เรื่องราวของ Markus Villig และบริษัท Bolt เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างธุรกิจในโลกที่มีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่มีบริษัทยักษ์ใหญ่ครองตลาดอยู่แล้ว

Markus Villig เริ่มต้นธุรกิจ Bolt ด้วยเงินทุนเพียงน้อยนิด เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Uber ที่มีเงินทุนมหาศาล แต่ด้วยกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ Bolt สามารถเติบโตจนกลายเป็นธุรกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ได้ในเวลาไม่กี่ปี

หัวใจสำคัญของความสำเร็จของ Bolt คือการเลือกตลาดอย่างชาญฉลาด แทนที่จะพยายามแข่งขันกับ Uber ในตลาดหลักที่มีการแข่งขันสูง Bolt เลือกที่จะเจาะตลาดในประเทศที่ยังไม่มีการแข่งขันมากนัก เช่น โปแลนด์และประเทศในแอฟริกา ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้เงินทุนมหาศาล

นอกจากนี้ Bolt ยังใช้วิธีการที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ เช่น การใช้ Facebook ในการรับสมัครคนขับรถแทนการลงทุนในการโฆษณาแบบดั้งเดิม การจ้างโปรแกรมเมอร์ในเอสโตเนียที่มีค่าแรงถูกกว่า และการทำงานในสำนักงานที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ วิธีการเหล่านี้ช่วยให้ Bolt สามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความยืดหยุ่นและการปรับตัวเข้ากับตลาดท้องถิ่นก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Bolt ประสบความสำเร็จ ตัวอย่างเช่น ในแอฟริกาใต้ที่ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ไม่มีบัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคาร Bolt ได้ปรับระบบให้รองรับการชำระเงินด้วยเงินสด ซึ่งเป็นการตอบสนองความต้องการของตลาดท้องถิ่นได้อย่างดี

การบริหารการเงินอย่างรอบคอบก็เป็นอีกกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของ Bolt Markus Villig เลือกที่จะบริหารบริษัทให้ใกล้จุดคุ้มทุนมากที่สุด แทนที่จะเผาเงินมหาศาลเพื่อการเติบโตอย่างรวดเร็วเหมือนกับที่ Uber ทำ วิธีการนี้ช่วยให้ Bolt สามารถอยู่รอดได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และยังช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นความประหยัดและมีประสิทธิภาพ

แม้ว่า Bolt จะได้รับเงินลงทุนจำนวนมากในภายหลัง แต่ Villig ก็ยังคงยึดมั่นในหลักการประหยัดและมีประสิทธิภาพ เขาเลือกที่จะใช้เงินทุนส่วนใหญ่ไปกับการพัฒนา Super App ของ Bolt ซึ่งนำเสนอบริการที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การเช่าสกู๊ตเตอร์และรถยนต์ บริการส่งอาหารและของชำ ซึ่งเป็นการขยายธุรกิจอย่างชาญฉลาดโดยใช้ฐานลูกค้าและโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของ Bolt ไม่ได้ปราศจากความท้าทาย เช่นเดียวกับ Uber และบริษัทแพลตฟอร์มอื่น ๆ Bolt ก็ต้องเผชิญกับความกดดันจากรัฐบาลท้องถิ่นในเรื่องของกฎระเบียบ และการเรียกร้องให้จัดประเภทคนขับเป็นพนักงานประจำ ซึ่งเป็นความท้าทายที่ Bolt จะต้องหาทางรับมือในอนาคต

นอกจากนี้ ความสำเร็จของ Bolt ยังสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศเล็ก ๆ อย่างเอสโตเนียในการสร้างบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก เอสโตเนียได้สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของ Startup ด้วยโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่ก้าวหน้า นโยบายที่เป็นมิตรกับธุรกิจ และวัฒนธรรมที่ส่งเสริมนวัตกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราได้เห็น Unicorn จากเอสโตเนียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เรื่องราวของ Bolt ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่อาจจะมองว่าการแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ Bolt แสดงให้เห็นว่าด้วยกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และความมุ่งมั่น แม้แต่บริษัทเล็ก ๆ ก็สามารถประสบความสำเร็จในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้นั่นเองครับผม

References :
https://www.forbes.com/sites/iainmartin/2023/04/12/how-this-estonian-startup-beat-uber-at-its-own-game
https://3seaseurope.com/a-bolt-in-the-sky-the-meteoric-rise-of-an-estonian-mobility-company/
https://cnbc.com/2021/09/17/estonia-president-skype-wise-bolt-thrive-in-absence-of-tech-giants.html
https://startupuniversal.com/e-stonia-the-most-digitally-advanced-startup-ecosystem-in-the-world/
https://saartehaal.postimees.ee/7658128/markus-villig-bolt-saab-kahe-aasta-parast-borsikupseks