Techsauce Global Summit 2024 งานประชุมสุดยอดด้านเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 – 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ได้ปิดฉากลงอย่างสวยงาม ตอกย้ำความมุ่งหมายการปั้นไทยเป็น Tech Gateway แห่งภูมิภาค

ท่ามกลางความร่วมมือจากเครือข่ายพันธมิตรในไทยและระดับนานาชาติ ที่ร่วมเปิดโลกเทคโนโลยีสุดล้ำ ผ่านธีม ‘The World of Tomorrow with AI’ ชูประเด็นสำคัญด้าน AI ที่จะขับเคลื่อนอนาคตของโลก ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 วันเต็ม ได้กลายเป็นศูนย์รวมแห่งสตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการ บุคคลากรด้านเทคโนโลยีและบุคคลทั่วไป ที่เข้าเยี่ยมชมงานกว่า 18,000 คน จาก 60 ประเทศทั่วโลกโดยสัดส่วนกว่า 30% เป็นชาวต่างชาติ

และนักลงทุนจากต่างประเทศโดยในโซน Business Matching ในปีนี้ ก็เปิดพื้นที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยให้เกิดดีลทางธุรกิจ กว่า 1,500 ดีล Techsauce ยังปิดท้ายงานอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการมอบรางวัล Techsauce Awards 2024 ให้กับบุคคลากร บริษัท และ สตาร์ทอัพแห่งวงการเทคโนโลยี ธุรกิจ และนวัตกรรม ที่มีผลงานโดดเด่น สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อวงการ และร่วมขับเคลื่อน Tech Ecosystem ในประเทศไทยอีกจำนวนมาก

ที่สุดของการเปิดโลก “The World of Tomorrow with AI” ในปีนี้ ต้องขอยกให้กับการมาปรากฏตัวของ Ameca หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์สุดล้ำ เป็นครั้งแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้มาโชว์ความสามารถผ่านการสนทนาโต้ตอบอย่างชาญฉลาดกับผู้เข้าร่วมงานอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ Techsauce Global Summit ยังได้เปิดพื้นที่เชื่อมโยงเทรนด์แห่งเทคโนโลยีไว้อย่างครบครัน ด้วยการผนึกกำลัง Speaker ผู้ทรงคุณวุฒิจากทั่วโลกกว่า 350 ท่าน ที่ได้มาร่วมแชร์แนวคิดและองค์ความรู้ที่อัดแน่น บนเวทีหลักและเวทีสัมมนารวม 11 เวที อีกทั้งยังมีกิจกรรมเวิร์กช้อป และ Master Class ที่มอบประสบการณ์ตรงจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริง

ช่วงท้ายของงาน คือการประกาศรางวัล Techsauce Awards 2024 เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริม Tech Ecosystem ในประเทศไทย เชิดชูเกียรติและผลงานของบุคคล บริษัท และสตาร์ทอัพ ที่ได้สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม และเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ที่สนใจในสายงานเทคโนโลยี โดยปีนี้มีการมอบรางวัลทั้งหมด 10 สาขา รวม 29 รางวัล ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1) รางวัล The Startup Backbone จำนวน 5 รางวัล ได้แก่

• บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด
• บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด 
• สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ NIA 
• สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ depa 
• บริษัท ทรู ดิจิทัล พาร์ค จำกัด 

2) รางวัล Tech Woman of The Year จำนวน 1 รางวัล ได้แก่

• ปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ Accenture ประเทศไทย 

3) รางวัล The Sauciest Influencer จำนวน 2 รางวัล ได้แก่

• นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและบรรณาธิการบริหาร The Standard 
• ธนา เธียรอัจฉริยะ เพจ เขียนไว้ให้เธอ

4) รางวัล The Sauciest Regulator จำนวน 1 รางวัล ได้แก่

• สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ETDA

5) รางวัล The Sauciest Leader จำนวน 4 รางวัล ได้แก่

• สาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
• เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่ม บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป
• อาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCBX 
• จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

6) รางวัล The Sauciest Startup จำนวน 1 รางวัล 

บริษัท อะมิตี้ โซลูชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด 

• เคง เถ็ก ก๋วย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท (Group CEO, Amity Solutions)
• ทัชพล ไกรสิงขร กรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง (Group CTO and Head of AI Labs, Amity Solutions)

7) รางวัล The Sauciest Corporate จำนวน 2 รางวัล ได้แก่

• บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) บริษัท
• บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 

8) รางวัล The Sauciest Investor จำนวน 1 รางวัล 

• ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ EfraStructure 

9) รางวัล The Sauciest Founder จำนวน 1 รางวัล 

• เจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง FINNOMENA Group 

10) รางวัล Techsauce Innovation Awards จำนวน 11 รางวัล

• ADA biotech
• Advanced Health Intelligence (ahi)
• Algal Bio
• ARASOFT CO., LTD.
• Big terra
• Gogolook
• HUMANICA PUBLIC COMPANY LIMITED
• On-us Company Limited
• SCB10X
• Upwind security
• Vintom

คุณอรนุช เลิศสุวรรณกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด กล่าวส่งท้ายว่า “Techsauce ต้องขอขอบพระคุณพันธมิตรทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมทำให้งาน Techsauce Global Summit 2024 สำเร็จลุล่วงอย่างยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับในทุกๆ ปีที่ผ่านมา

ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งหมายของเราในฐานะ Tech Ecosystem Builder ที่ต้องการยกระดับการจัดงาน Techsauce Global Summit ด้วยอุดมการณ์ในการสร้าง Tech Ecosystem ที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ เราพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าขยายศักยภาพสู่การเป็นผู้ขับเคลื่อนระบบนิเวศเทคโนโลยีระดับสากลอย่างเต็มรูปแบบ

ด้วยการเตรียมจัดงาน Techsauce Global Summit ในอีกสองประเทศใหญ่ในอาเซียนอย่าง อินโดนีเซีย และ เวียดนาม ในเดือนกันยายน และตุลาคมนี้ บนความมุ่งหวังที่จะผลักดันให้ประเทศไทยสู่การเป็น Tech Gateway ของภูมิภาคทั้งวันนี้และในอนาคต” 

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดตามรายละเอียด และบทสรุปเนื้อหาสำคัญจากเซสชั่นต่างๆ ที่อัดแน่นตลอด 3 วันเต็มได้ที่ https://techsauce.co/ และผู้ที่สนในเข้าร่วมงานที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 23 – 25 กันยายน สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://summit.techsauce.co/bali/ และรอติดตามข่าวสารเกี่ยวกับงานที่โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ได้เร็วๆ นี้ และยังสามารถดูรายละเอียดโครงการ Tech Gateway ได้ที่ https://techgateway.asia/

บุญรอดฯ ปลุกตลาดชาเขียวพรีเมี่ยมครึ่งปีหลัง เปิดตัวรสใหม่ “HARU Cold Brew Green Tea กลิ่น Jasmine” ชูเอกลักษณ์ความหอมขั้นกว่าของชามะลิที่กลมกล่อม นุ่ม ละมุน ด้วยกรรมวิธีสกัดเย็น (Cold Brew) แบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในไทย ที่ให้ความสำคัญด้านอุณหภูมิและเวลาสกัดนานกว่าชาทั่วไป 2 เท่า

ทำให้คงคุณประโยชน์ได้ดีกว่า ครบถ้วนด้วยคุณค่าของชาเขียวและสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังคงเอกลักษณ์กลิ่นหอมของใบชา พร้อมดึง Emotional Marketing สื่อสารผ่านคอนเซ็ปต์ Modern Japanese เจาะคนรุ่นใหม่ คนทำงานที่รักสุขภาพ

นายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล Chief Marketing Officer บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด และนายไกรพิท เปรมมณี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจไลฟ์สไตล์ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ร่วมทุนกับ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เพื่อเจาะตลาดเครื่องดื่มโดยโดยได้มีการเปิดตัว“ฮารุ โคลด์ บรูว์ กรีนที” (HARU Cold Brew Green Tea) ชาเขียวพร้อมดื่มพรีเมี่ยมออกมาทำตลาดและได้รับเสียงตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี

ขณะที่ตลาดชาเขียวพร้อมดื่มปัจจุบันมีมูลค่า 16,000 ล้านบาท ที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในตลาดพรีเมี่ยมมีสัดส่วนอยู่ราว 6% ก็มีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมาจากกระแสรักสุขภาพที่มาแรง ที่เป็นแรงผลักดันให้ตลาดมีการเติบโตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ล่าสุด บุญรอดฯ เดินหน้าบุกตลาดชาเขียวพร้อมดื่มพรีเมี่ยม เปิดตัวรสชาติใหม่ “HARU Cold Brew Green Tea กลิ่น Jasmine” โดยครั้งนี้ทางแบรนด์ได้เลือกหยิบเอากลิ่นมะลิ ซึ่งเป็นหนึ่งในชายอดนิยมของคนไทย มาถ่ายทอดเป็นกลิ่นใหม่ ชาเขียวกลิ่นมะลิ (Jasmine) ที่มีความหอมโดดเด่น โดยยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ HARU ในการเป็นชาพรีเมียมพร้อมดื่ม ที่ใช้กรรมวิธีแบบ Cold Brew

โดยกรรมวิธีนี้ เป็นการสกัดเย็น นานกว่าการสกัดแบบทั่วไปถึง 2 เท่า เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม และคงกลิ่นหอมของใบชาเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ที่ยังคงคุณประโยชน์ของชาได้ดีกว่า และกลิ่นหอม นุ่ม ละมุน 

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความแตกต่างไม่เหมือนใคร โดยจะเน้นการสื่อสารแบรนด์ด้วยการสร้างความแตกต่าง Emotional Marketing หรือการดึงเอาเอกลักษณ์ความเป็น Modern Japanese ซึ่งเป็นกระแสที่คนไทยชื่นชอบ ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบพรีเมี่ยม ตั้งแต่ตัวบรรจุภัณฑ์ กรรมวิธี ตลอดจนการสร้างประสบการณ์ในรูปแบบต่างๆ ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์

ปัจจุบันชาเขียวพร้อมดื่ม ฮารุ โคลด์ บรูว์ กรีนที มีทั้งสิ้น 3 สูตร ได้แก่ สูตรไม่มีน้ำตาล (Natural No Sugar), สูตรหวานน้อย (Mild Sweet), และรสชาติใหม่กลิ่นมะลิ (Jasmine) จำหน่าย ขวดละ 30 บาท ที่ช่องทาง 7-Eleven และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และ Singha Online Shop https://www.singhaonline.com/