คุณเคยรู้สึกเหมือนกำลังติดอยู่ในวังวนของความคิดที่ไม่มีที่สิ้นสุดหรือไม่? คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมบางครั้งเราถึงรู้สึกเครียด โกรธ หรือวิตกกังวลโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน? ถ้าคุณเคยประสบกับความรู้สึกเหล่านี้ คุณไม่ได้อยู่คนเดียว หนังสือ “Don’t Believe Everything You Think: Why Your Thinking Is The Beginning & End Of Suffering” โดย Joseph Nguyen อาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยคุณหลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์นี้
ในบทความนี้ เราจะพาคุณเดินทางผ่านแนวคิดหลักของหนังสือเล่มนี้ เพื่อค้นหาวิธีปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการของความคิดที่ไม่จำเป็น และก้าวสู่ชีวิตที่มีความสุขและสงบสุขมากขึ้น
ต้นตอของความทุกข์: เมื่อความคิดกลายเป็นศัตรู
เคยสังเกตไหมว่าบางครั้งเรารู้สึกเจ็บปวดทั้งๆ ที่ร่างกายไม่ได้บาดเจ็บอะไร? นี่คือสิ่งที่เรียกว่า “ความทุกข์ทางใจ” ซึ่งแตกต่างจากความเจ็บปวดทางกายที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความทุกข์ทางใจนั้น เราสามารถควบคุมและจัดการได้
Joseph Nguyen เล่าถึงประสบการณ์ของเขาในการค้นหาความสุขผ่านการ training การสัมมนาด้านจิตวิญญาณ โยคะ และการทำสมาธิ แต่กลับพบว่าความกังวลและปัญหาของเขายังคงอยู่ จนกระทั่งเขาได้พบกับครูด้านจิตวิญญาณที่เปิดเผยความจริงอันน่าทึ่ง: ต้นตอของความทุกข์ทั้งหมดอยู่ในจิตใจของเราเอง
ลองนึกภาพเหตุการณ์ที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ อาจเป็นการทะเลาะกับเพื่อน หรือการพลาดโอกาสสำคัญในการทำงาน สิ่งที่ทำให้เราทุกข์ไม่ใช่เหตุการณ์นั้นๆ แต่เป็นวิธีที่เราตีความและคิดเกี่ยวกับมัน เปรียบเสมือนลูกศรสองดอก ดอกแรกคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนดอกที่สองคือปฏิกิริยาทางอารมณ์ของเราต่อเหตุการณ์นั้น
เช่น เมื่อเพื่อนยกเลิกนัดกะทันหัน บางคนอาจรู้สึกโกรธและคิดว่าเพื่อนไม่ให้ความสำคัญกับตน ในขณะที่บางคนอาจมองว่าเป็นโอกาสที่จะได้ใช้เวลากับตัวเองมากขึ้น ความแตกต่างนี้ไม่ได้อยู่ที่เหตุการณ์ แต่อยู่ที่วิธีคิดของแต่ละคน
การคำนึงถึงพลังของความคิดเป็นก้าวแรกในการควบคุมอารมณ์และความรู้สึกของเรา เมื่อเราเข้าใจว่าความคิดของเราสามารถสร้างหรือทำลายความสุขได้ เราจะเริ่มมีอำนาจในการเลือกว่าจะตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ อย่างไร
ทำไมเราถึงคิด? เข้าใจกลไกของจิตใจ
คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมบางครั้งเราถึงคิดวนเวียนกับเรื่องเดิมๆ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์? คำตอบอยู่ที่วิวัฒนาการของสมองมนุษย์ สมองของเราถูกออกแบบมาให้คิดเพื่อความอยู่รอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคิดถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น นักจิตวิทยาเรียกสิ่งนี้ว่า “อคติด้านลบ (Negativity Bias)”
ลองนึกถึงบรรพบุรุษของเราที่ต้องเผชิญกับอันตรายรอบตัว การคิดถึงสถานการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นช่วยให้พวกเขาเตรียมพร้อมและรับมือได้ดีขึ้น แต่ในโลกปัจจุบันที่เราไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกสัตว์ร้ายไล่ล่าอีกต่อไป กลไกนี้กลับกลายเป็นตัวสร้างความเครียดและวิตกกังวลโดยไม่จำเป็น
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเราควรหยุดคิดโดยสิ้นเชิง การคิดยังคงมีประโยชน์ในหลายสถานการณ์ เช่น การวางแผนอนาคต หรือการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน สิ่งสำคัญคือการรู้จักสมดุลระหว่างการคิดที่เป็นประโยชน์กับการปล่อยวางความคิดที่ไม่จำเป็น
ความแตกต่างระหว่างความคิดและการคิด: กุญแจสู่การควบคุมจิตใจ
หลายคนอาจสับสนระหว่างคำว่า “ความคิด (thoughts)” และ “การคิด (thinking)” แต่ความเข้าใจในความแตกต่างนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมจิตใจของเรา
ความคิดเปรียบเสมือนเมฆที่ลอยผ่านท้องฟ้า มันเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ บางครั้งอาจเป็นความคิดดีๆ บางครั้งอาจเป็นความคิดที่ไม่พึงประสงค์ แต่ส่วนใหญ่แล้วมันเป็นกลาง ไม่ดีหรือไม่เลวจนกว่าเราจะให้ความหมายกับมัน
ในทางกลับกัน การคิดเป็นกระบวนการที่เราเลือกจะมีส่วนร่วมกับความคิดเหล่านั้น เป็นการวิเคราะห์ ไตร่ตรอง หรือครุ่นคิดเกี่ยวกับความคิดที่เกิดขึ้น นี่คือส่วนที่เราสามารถควบคุมได้
ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณกำลังเดินอยู่บนถนนและเห็นคนแปลกหน้าเดินสวนมา ความคิดแรกที่เกิดขึ้นอาจเป็น “คนนี้ดูน่ากลัว” นี่คือความคิดที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่สิ่งที่คุณทำต่อจากนั้นคือการคิด คุณอาจเลือกที่จะคิดต่อว่า “เขาอาจเป็นอันตราย ฉันควรข้ามถนนหนีดีกว่า” หรือคุณอาจคิดว่า “นี่เป็นแค่อคติของฉันเอง ฉันไม่ควรตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก”
การแยกแยะระหว่างความคิดและการคิดช่วยให้เราเห็นว่าเรามีทางเลือกมากกว่าที่คิด แม้เราไม่สามารถควบคุมความคิดที่ผุดขึ้นมาได้ แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะตอบสนองต่อความคิดเหล่านั้นอย่างไร
เมื่อเราเข้าใจความแตกต่างนี้ เราจะเริ่มมีอิสระมากขึ้นจากความคิดที่ไม่พึงประสงค์ เราสามารถเลือกที่จะไม่ให้ความสนใจกับความคิดบางอย่าง และเลือกที่จะมีส่วนร่วมกับความคิดที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์
การหยุดคิด: ศิลปะแห่งการปล่อยวาง
การพยายามหยุดคิดอาจฟังดูเหมือนเป็นเรื่องยาก หรือแทบเป็นไปไม่ได้ แต่ Joseph Nguyen เสนอว่า การหยุดคิดไม่ได้หมายถึงการทำให้จิตใจว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะไม่ยึดติดกับความคิดที่ผ่านเข้ามา
ลองนึกภาพจิตใจของคุณเป็นเหมือนท้องฟ้า และความคิดคือเมฆที่ลอยผ่านไปมา แทนที่จะพยายามกำจัดเมฆทั้งหมด (ซึ่งเป็นไปไม่ได้) เราสามารถเรียนรู้ที่จะเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ มองดูเมฆลอยผ่านไปโดยไม่ต้องพยายามจับมันไว้หรือผลักไสมันออกไป
วิธีการหนึ่งที่ Joseph แนะนำคือการฝึกสติ (Mindfulness) ซึ่งเป็นการฝึกให้จิตใจอยู่กับปัจจุบัน โดยไม่วิพากษ์วิจารณ์หรือตัดสินสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการหายใจลึกๆ และให้ความสนใจกับลมหายใจของคุณ เมื่อคุณสังเกตว่าจิตใจเริ่มวอกแวกไปคิดเรื่องอื่น ให้ค่อยๆ นำความสนใจกลับมาที่ลมหายใจอีกครั้ง
อีกวิธีหนึ่งคือการใช้เทคนิค “การสังเกตความคิด” เมื่อคุณพบว่าตัวเองกำลังคิดมาก ให้ลองถอยออกมาและมองความคิดเหล่านั้นอย่างเป็นกลาง เหมือนกำลังดูภาพยนตร์ สังเกตว่าความคิดนั้นๆ ทำให้คุณรู้สึกอย่างไร แต่ไม่ต้องพยายามเปลี่ยนแปลงหรือต่อสู้กับมัน
การฝึกฝนเทคนิคเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณค่อยๆ สร้างระยะห่างระหว่างตัวคุณกับความคิดของคุณ ทำให้คุณสามารถเลือกได้ว่าจะตอบสนองต่อความคิดอย่างไร แทนที่จะถูกความคิดควบคุม
การเติบโตโดยไม่ต้องคิด: ค้นพบพลังของ Flow State
คุณเคยมีประสบการณ์ที่รู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วในขณะที่คุณทำงานหรือทำกิจกรรมที่คุณชื่นชอบหรือไม่? นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า “Flow State” ซึ่งเป็นสภาวะที่คุณมีสมาธิจดจ่ออย่างเต็มที่กับสิ่งที่กำลังทำ จนลืมเวลาและความคิดอื่นๆ ไปชั่วขณะ
Joseph Nguyen เสนอว่า Flow State นี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการดำเนินชีวิตโดยไม่ต้องคิดมากเกินไป ในสภาวะนี้ เราไม่ได้หยุดคิดโดยสิ้นเชิง แต่เราปล่อยให้ความคิดและการกระทำเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์หรือตัดสินตัวเอง
ลองนึกถึงนักกีฬาที่กำลังแข่งขันในระดับสูงสุด พวกเขาไม่มีเวลามานั่งคิดวิเคราะห์ทุกการเคลื่อนไหว แต่พวกเขาใช้ทักษะและประสบการณ์ที่ฝึกฝนมาอย่างหนักเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์อย่างฉับไว นี่คือตัวอย่างของการทำงานโดยไม่ต้องคิดมากเกินไป
แล้วเราจะนำแนวคิดนี้มาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร? Joseph แนะนำให้เราฝึกการอยู่กับปัจจุบันในทุกๆ กิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การออกกำลังกาย หรือแม้แต่การทำงานบ้าน แทนที่จะคิดถึงอดีตหรือกังวลเกี่ยวกับอนาคต ให้มุ่งความสนใจไปที่สิ่งที่กำลังทำอยู่ตรงหน้า
การฝึกฝนเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ยังช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลที่มักเกิดจากการคิดมากเกินไป ทำให้เราสามารถเติบโตและพัฒนาตัวเองได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ไม่มีอะไรดีหรือไม่ดีโดยธรรมชาติ: เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนชีวิต
หนึ่งในแนวคิดที่น่าสนใจที่สุดใน “อย่าเชื่อทุกสิ่งที่คุณคิด” คือการท้าทายความเชื่อที่ว่าสิ่งต่างๆ มีคุณค่าในตัวเอง Joseph Nguyen เสนอว่า ไม่มีสิ่งใดที่ดีหรือไม่ดีโดยธรรมชาติ แต่เป็นความหมายที่เราให้กับมันต่างหาก
ลองคิดถึงเหตุการณ์ที่คุณเคยประสบมา เช่น การสูญเสียงาน ในตอนแรก คุณอาจรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องเลวร้าย แต่หลังจากผ่านไปสักพัก คุณอาจพบว่านี่เป็นโอกาสที่จะได้ค้นพบเส้นทางอาชีพใหม่ที่เหมาะสมกับคุณมากกว่า สิ่งที่เปลี่ยนไปไม่ใช่เหตุการณ์ แต่เป็นมุมมองของคุณต่อมัน
การเข้าใจแนวคิดนี้สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีที่เรามองโลกและตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างสิ้นเชิง แทนที่จะด่วนตัดสินว่าอะไรดีหรือไม่ดี เราสามารถเลือกที่จะมองสถานการณ์อย่างเป็นกลางมากขึ้น และพิจารณาว่าเราจะตอบสนองต่อมันอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
การฝึกมองโลกในแง่นี้ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องมองทุกอย่างในแง่ดีตลอดเวลา แต่เป็นการเปิดใจให้กว้างขึ้น ยอมรับว่าทุกสถานการณ์มีหลายแง่มุม และเราสามารถเลือกมุมมองที่เป็นประโยชน์ต่อการเติบโตและความสุขของเราได้
บทสรุป: เส้นทางสู่ความสุขที่แท้จริง
“อย่าเชื่อทุกสิ่งที่คุณคิด (Don’t Believe Everything You Think)” ไม่ใช่เพียงแค่ชื่อหนังสือ แต่เป็นคำเตือนใจที่ทรงพลัง มันเตือนเราว่าความคิดของเราไม่ใช่ความจริงเสมอไป และบ่อยครั้งที่ความคิดเหล่านั้นสร้างความทุกข์ให้กับเราโดยไม่จำเป็น
Joseph Nguyen ไม่ได้แนะนำให้เราหยุดคิดโดยสิ้นเชิง แต่เขาเชิญชวนให้เราพิจารณาความคิดของเราอย่างมีวิจารณญาณมากขึ้น ให้เราเรียนรู้ที่จะแยกแยะระหว่างความคิดที่เป็นประโยชน์กับความคิดที่สร้างความทุกข์ และฝึกฝนการอยู่กับปัจจุบันมากขึ้น
การเดินทางสู่ความสุขที่แท้จริงไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน มันต้องอาศัยความอดทน การฝึกฝน และความเข้าใจตนเอง แต่ด้วยเครื่องมือและแนวคิดที่ Joseph นำเสนอในหนังสือเล่มนี้ เราสามารถเริ่มต้นการเดินทางนี้ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
สุดท้ายนี้ ขอให้เราจดจำไว้ว่า ความสุขที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การควบคุมทุกสิ่งรอบตัวให้เป็นไปตามที่เราต้องการ แต่อยู่ที่การเรียนรู้ที่จะยอมรับสิ่งต่างๆ ตามที่มันเป็น และเลือกที่จะตอบสนองต่อมันด้วยปัญญาทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น
การเปลี่ยนแปลงวิธีคิดของเราอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันคุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะมันไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา แต่ยังส่งผลกระทบในทางบวกต่อทุกคนรอบตัวเราด้วย ดังนั้น ลองเริ่มต้นวันนี้ด้วยการตั้งคำถามกับความคิดของคุณ และเปิดใจรับความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่อาจนำพาคุณไปสู่ความสุขที่แท้จริง
References :
หนังสือ Don’t Believe Everything You Think: Why Your Thinking Is The Beginning & End Of Suffering โดย Joseph Nguyen