หลายคนอาจรู้สึกว่าตนเองกำลังสูญเสียแรงจูงใจไป แต่ความจริงแล้ว เราไม่ได้สูญเสียแรงจูงใจ เพราะแรงจูงใจไม่ใช่สิ่งที่เราเป็นเจ้าของตั้งแต่แรก แรงจูงใจเป็นทักษะที่เราสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ บทความนี้จะนำเสนอเคล็ดลับในการสร้างและรักษาแรงจูงใจ โดยอ้างอิงจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
เป็นข้อมูลที่น่าสนใจจากเวที Ted Talks โดย Ayelet Fishbach ศาสตราจารย์ด้านพฤติกรรมศาสตร์และการตลาดจาก University of Chicago ที่มาแบ่งปันเคล็ดลับที่ได้รับการสนับสนุนจากการวิจัยเกี่ยวกับแรงบันดาลใจกว่า 20 ปี โดยนำเสนอวิธีการง่าย ๆ เกี่ยวกับวิธีเพิ่มประสิทธิภาพเป้าหมายของเรา เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความสำเร็จ และหลีกเลี่ยงการผัดวันประกันพรุ่งที่ล่อตาล่อใจเรา
เข้าใจธรรมชาติของแรงจูงใจ
แรงจูงใจไม่ใช่เรื่องของความแข็งแกร่งทางจิตใจ แต่เป็นเรื่องของทักษะ แม้เราไม่สามารถบังคับตัวเองให้มีแรงจูงใจได้ แต่เราสามารถเรียนรู้วิธีการสร้างสภาพแวดล้อมและสภาวะทางจิตใจที่เอื้อต่อการเกิดแรงจูงใจได้
การสร้างแรงจูงใจเริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายที่เหมาะสม เป้าหมายที่ดีควรมีแรงจูงใจภายใน นั่นคือ เราควรตื่นเต้นกับกระบวนการทำงานเพื่อไปสู่เป้าหมายนั้น ไม่ใช่แค่ตื่นเต้นกับผลลัพธ์สุดท้ายเท่านั้น
งานวิจัยพบว่า เป้าหมายส่วนใหญ่ถูกละทิ้งไม่ใช่เพราะมันไม่สำคัญ แต่เป็นเพราะผู้คนไม่สนุกกับการไล่ตามมัน ความสนุกเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำนายว่าเราจะยึดมั่นกับเป้าหมายหรือไม่ ดังนั้น เมื่อตั้งเป้าหมาย ให้พิจารณาว่าคุณจะสนุกกับกระบวนการทำงานเพื่อไปถึงเป้าหมายนั้นหรือไม่
เอาชนะปัญหาตรงกลาง
แรงจูงใจมักจะสูงเมื่อเราเพิ่งเริ่มต้นทำอะไรบางอย่างและเมื่อใกล้จะถึงจุดสิ้นสุด แต่มักจะลดลงในช่วงกลาง นี่เรียกว่า “ปัญหาตรงกลาง (Middle Problem)” วิธีแก้ปัญหานี้คือการทำให้ช่วงกลางสั้นลง
ตัวอย่างเช่น การตั้งเป้าหมายการออกกำลังกายเป็นรายเดือน รายสัปดาห์ หรือแม้แต่รายวัน จะทำให้เรารู้สึกว่าใกล้ถึงจุดสิ้นสุดอยู่เสมอ ทำให้รักษาแรงจูงใจได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ เมื่อเผชิญกับอุปสรรคในช่วงกลาง วิธีที่ฉลาดคือการนำอีโก้ของเราออกไปจากสมการ เมื่อเรานำอีโก้ออกไป การเรียนรู้จะง่ายขึ้น เราสามารถมองความล้มเหลวเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา แทนที่จะรู้สึกท้อแท้หรือสิ้นหวัง
มองหาความไม่สบายชั่วคราว
แทนที่จะพยายามหลีกเลี่ยงความไม่สบาย ให้มองหาความไม่สบายชั่วคราว เพราะมันเป็นสัญญาณของการเติบโตและพัฒนา คำว่า “ไม่มีความเจ็บปวด ไม่มีความก้าวหน้า” ไม่ได้ใช้ได้เฉพาะกับการออกกำลังกายเท่านั้น แต่เป็นกลยุทธ์การสร้างแรงจูงใจที่ใช้ได้ทั่วไป
ในการศึกษาที่ทำกับชมรมการแสดงด้นสด The Second City พบว่าเมื่อทำให้สมาชิกให้รู้สึกอึดอัดและไม่สบายขณะทำการฝึก พวกเขากลับมีความกล้ามากขึ้น อยู่บนเวทีนานขึ้น และพัฒนาตัวเองมากขึ้น
สร้างสมดุลระหว่างเป้าหมายต่าง ๆ
ในชีวิตจริง เรามักมีหลายเป้าหมายพร้อมกัน เช่น การสร้างสมดุลระหว่างงานและครอบครัว แทนที่จะมองว่าเป้าหมายเหล่านี้ขัดแย้งกัน ให้มองว่ามันสามารถสร้างสมดุลและเสริมซึ่งกันและกันได้
ลองนึกถึงเป้าหมายของเราเหมือนจานอาหารรอบโต๊ะบุฟเฟ่ต์ เราสามารถสร้างการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบได้ บางทีอาจออกกำลังกายระหว่างทางไปทำงานและฟังพอดแคสต์ไปพร้อมกัน การหาความสมดุลและความกลมกลืนที่เหมาะสมจะช่วยให้เรารักษาแรงจูงใจในการทำเป้าหมายต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
จัดการกับสิ่งยั่วยุ
เป้าหมายบางอย่างอาจเป็น “สิ่งยั่วยุ” ที่ขัดขวางเป้าหมายหลักของเรา แทนที่จะพยายามผลักไสมันออกจากความคิด วิธีที่ฉลาดกว่าคือการคาดการณ์ล่วงหน้า เมื่อเราคาดการณ์ถึงสิ่งยั่วยุที่อาจเกิดขึ้น เราจะสามารถควบคุมตัวเองได้ดีขึ้นเมื่อเผชิญหน้ากับมันจริง ๆ
ตัวอย่างเช่น ในการศึกษาหนึ่ง เมื่อเตือนพนักงานถึงทุกครั้งที่พวกเขาคิดที่จะนำอุปกรณ์สำนักงานไปใช้ส่วนตัว พวกเขามีแนวโน้มที่จะทำเช่นนั้นน้อยลง
ใช้ประโยชน์จากการสนับสนุนทางสังคม
เพื่อน ครอบครัว และคนรอบข้างมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแรงจูงใจของเรา ในขณะเดียวกัน เราก็มีความสำคัญต่อพวกเขาเช่นกัน
ตัวอย่างที่น่าสนใจคือครอบครัว Marie Curie ที่ได้รับรางวัลโนเบลถึง 4 รางวัล Marie Curie ไม่เพียงแต่พบคู่ชีวิตอย่าง Pierre Curie เท่านั้น แต่เธอยังพบผู้ที่ผลักดันให้เธอประสบความสำเร็จในงานวิจัย และยืนกรานให้เธอได้รับการยอมรับอย่างเท่าเทียม ครอบครัว Curie แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการได้รับแรงสนับสนุนจากครอบครัวเพื่อไล่ตามเป้าหมาย
ในชีวิตประจำวัน เราทำงานร่วมกับผู้อื่น มีเป้าหมายร่วมกัน และสนับสนุนซึ่งกันและกัน การตระหนักถึงความสำคัญของการสนับสนุนทางสังคมนี้จะช่วยเสริมสร้างแรงจูงใจของเราได้
บทสรุป
แรงจูงใจไม่ใช่สิ่งที่เราสูญเสียไป แต่เป็นทักษะที่เราสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ ด้วยความเข้าใจในธรรมชาติของแรงจูงใจ การตั้งเป้าหมายที่เหมาะสม การจัดการกับปัญหาตรงกลาง การมองหาความไม่สบายชั่วคราว การสร้างสมดุลระหว่างเป้าหมายต่าง ๆ การจัดการกับสิ่งยั่วยุ และการใช้ประโยชน์จากการสนับสนุนทางสังคม เราสามารถสร้างและรักษาแรงจูงใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อคุณรู้สึกท้อแท้หรือขาดแรงจูงใจ จงจำไว้ว่า แรงจูงใจไม่ใช่เรื่องของความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจ แต่เป็นเรื่องของทักษะที่สามารถสร้างได้ และด้วยความรู้และเครื่องมือที่เหมาะสม เราทุกคนมีความสามารถในการสร้างแรงจูงใจให้กับตัวเองได้แบบไม่มีวันหมด
References :
How to Set the Right Goals and Stay Motivated | Ayelet Fishbach | TED
https://youtu.be/g3CvsPAF3_0?si=PylSvYTrtiyQY1zG