ในโลกของเทคโนโลยีการค้นหาข้อมูลออนไลน์ เรากำลังจะได้เห็นผู้เล่นรายใหม่ในตลาดอย่าง “SearchGPT” ซึ่งเป็นผลงานล่าสุดของบริษัท OpenAI หนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของโลกเราในตอนนี้
SearchGPT ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าวงการการค้นหาข้อมูลออนไลน์ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างประสบการณ์การค้นหาที่รวดเร็ว แม่นยำ และตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
OpenAI ได้เปิดเผยว่า SearchGPT เป็นต้นแบบของระบบค้นหาที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการประมวลผลและนำเสนอข้อมูล โดยมีจุดเด่นคือการให้คำตอบที่รวดเร็วและทันสมัย พร้อมทั้งระบุแหล่งข้อมูลที่ชัดเจนและตรงประเด็น ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการค้นหาข้อมูลที่ต้องใช้ความพยายามมากและต้องลองหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ได้แสดงความเห็นว่ายังมีช่องว่างให้ปรับปรุงการค้นหาให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และเขารู้สึกประหลาดใจที่ชอบ SearchGPT มากกว่า “การค้นหาแบบดั้งเดิม (Google)” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจในศักยภาพของผลิตภัณฑ์ใหม่นี้
แม้ว่า SearchGPT จะเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจ แต่การเข้าสู่ตลาดการค้นหาข้อมูลออนไลน์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากมีคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Google ที่ครองส่วนแบ่งตลาดถึงประมาณ 90% ตามข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ นอกจากนี้ Google ยังมีรายได้มหาศาลจากธุรกิจการค้นหา โดยในปีที่ผ่านมามีรายได้สูงถึง 175 พันล้านดอลลาร์จากการค้นหาและโฆษณาที่เกี่ยวข้อง
ความท้าทายอีกประการหนึ่งคือการพัฒนาเทคโนโลยี AI ให้มีความแม่นยำและน่าเชื่อถือ จากการสาธิตการใช้งาน SearchGPT พบว่ายังมีข้อผิดพลาดในการแสดงข้อมูล เช่น วันที่ของเทศกาลที่ไม่ถูกต้อง หรือการแสดงข้อมูลเทศกาลที่จัดขึ้นในสถานที่ห่างไกลจากที่ระบุในคำค้นหา ซึ่งเป็นประเด็นที่ OpenAI ต้องปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีคู่แข่งรายอื่นๆ ที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยี AI สำหรับการค้นหาเช่นกัน อาทิ Google ที่กำลังทดสอบ Search Generative Experience (SGE) และ Perplexity ที่เพิ่งได้รับเงินทุนมูลค่าสูงถึง 520 ล้านดอลลาร์ ทำให้การแข่งขันในตลาดนี้ยิ่งทวีความเข้มข้นมากขึ้น
อีกหนึ่งความท้าทายที่สำคัญคือต้นทุนในการใช้งานระบบ AI ซึ่งมีการประมาณการว่าต้นทุนในการใช้งาน ChatGPT หนึ่งครั้งอาจสูงกว่าการค้นหาแบบปกติใน Google ถึง 1,000 เท่า ซึ่งอาจจะส่งผลให้มีปัญหาในเรื่องการจัดการต้นทุนและการสร้างผลกำไรได้ในระยะยาว
แม้ว่าจะมีความท้าทายมากมาย แต่การเปิดตัว SearchGPT ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีการค้นหาข้อมูลออนไลน์ OpenAI มีแผนที่จะปรับปรุงและพัฒนา SearchGPT อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากการเปิดให้ผู้ใช้กลุ่มเล็กๆ ได้ทดลองใช้งานและให้ข้อเสนอแนะ ซึ่งจะช่วยให้ทีมพัฒนาสามารถปรับแต่งและแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ OpenAI ยังมีแผนที่จะผสานประสบการณ์บางส่วนของ SearchGPT เข้ากับ ChatGPT ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงของบริษัท การผสานรวมนี้อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการค้นหาข้อมูลของ ChatGPT ให้ดียิ่งขึ้น
ความร่วมมือระหว่าง OpenAI และ Microsoft ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในบริษัท อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ SearchGPT สามารถเข้าถึงทรัพยากรและเทคโนโลยีที่จำเป็นในการพัฒนาและขยายการให้บริการได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ประโยชน์จาก Bing ซึ่งเป็นเครื่องมือค้นหาของ Microsoft ในการเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์
แม้ว่า Bing จะมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 3.4% เมื่อเทียบกับ Google ที่มีส่วนแบ่ง 91.6% แต่การเพิ่ม ChatGPT เข้าไปใน Bing ก็ช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานรายเดือนในสหรัฐอเมริกาเป็นสองเท่าในไตรมาสที่สองของปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้นเป็น 4.4 ล้านคนเมื่อสิ้นปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีในการเติบโตของการค้นหาที่ใช้ AI
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ใช้งานในการเข้าถึงข้อมูลออนไลน์เป็นโอกาสสำคัญสำหรับ SearchGPT และผู้ให้บริการรายอื่นๆ ในการนำเสนอวิธีการค้นหาข้อมูลรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น ดังที่ Shane Greenstein นักเศรษฐศาสตร์และศาสตราจารย์จากโรงเรียนธุรกิจฮาร์วาร์ดกล่าวว่า “เรากำลังอยู่ในช่วงตื่นทองเมื่อพูดถึง AI และการค้นหา”
อย่างไรก็ตาม การที่จะประสบความสำเร็จในตลาดการค้นหาข้อมูลออนไลน์นั้น อยู่ที่ขนาดของฐานข้อมูลที่สะสมมา เพราะยิ่งมีการค้นหามากเท่าไหร่ คำตอบก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบัน Google เป็นบริษัทเดียวที่มีพลวัตนี้อย่างลงตัว ดังนั้น SearchGPT จึงต้องพยายามสร้างฐานข้อมูลการค้นหาให้มากพอที่จะสร้างความสำเร็จของตัวเองให้ได้
ในอนาคต เราอาจได้เห็นการพัฒนาของ SearchGPT ที่ไม่เพียงแต่ให้คำตอบที่แม่นยำและรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังสามารถเข้าใจบริบทและความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างลึกซึ้ง รวมถึงการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เช่น การสรุปข้อมูลในรูปแบบอินโฟกราฟิก หรือการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบวิดีโอสั้นๆ ที่สรุปประเด็นสำคัญได้อย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ การพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นอาจช่วยลดต้นทุนในการประมวลผลลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้การใช้งาน AI ในการค้นหาข้อมูลมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิดการใช้งาน AI ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
การเปิดตัว SearchGPT ของ OpenAI จึงไม่เพียงแต่เป็นการท้าทายผู้นำตลาดอย่าง Google เท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการค้นหาข้อมูลออนไลน์ที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต
แม้ว่า SearchGPT จะยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและทดสอบ แต่ศักยภาพของเทคโนโลยี AI ที่อยู่เบื้องหลังนั้นมีความน่าสนใจอย่างยิ่ง การที่ SearchGPT สามารถให้คำตอบที่กระชับและตรงประเด็น พร้อมทั้งแสดงแหล่งที่มาของข้อมูลอย่างชัดเจน จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป การเปลี่ยนแปลงนี้อาจหมายถึงประสบการณ์การค้นหาข้อมูลที่สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการคัดกรองข้อมูลจำนวนมากเพื่อหาคำตอบที่ต้องการ นอกจากนี้ การที่ AI สามารถเข้าใจบริบทและความต้องการของผู้ใช้ได้ดีขึ้น อาจนำไปสู่การค้นพบข้อมูลที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ซึ่งผู้ใช้อาจไม่ได้นึกถึงมาก่อน
ในแง่ของธุรกิจและองค์กรต่างๆ การพัฒนาของเทคโนโลยีการค้นหาที่ใช้ AI อาจส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์การทำการตลาดดิจิทัลและการทำ Search Engine Optimization (SEO) โดยอาจต้องปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอเนื้อหาและข้อมูลให้สอดคล้องกับวิธีการทำงานของ AI มากขึ้น เพื่อให้ข้อมูลของตนยังคงปรากฏในผลการค้นหาอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเทคโนโลยี AI สำหรับการค้นหาข้อมูลก็มาพร้อมกับความท้าทายด้านจริยธรรมและความเป็นส่วนตัว เช่น การรักษาความเป็นกลางของข้อมูล การป้องกันการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั้ง OpenAI และบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมนี้จะต้องให้ความสำคัญและหาแนวทางแก้ไขอย่างจริงจัง
ในอนาคต เราอาจได้เห็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี AI กับเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) และการประมวลผลภาพ (Computer Vision) ซึ่งจะช่วยให้การค้นหาข้อมูลมีความหลากหลายและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เช่น การค้นหาด้วยเสียง การค้นหาด้วยภาพ หรือแม้แต่การค้นหาด้วยความคิด (Brain-Computer Interface) ซึ่งอาจกลายเป็นความเป็นจริงในอนาคตอันใกล้
บทสรุป: อนาคตของการค้นหาข้อมูลกับ SearchGPT
การเปิดตัว SearchGPT ของ OpenAI ถือเป็นก้าวสำคัญในวงการเทคโนโลยีการค้นหาข้อมูล ที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิธีการที่เราเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต แม้ว่าจะยังมีความท้าทายในการพัฒนาและการแข่งขันกับผู้นำตลาดอย่าง Google แต่ด้วยความสามารถในการผสมผสานเทคโนโลยี AI กับการค้นหาข้อมูลแบบดั้งเดิม SearchGPT อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ในการค้นหาข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของ SearchGPT จะขึ้นอยู่กับความสามารถของ OpenAI ในการพัฒนาระบบให้มีความแม่นยำ น่าเชื่อถือ และสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าคู่แข่ง รวมถึงการสร้างความไว้วางใจและความคุ้นเคยให้กับผู้ใช้ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างต่อเนื่อง
ในท้ายที่สุด การแข่งขันในตลาดเทคโนโลยีการค้นหาข้อมูลที่เพิ่มขึ้นนี้ น่าจะส่งผลดีต่อผู้ใช้งานทั่วไป เนื่องจากจะนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมและการปรับปรุงคุณภาพของบริการอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต
เราอาจกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการเทคโนโลยีการค้นหาข้อมูล และ SearchGPT อาจเป็นก้าวแรกสู่การปฏิวัติวิธีการที่เราค้นหาและใช้ประโยชน์จากข้อมูลในยุคดิจิทัล ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อวิถีชีวิต การทำงาน และการเรียนรู้ของผู้คนทั่วโลกในอนาคตอันใกล้นี้
References :
https://www.pymnts.com/artificial-intelligence-2/2024/report-chatgpt-hasnt-helped-bing-compete-with-google/
https://searchengineland.com/one-year-later-little-change-to-microsoft-bing-search-market-share-437238
https://www.businessinsider.com/openai-searchgpt-search-engine-prototype-declares-war-with-google-2024-5
https://www.projectreylo.com/post/searchgpt-vs-google-search-a-comparative-analysis
https://medium.com/@gargiben954/openai-announces-searchgpt-its-ai-powered-search-engine-everything-you-should-know-ec586fd12a3b