท้จริง และเป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมดในการฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ในโลกธุรกิจ

Bet-David แนะนำให้เราใช้เวลาอยู่กับตัวเองในที่เงียบสงบ และตั้งคำถามสำคัญๆ กับตัวเอง เช่น “ความสำเร็จอะไรที่ฉันภูมิใจที่สุดและทำไม?” คำถามนี้จะช่วยให้คุณค้นพบคุณค่าและความหมายที่แท้จริงในชีวิตของคุณ

นอกจากนี้ Bet-David ยังเสนอคำถามที่น่าสนใจอีกข้อหนึ่ง นั่นคือ “ฉันต้องกลายเป็นคนแบบไหนเพื่อหยุดอิจฉาผู้อื่น?” คำถามนี้จะช่วยให้คุณตระหนักถึงเป้าหมายที่แท้จริงของตัวเอง และหยุดการเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นซึ่งเป็นสิ่งที่ทำลายสมาธิและพลังงานในการทำงานของคุณ

Bet-David ยกตัวอย่างเรื่องราวของ Shawn เพื่อนของเขาที่มักจะเปลี่ยนงานบ่อยๆ เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถไล่ตามความสำเร็จของผู้ประกอบการรายอื่นๆ ได้ทัน

แต่เมื่อ Bet-David ถามคำถามง่ายๆ ว่า “คุณต้องการชีวิตแบบไหนจริงๆ?” Shawn ก็ค้นพบว่าสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ ไม่ใช่การเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่เป็นการมีชีวิตที่สมดุลระหว่างการทำงานและครอบครัว

การรู้จักตัวเองอย่างแท้จริงจะช่วยให้คุณสร้างวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสำหรับชีวิตและธุรกิจของคุณ ซึ่งจะเป็นเข็มทิศนำทางไปสู่เป้าหมายที่แท้จริง แทนที่จะหลงทางไปกับความคาดหวังของสังคมหรือการเปรียบเทียบกับผู้อื่น

ก้าวที่สอง: เผชิญหน้ากับปัญหาอย่างกล้าหาญ

ในโลกธุรกิจ การเผชิญหน้ากับปัญหาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่แยกนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จออกจากคนอื่นๆ คือวิธีการจัดการกับปัญหาเหล่านั้น Bet-David เสนอว่า เราควรมองปัญหาเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา แทนที่จะมองว่าเป็นอุปสรรคที่น่ากลัว

แนวทางแรกคือการปรับเปลี่ยนมุมมองต่อปัญหา แทนที่จะรู้สึกกลัวหรือท้อแท้เมื่อเจอปัญหา ให้มองปัญหาเหมือนเป็นสมการทางคณิตศาสตร์ที่ท้าทายและน่าสนใจ การเปลี่ยนมุมมองเช่นนี้จะช่วยให้คุณนำพลังงานและความคิดสร้างสรรค์มาใช้ในการแก้ปัญหาได้มากขึ้น

ประการที่สอง การยอมรับปัญหาเป็นสิ่งสำคัญ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจะไม่ปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงปัญหา แต่จะเผชิญหน้ากับมันอย่างตรงไปตรงมา พวกเขาจะรับผิดชอบต่อปัญหาและใช้ความรู้สึกไม่สบายใจนั้นเป็นแรงผลักดันในการแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

สุดท้าย การวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาเป็นทักษะที่สำคัญ Bet-David แนะนำให้ถามตัวเองเสมอว่า “ปัญหาที่แท้จริงคืออะไร?”

เขายกตัวอย่างจากประสบการณ์ของตัวเองที่สูญเสียลูกค้ารายใหญ่ เมื่อวิเคราะห์ลึกลงไป เขาพบว่าปัญหาที่แท้จริงไม่ใช่เรื่องราคา แต่เป็นเพราะผลิตภัณฑ์ของเขามีฟีเจอร์มากเกินความต้องการของลูกค้า

การเข้าใจปัญหาอย่างถ่องแท้จะช่วยให้คุณสามารถคิดหาวิธีแก้ไขที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้คุณสามารถกำหนดแนวทางป้องกันไม่ให้ปัญหาเดิมเกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต

ก้าวที่สาม: สร้างทีมที่แข็งแกร่ง

ความสำเร็จในโลกธุรกิจไม่ใช่เรื่องของคนคนเดียว แต่เป็นผลงานของทีมที่แข็งแกร่ง Reed Hoffman ผู้ร่วมก่อตั้ง LinkedIn เคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าคุณเล่นเกมคนเดียว คุณจะแพ้ทีมเสมอ” ดังนั้น การสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในระยะยาว

Bet-David แนะนำให้เริ่มต้นด้วยการจัดทำเอกสารและสร้างความไว้วางใจในทีม การบันทึกทุกขั้นตอนการทำงาน การสร้างคู่มือการปฏิบัติงาน และการจัดทำรายการตรวจสอบโดยละเอียด จะช่วยให้ทีมของคุณสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ในยามที่คุณไม่อยู่

Bet-David กล่าวว่า “ยิ่งธุรกิจของคุณพึ่งพาตัวคุณน้อยลงเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งมีค่ามากขึ้นเท่านั้น”

การสร้างทีมที่แข็งแกร่งไม่ใช่แค่เรื่องของการจ้างคนที่มีความสามารถ แต่ยังรวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นความซื่อสัตย์และความไว้วางใจ

Bet-David เน้นย้ำว่าความซื่อสัตย์ควรเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดในการคัดเลือกสมาชิกทีม เพราะทีมที่มีความไว้วางใจซึ่งกันและกันจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น

ก้าวที่สี่: ขยายธุรกิจผ่านการพัฒนาคน

การเติบโตของธุรกิจไม่ได้จำกัดอยู่แค่การขยายฐานลูกค้าหรือเพิ่มยอดขาย แต่ยังรวมถึงการพัฒนาศักยภาพของคนในองค์กรด้วย Bet-David เสนอแนวคิดที่น่าสนใจว่า การขยายธุรกิจที่ยั่งยืนที่สุดคือการขยายผ่านการพัฒนาคนในองค์กร

เขาแนะนำให้ผู้นำองค์กรตั้งคำถามกับตัวเองทุกเช้าว่า “วันนี้ฉันจะช่วยให้ทีมของฉันเติบโตได้อย่างไร?” การสนับสนุนให้พนักงานตั้งเป้าหมายส่วนตัวและเป้าหมายในอาชีพที่ท้าทาย แล้วช่วยให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น จะสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องในองค์กร

เมื่อพนักงานได้รับการสนับสนุนให้พัฒนาตนเอง พวกเขาจะมีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น และนำความรู้ความสามารถที่เพิ่มขึ้นมาใช้ในการพัฒนาองค์กร นี่คือวงจรแห่งการเติบโตที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อพนักงานและองค์กร

Bet-David ยังเสนอแนวคิดเรื่องการส่งเสริมให้พนักงานมีความเป็นผู้ประกอบการภายในองค์กร หรือที่เรียกว่า “Intrapreneurship”

โดยให้อิสระแก่พนักงานในการคิดค้นนวัตกรรมหรือวิธีการทำงานใหม่ๆ เช่น การให้ผู้จัดการฝ่ายขายออกแบบและดำเนินกลยุทธ์การขายใหม่ด้วยตนเอง หรือการเปิดโอกาสให้พนักงานนำเสนอไอเดียธุรกิจใหม่ๆ ภายในองค์กร

การให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของกิจการ เช่น การเสนอหุ้นในบริษัทให้กับพนักงานที่มีผลงานโดดเด่น ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของและความผูกพันกับองค์กรในระยะยาว เมื่อพนักงานรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จขององค์กร พวกเขาจะทุ่มเทและสร้างสรรค์ผลงานที่ดียิ่งขึ้น

ก้าวที่ห้า: ฉวยโอกาสที่เปิดกว้าง

ในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง การมองเห็นโอกาสและกล้าที่จะคว้าไว้เป็นทักษะสำคัญที่จะแยกผู้ชนะออกจากผู้แพ้

Bet-David เปรียบเทียบทักษะนี้กับการเล่นหมากรุก ที่ผู้เล่นต้องมองเห็นภาพรวมของกระดาน คอยสังเกตจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม และพร้อมที่จะฉวยโอกาสเมื่อมันมาถึง

ในธุรกิจก็เช่นกัน ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจะต้องมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด สังเกตเห็นช่องว่างที่คู่แข่งมองข้าม และกล้าที่จะก้าวเข้าไปในพื้นที่ใหม่ๆ ที่ยังไม่มีใครบุกเบิก

Bet-David ยกตัวอย่างจากประสบการณ์ของตัวเองในปี 2009 เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าบริษัทประกันในรัฐที่เขาอาศัยอยู่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากสื่อสังคมออนไลน์อย่างเต็มที่ และยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับการให้บริการกลุ่มชนกลุ่มน้อย เช่น ผู้หญิงละติน

เขาจึงฉวยโอกาสนี้ด้วยการจ้างพนักงานขายที่เป็นผู้หญิงละติน ฝึกอบรมพวกเธอให้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการขายอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถเอาชนะคู่แข่งที่ใช้วิธีการตลาดแบบเดิมๆ ได้อย่างรวดเร็ว

การฉวยโอกาสไม่ได้หมายถึงการรีบร้อนทำทุกอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นโอกาส แต่หมายถึงการมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน การวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบคอบ และการกล้าตัดสินใจเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจะต้องรู้จักสมดุลระหว่างความระมัดระวังและความกล้าเสี่ยง รู้ว่าเมื่อไหร่ควรรอ และเมื่อไหร่ควรก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

การนำกลยุทธ์ 5 ขั้นไปใช้ในธุรกิจ

การนำกลยุทธ์ 5 ขั้นของ Patrick Bet-David ไปใช้ในธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับผู้ที่มุ่งมั่นและพร้อมที่จะเรียนรู้

เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง รู้ว่าอะไรคือแรงผลักดันที่แท้จริงของคุณ และคุณต้องการเป็นใครในโลกธุรกิจ จากนั้นฝึกฝนการมองปัญหาเป็นโอกาส เผชิญหน้ากับความท้าทายอย่างกล้าหาญ และหาวิธีแก้ไขที่สร้างสรรค์

การสร้างทีมที่แข็งแกร่งเป็นอีกก้าวสำคัญ ให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจและการพัฒนาตนเอง ส่งเสริมให้พนักงานของคุณเติบโตทั้งในด้านความรู้ ทักษะ และความรับผิดชอบ เมื่อคนในองค์กรเติบโต ธุรกิจของคุณก็จะเติบโตตามไปด้วย

สุดท้าย อย่าลืมมองหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ ฝึกฝนการมองภาพรวมของตลาด สังเกตการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค และพร้อมที่จะปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป การเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงจะช่วยให้คุณอยู่เหนือคู่แข่งเสมอ

การนำกลยุทธ์ 5 ขั้นนี้ไปใช้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง ยืดหยุ่น และพร้อมรับมือกับทุกความท้าทายในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

เหมือนกับการเล่นหมากรุกที่ต้องคิดหลายตาล่วงหน้า การวางแผนธุรกิจ 5 ก้าวล่วงหน้าจะช่วยให้คุณเป็นผู้กำหนดทิศทางของเกม แทนที่จะเป็นเพียงผู้เล่นที่คอยตั้งรับการเคลื่อนไหวของคู่แข่งเท่านั้น

บทสรุป

แนวคิดเรื่อง “Your Next Five Moves” ของ Patrick Bet-David นำเสนอมุมมองที่น่าสนใจในการบริหารธุรกิจ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการวางแผนระยะยาวและการคิดอย่างเป็นระบบ การรู้จักตัวเอง การเผชิญหน้ากับปัญหา การสร้างทีมที่แข็งแกร่ง การพัฒนาคน และการฉวยโอกาสที่เปิดกว้าง ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม การนำแนวคิดนี้ไปปฏิบัติจริงอาจต้องอาศัยความอดทน ความมุ่งมั่น และการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวในการทำธุรกิจ

แต่การมีกรอบความคิดที่ชัดเจนและยืดหยุ่นเช่นนี้จะช่วยให้คุณสามารถนำพาธุรกิจของคุณผ่านพ้นความท้าทายต่างๆ และก้าวสู่ความสำเร็จได้ในที่สุด

เหมือนกับการเล่นหมากรุกที่ต้องอาศัยทั้งกลยุทธ์ การคาดการณ์ล่วงหน้า และการปรับตัวตามสถานการณ์ การทำธุรกิจก็เช่นกัน ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจะต้องเป็นทั้งนักกลยุทธ์ นักแก้ปัญหา และผู้นำที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมได้ ด้วยการฝึกฝนและพัฒนาทักษะเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง คุณจะสามารถก้าวขึ้นเป็นแกรนด์มาสเตอร์ในเกมธุรกิจได้อย่างแน่นอน

References :
หนังสือ Your Next Five Moves: Master the Art of Business Strategy โดย Patrick Bet-David

Geek Life EP56 : หยุดเสพติดความยุ่ง! กับ 3 เสาหลักแห่ง Productivity ที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณ

ในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและภาระงานที่ไม่มีที่สิ้นสุด การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานกลายเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกคน แต่การทำงานหนักเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด

Chris Bailey ผู้เขียนหนังสือ “The Productivity Project” ได้ทุ่มเทเวลาหนึ่งปีเต็มเพื่อค้นหาวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงสุด ผ่านการทดลองและวิจัยอย่างเข้มข้น บทความนี้จะนำเสนอแนวคิดและเทคนิคที่สำคัญจากงานของ Bailey ที่จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Life’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/5dz4y5by

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/4865u8ww

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/giU0NriUgEA

จอดรถที่ไหน ล็อกรถหรือยัง เกิดอุบัติเหตุโทรหาใครดี หมดกังวลด้วยแอปอัจฉริยะ NissanConnect Services เวอร์ชั่นอัพเดต 

เคยไหมที่คุณรีบมากจนลืมว่า ล็อกรถหรือยัง รถจอดตรงไหน หรือกลัวว่าไม่รู้จะขอความช่วยเหลือจากใครหากเกิดอุบัติเหตุ  ถ้าใช่ คนยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟ ชอบใช้ชีวิตอิสระเต็มที่อย่างคุณ อาจจะต้องการรถยนต์ที่มาพร้อมนวัตกรรมซึ่งเพิ่มความสะดวกสบาย อุ่นใจและปลอดภัยช่วยให้คุณใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการโดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องเหล่านี้ 

นิสสัน อัลเมร่า รุ่นปี 2024 ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ มาพร้อมกับแอป NissanConnect Services* เวอร์ชั่นอัพเดต และกุญแจอัจฉริยะที่มีระบบล็อก และปลด ล็อกอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุม หรือสั่งการรถได้จากระยะไกล ได้ง่ายๆ ส่วนฟีเจอร์ SOS ยังให้ความอุ่นใจว่ามีคนคอยให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉินตลอดเวลา 

แอปอัจฉริยะ NissanConnect Services เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถสื่อสารกับรถยนต์ และสั่งการต่างๆ ได้ผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่  แอปนี้จึงมีส่วนสำคัญที่ทำให้นิสสัน อัลเมร่า ซีดานสไตล์สปอร์ตถูกใจใครหลายๆ คน

ถ้าถามว่า NissanConnect Services ทำอะไรได้บ้าง  ข้อแรกผู้ที่ได้ลองขับนิสสัน อัลเมร่า ชื่นชอบ คือ การควบคุมระยะไกลหลากหลายระบบที่กดเลือกได้ในสมาร์ทโฟน เช่น ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์ระยะไกล ช่วยอุ่นเครื่องยนต์ และเปิดแอร์ให้พร้อมเดินทางได้ทันที โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อน เปิดประตูรถมาเจอแอร์เย็นๆ ทันทีไม่ต้องนั่งรอไล่ลมร้อนหลายนาที ชีวิตจะดีขึ้นได้ในพริบตา

ส่วนระบบตรวจสอบสถานะการล็อกประตู สั่งล็อก หรือปลดล็อกรถยนต์ระยะไกล สามารถกดดูจากสมาร์ทโฟนได้เช่นกัน ว่าล็อกรถหรือยัง หรือกดสั่งล็อกหรือปลดล็อกประตูรถยนต์ได้จากทุกที่ทุกเวลาผ่านแอป ช่วยตัดความกังวล และเพิ่มความสะดวกสำหรับคนแอคทีฟ ต้องทำอะไรหลายอย่างพร้อมๆ กัน  

อีกหนึ่งปัญหาที่คนขับรถทุกคนเจอ คือ จำไม่ได้ว่าจอดรถไว้ตรงไหน แอปนี้ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นมากๆ เพราะสามารถกดระบบสั่งกะพริบไฟหน้า และระบบแตร ระยะไกล ช่วยค้นหารถด้วยไฟกะพริบ และเสียงแตรสั้น ๆ หรือสั่งเฉพาะไฟกะพริบในสถานที่งดใช้เสียงได้ ส่วน ระบบค้นหาตำแหน่งรถ (My Car Finder)  ช่วยค้นหาตำแหน่งรถยนต์ในพื้นที่ขนาดใหญ่หรือที่ที่ไม่คุ้นเคย และนำทางไปยังรถได้ง่ายๆ ไม่ต้องเดินวนแล้ววนอีก 

อีกหนึ่งจุดเด่นของแอป  NissanConnect Services คือ ระบบ SOS ที่นิสสันนำมาให้บริการเป็นครั้งแรกในเซ็กเมนต์นี้ โดยเมื่อประสบเหตุไม่คาดฝัน เกิดอุบัติเหตุ หรือต้องการความช่วยเหลือขณะเดินทาง ผู้ขับขี่สามารถกดปุ่ม SOS ที่แผงหน้าปัด เพื่อขอความช่วยเหลือจากศูนย์ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ทันทีผ่านระบบเครื่องเสียงในรถยนต์  

นอกจากนี้ นิสสัน อัลเมร่า รุ่นปี 2024 ยังยกระดับความสะดวกสบาย และความปลอดภัยไปพร้อมกัน ด้วยกุญแจอัจฉริยะที่มาพร้อมกับระบบล็อก/ปลดล็อกอัตโนมัติ  เมื่อเข้าใกล้หรือออกห่างจากตัวรถ เพียงจอดรถ ผู้ขับขี่สามารถเดินไปทำธุระได้เลย เพราะระบบอัจฉริยะของนิสสันจะช่วยล็อกรถให้โดยอัตโนมัติ 

และเมื่อผู้ขับขี่เดินกลับมาที่รถ กุญแจอัจฉริยะจะส่งสัญญาณปลดล็อกให้เอง  สะดวกสบายเมื่อต้องถือของเต็มมือ โดยไม่ต้องกดปุ่มที่ประตู และป้องกันการลืมล็อกรถ ซึ่งฟีเจอร์นี้จะมีในรุ่น V และ VL

คราวนี้ ไม่ว่าคุณจะไปทำธุระ ซื้อของ ไปเที่ยวชิลล์ๆ กับครอบครัวหรือแก๊งเพื่อนในวันว่าง เส้นทางไหน ๆ ก็สะดวก สบาย ปลอดภัย และอุ่นใจ เพราะ NissanConnect Services จะคอยดูแลเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ และยังสะท้อนการขับขี่แห่งอนาคตที่ผสมผสานการขับขี่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว  

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนิสสัน อัลเมร่า และฟีเจอร์ต่างๆ ได้ที่ https://www.nissan.co.th/vehicles/new-vehicles/new-almera.html หรือติดต่อผู้แทนจำหน่ายนิสสันทั่วประเทศ

กลุ่มบุญรอดฯ คว้ารางวัล HR ASIA หนึ่งในองค์กรที่น่าร่วมงานของเอเชีย ต่อเนื่อง 4 ปี

บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด คว้ารางวัล “HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2024” หนึ่งในองค์กรที่น่าทำงานที่สุดในระดับเอเชียติดต่อกันเป็นปีที่ 4 จาก HR Asia นิตยสารชั้นนำด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาคเอเชีย

โดยประเมินจากคะแนนรวมสูงสุด 3 ด้าน ได้แก่ รับฟังการมีส่วนร่วมของพนักงาน, ดูแลเอาใจใส่ สร้างบรรยากาศที่เหมาะสมในการทำงาน และวัฒนธรรมการทำงานเป็นทีม ซึ่งบริษัทบุญรอดฯ ย้ำวิสัยทัศน์ Bringing Joy to Life ให้ความสำคัญกับการสร้างคนและดูแลคนให้มีความสุข เพื่อขับเคลื่อนองค์กรเติบโตได้อย่างมั่นคง ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมอย่างยั่งยืน

คุณสุนิษฐ์ สก๊อต Deputy Group Director – Corporate Capability Development บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า “ตลอดระยะเวลา 91 ปี  กลุ่มบุญรอดฯ มุ่งเน้นการสนับสนุนและพัฒนาบุคลากร ซึ่งหนึ่งในวัฒนธรรมองค์กรที่ทำให้เราเติบโตอย่างแข็งแรง คือ ‘การสร้างคน’

เนื่องจากตระหนักดีว่าคนคือทรัพยากรที่สำคัญที่สุด การสร้างคนให้เก่งและเป็นคนดีของสังคม ด้วยการส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างรอบด้าน การมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม รวมถึงเอาใจใส่คุณภาพชีวิตของพนักงานในทุกมิติ เป็นสิ่งที่บริษัทฯได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด จนกลายเป็น Singha way หรือ วิถีแห่งสิงห์ที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมอย่างยั่งยืน”

สำหรับรางวัล “HR Asia Best Companies to Work for in Asia” จัดโดยนิตยสาร HR Asia เป็นโครงการมอบรางวัลให้แก่องค์กรที่ได้รับการยอมรับจากพนักงานว่าน่าทำงานที่สุดในระดับภูมิภาคเอเชีย โดยในปี 2024 กลุ่มบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด มีค่าเฉลี่ยคะแนนรวมสูงสุด จากองค์กรไทยที่เข้าร่วมกว่า 298 องค์กร

ในการประเมินทั้ง 3 ด้าน คือ การบริหารจัดการภายในองค์กรที่ดีเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน(CORE) ค่าเฉลี่ย 4.16 การดูแลเอาใจใส่และสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมในการทำงาน(SELF) ค่าเฉลี่ย 4.33 และการส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานเป็นทีม(GROUP) ค่าเฉลี่ย 4.46 ซึ่งทั้งหมดถือเป็นการยืนยันการเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการสร้างคนอย่างมั่นคง สนับสนุนโอกาสเติบโตของพนักงาน และตอกย้ำการเป็นองค์กรที่น่าทำงานในระดับเอเชีย 4 ปีซ้อน นับตั้งแต่ปี 2021 จนถึงปัจจุบัน