Geek Daily EP238 : เมื่อจีนกินรวบแบตเตอรี่ EV โลก แล้วอนาคตของผู้ผลิตรายอื่นจะเป็นอย่างไร?

ในยุคที่ประเทศจีนกำลังกินรวบวงการแบตเตอรี่ EV โลก เหล่าบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่ทั่วโลกทุ่มเทเงินลงทุนมหาศาลเพื่อรองรับความต้องการที่คาดว่าจะพุ่งสูงขึ้น พวกเขากลับต้องเผชิญกับความจริงที่ว่า การเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้านั้นช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ส่งผลให้หลายบริษัทประสบปัญหาในการทำกำไร และบางรายถึงกับต้องทบทวนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจครั้งใหญ่

แต่ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ ยังมีแสงสว่างแห่งโอกาสที่รอคอยการค้นพบ การเข้าใจถึงรากเหง้าของปัญหา และการมองหาทางออกที่ถูกต้อง อาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะไขประตูสู่อนาคตที่สดใสของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้า

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/y5t75z34

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/4drf8pmb

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://tinyurl.com/5n8dh2jd

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
http://bit.ly/2kxHtQ3

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/XP0qSdBLXXQ

หลับน้อย รวยจริงหรือ? เมื่อ Bill Gates พลิกความคิด จากคนที่ภูมิใจกับการนอนน้อย สู่ผู้เชื่อในพลังของการนอน

ในโลกธุรกิจที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด มีความเชื่อฝังหัวว่าการทำงานหนักและอดหลับอดนอนคือกุญแจสู่ความสำเร็จ แต่ Bill Gates ผู้ก่อตั้ง Microsoft และมหาเศรษฐีระดับโลก กลับมีมุมมองที่แตกต่างออกไป เขาได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญจากประสบการณ์ชีวิต และต้องการแบ่งปันให้คนรุ่นใหม่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิต

ย้อนกลับไปในช่วงเริ่มต้นของ Microsoft Gates เล่าว่าเขาทำงานหนักอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย “ในช่วงแรกที่สร้าง Microsoft ผมทำงานกลางคืนทุกวันตอนที่เราต้องทำซอฟต์แวร์สักตัวให้เสร็จ” เขาเล่าในบล็อก “มีอยู่ครั้งสองครั้งที่ผมไม่ได้นอนติดกันสองคืน”

แนวคิดนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ Gates เท่านั้น แต่เป็นวัฒนธรรมที่แพร่หลายในวงการธุรกิจ “ถ้าผมพูดว่า ‘ผมได้นอนแค่หกชั่วโมง’ ก็จะมีคนพูดต่อจากผมว่า ‘เขาได้นอนแค่ห้าชั่วโมงเอง!’ หรือ ‘จริงๆ แล้วบางครั้งเขาก็ไม่ได้นอนเลย’ น่ะ” Gates ย้อนรำลึกความหลัง

ความท้าทายนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในโลกธุรกิจ แม้แต่ในรั้วมหาวิทยาลัย Gates ก็ยังคงยึดมั่นในแนวคิดนี้ “ตอนอายุเท่าพวกคุณ ผมไม่เชื่อในวันหยุด ผมผลักดันให้ผู้คนรอบกายทำงานหนักมาก” เขาเล่าให้นักศึกษาฟังในพิธีรับปริญญาที่มหาวิทยาลัย Northern Arizona

แม้ว่าการทำงานหนักจะนำมาซึ่งความสำเร็จทางธุรกิจ แต่ Gates เริ่มตระหนักว่ามันอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพและความสุขในระยะยาว จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อพ่อของเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์

“การนอนคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดที่เราสามารถคาดเดาได้ ว่ามีผลต่อภาวะสมองเสื่อม รวมถึงโรคอัลไซเมอร์ด้วย หากคุณไม่ได้นอนอย่างมีคุณภาพ” Gates กล่าว ข้อมูลนี้สอดคล้องกับผลการศึกษาโดย National Institute of Health ในปี 2021 ที่พบว่าผู้ที่มีอายุระหว่าง 50-70 ปีที่นอนหลับ 6 ชั่วโมงหรือน้อยกว่า มีแนวโน้มสมองเสื่อมมากกว่าผู้ที่นอน 7 ชั่วโมงขึ้นไปถึง 30%

การค้นพบนี้ทำให้ Gates หันมาให้ความสำคัญกับการนอนหลับมากขึ้น เขาแนะนำหนังสือ “Why We Sleep” โดย Matthew Walker และเชื่อว่าทุกคนจำเป็นต้องนอนให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อคืนเพื่อให้สมองสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

นอกจากนี้ Gates ยังค้นพบว่าความสำเร็จไม่ได้วัดกันที่การทำงานหนักเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนรอบข้าง โดยเฉพาะครอบครัว “แต่พออายุมากขึ้น โดยเฉพาะตอนที่กลายมาเป็นพ่อคน ผมจึงตระหนักว่าชีวิตสำคัญกว่างาน อย่าละเลยความสัมพันธ์กับครอบครัวหรือคนที่เรารักนานเกินไปแบบผม”

ด้วยประสบการณ์และบทเรียนที่ได้รับ Gates ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองและวิธีการดำเนินชีวิตของตนเอง เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว “ใช้เวลาดูแลความสัมพันธ์ เฉลิมฉลองความสำเร็จ และเยียวยาตัวเองจากความสูญเสีย” เขาแนะนำ

Gates ยังตระหนักถึงคุณค่าของประสบการณ์ชีวิตนอกเหนือจากการทำงาน เขาย้อนรำลึกถึงช่วงเวลาที่ Harvard ว่า “สิ่งที่ผมจำได้ดีที่สุดเกี่ยวกับ Harvard คือการอยู่ท่ามกลางคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความเฉลียวฉลาด มีสุขบ้าง ทุกข์บ้าง บางครั้งก็เสียกำลังใจ แต่ความท้าทายมีอยู่เสมอ นับเป็นสิทธิพิเศษอันน่าทึ่งครับ”

ในฐานะผู้ประสบความสำเร็จระดับโลก Gates ตระหนักดีว่าเขามีอิทธิพลต่อคนรุ่นใหม่ เขาจึงใช้โอกาสในการกล่าวสุนทรพจน์และเขียนบล็อกเพื่อแบ่งปันบทเรียนชีวิตของตน หวังว่าจะช่วยให้คนรุ่นใหม่หลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่เขาเคยทำ และค้นพบความสมดุลในชีวิตได้เร็วกว่าที่เขาเคยทำ

บทสรุป

จากเรื่องราวของ Bill Gates เราได้เห็นถึงการเดินทางของชีวิตที่เริ่มต้นด้วยความทุ่มเทอย่างหนักเพื่อความสำเร็จ สู่การค้นพบความสำคัญของการสร้างสมดุลในชีวิต

บทเรียนนี้ไม่เพียงแต่มีคุณค่าสำหรับนักธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นแนวทางสำหรับทุกคนที่กำลังมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จในชีวิต การตระหนักถึงความสำคัญของการพักผ่อน การสร้างความสัมพันธ์ และการมีประสบการณ์ชีวิตที่หลากหลาย อาจเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จและความสุขที่ยั่งยืนในระยะยาว

References :
https://www.entrepreneur.com/business-news/bill-gates-there-is-more-to-life-than-work/452432
https://www.cnbc.com/2023/08/03/bill-gates-sleep-isnt-unnecessary-its-the-key-to-a-healthy-brain.html
https://www.businessinsider.com/bill-gates-microsoft-used-to-think-sleep-was-lazy-unnecessary-2023-8

ฟิลิปส์จับมือโซวิค เปิดตัวศูนย์ “Learning and Experience Center” โฉมใหม่มุ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้และสร้างประสบการณ์ด้านโซลูชั่นส์เครื่องติดตามสัญญาณชีพสำหรับโรงพยาบาลแบบครบวงจร

รอยัล ฟิลิปส์ (NYSE: PHG, AEX: PHIA) ผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพระดับโลก ร่วมกับโซวิค (Xovic) ตัวแทนผู้จัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ชั้นนำในประเทศไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับฟิลิปส์มาอย่างยาวนาน เปิดตัวศูนย์ “Learning and Experience Center” โฉมใหม่ ณ ศูนย์อำนวยการของบริษัทโซวิค

โดยภายในศูนย์ฯ จะมีการติดตั้งโซลูชั่นส์เครื่องตรวจติดตามสัญญาณชีพสำหรับโรงพยาบาลและเทคโนโลยี Connected Care ของฟิลิปส์ เพื่อเป็นศูนย์สำหรับฝึกอบรมสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และยังสามารถเข้าเยี่ยมชมและดูการทำงานของโซลูชั่นส์เครื่องตรวจติดตามสัญญาณชีพสำหรับโรงพยาบาลและเทคโนโลยี Connected Care ของฟิลิปส์อย่างครบวงจร ทั้งแบบออนไซต์และออนไลน์ได้อีกด้วย

อเล็กซี่ คอสต้า Head of Growth Region กลุ่มธุรกิจเครื่องติดตามสัญญาณชีพสำหรับโรงพยาบาล ฟิลิปส์ Growth Region กล่าวว่า “เทคโนโลยีจะมีประสิทธิภาพ เมื่อสามารถทำงานตอบสนองความต้องการทางด้านสาธารณสุขได้ ด้วยความมุ่งมั่นของฟิลิปส์ในการพัฒนานวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้งมานานกว่า 130 ปี เรายังคงนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ในโซลูชั่นส์เครื่องตรวจติดตามสัญญาณชีพอยู่เสมอ และบูรณาการระบบของเราเพื่อสนองต่อความต้องการทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น และการดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้นได้ อนาคตของวงการแพทย์ขึ้นอยู่กับการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ให้บริการด้านสาธารณสุขด้วยทักษะและความสามารถเพื่อให้ก้าวทันเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วยและปฏิวัติผลลัพธ์ด้านสุขภาพให้ดีที่สุด”

ด้วยจำนวนผู้ป่วยและความต้องการด้านสาธารณสุขที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและเผชิญกับความท้าทายด้านจำนวนของบุคลากรทางการแพทย์ จึงมีความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงระบบสาธารณสุขด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วย

ซึ่งจากรายงานผลการสำรวจ Philips Future Health Index 2023 (FHI) พบว่าเกือบครึ่ง (44%) ของบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ต้องการได้รับการฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการดูแลผู้ป่วย

ภายในศูนย์ ‘Learning and Experience Center’ โฉมใหม่มีการติดตั้งโซลูชั่นส์เครื่องติดตามสัญญาณชีพสำหรับโรงพยาบาลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างครบวงจร เพื่อเชื่อมต่อการดูแลผู้ป่วยตลอดเส้นทางตั้งแต่ห้องฉุกเฉินจนถึงหอพักผู้ป่วยทั่วไป

โดยบุคลากรทางการแพทย์จะได้รับการฝึกอบรมในการใช้งานตั้งแต่เครื่องมอนิเตอร์ข้างเตียง, มอนิเตอร์สำหรับขนย้ายผู้ป่วย, ระบบศูนย์ข้อมูลกลาง และแอปพลิเคชันการเชื่อมต่อสำหรับเคลื่อนที่ เพื่อสร้างความเข้าใจและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

ดาต้าและข้อมูลเชิงลึก (Actionable Insights) มีความเกี่ยวข้องอย่างมากต่อการตัดสินใจในการดูแลรักษาทางคลินิก ภายในศูนย์ฯแห่งนี้ จึงจะมีการติดตั้งระบบเชื่อมต่อข้อมูลสารสนเทศที่มาพร้อมโซลูชั่นส์ขั้นสูงเพื่อช่วยสนับสนุนการตัดสินใจทางคลินิก ระบบดังกล่าวจะทำงานร่วมกับระบบสัญญาณเตือน (Smart alarms) ในการประมวลผลข้อมูลผู้ป่วย และแจ้งให้เจ้าหน้าที่พยาบาลทราบทันทีเมื่อผู้ป่วยมีอาการที่แย่ลงหรือวิกฤต

โดยระบบข้อมูลสารสนเทศนี้จะเก็บข้อมูลผู้ป่วยจากเครื่องติดตามสัญญาณชีพและเครื่องมือแพทย์ต่างๆ และรวบรวมไว้ในเวชทะเบียนฉุกเฉิน (EMR) และยังเชื่อมต่อข้อมูลผู้ป่วยได้อย่างไร้รอยต่อ ตั้งแต่เข้ารับการรักษาจนสิ้นสุดกระบวนการรักษาและในระหว่างการขนย้ายผู้ป่วยด้วย

นายวิโรจน์ วิทยาเวโรจน์ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์ ประเทศไทย จำกัด เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของฟิลิปส์ในการสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ว่า “ฟิลิปส์และโซวิค เราทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อส่งมอบเทคโนโลยีทางการแพทย์ให้กับผู้ให้บริการด้านสาธารณสุขและผู้ป่วยในประเทศไทย และเรายังร่วมกันสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ด้วยการฝึกอบรมการใช้งานเครื่องมือทางการแพทย์ การอัพเดทข้อมูลเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ หรือการสนับสนุนการเรียนรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วย  ด้วยศูนย์ฯ แห่งนี้จะช่วยส่งเสริมความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเครื่องติดตามสัญญาณชีพสำหรับโรงพยาบาลและระบบข้อมูลสารสนเทศ เพื่อประสบการณ์และผลลัพธ์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่ดีขึ้น”

ศูนย์ ‘Learning and Experience Center’ แห่งนี้ มีการเตรียมการฝึกอบรมเฉพาะทาง ทั้งในด้านคลินิก ด้านเทคนิคและด้านปฏิบัติการ เพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ โดยมีการฝึกอบรมหลากหลายรูปแบบ และยังมีคอร์สสำรับการอัพเดทเทคโนโลยีล่าสุดและกระบวนการทางคลินิกด้วย

นายวีระชัย แสงเกื้อกุลชัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โซวิค จำกัด กล่าวว่า “โซวิคก่อตั้งในปี พ.ศ. 2529 เราจึงมีประสบการณ์และความเข้าใจต่อความต้องการของวงการสาธาณสุขในประเทศไทย และด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปี ในการทำงานร่วมกับฟิลิปส์ในการจัดจำหน่ายเครื่องติดตามสัญญาณชีพสำหรับโรงพยาบาล เราจึงทราบดีว่า เราควรนำเสนอนวัตกรรมและโซลูชั่นส์ใดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของวงการสาธารณสุขไทยได้ ความร่วมมือของเรากับฟิลิปส์ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างประสบการณ์และการเรียนรู้ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น แต่ยังส่งเสริมศักยภาพด้านทักษะและความสามารถอย่างต่อเนื่องอีกด้วย”

บทเรียนจากซีรีส์ : อำนาจ การเมือง และความจริงที่ถูกซ่อนไว้ จาก 4 ประเทศของ Netflix

ซีรีส์ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองถือเป็นผลงานโปรดของผมเลยนะครับโดยเฉพาะในแพลตฟอร์มอย่าง Netflix เรียกได้ว่าผมเก็บหมดแทบจะของทุกประเทศ ซึ่งเราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างเกี่ยวกับเบื้องหลังของการเมือง และระบอบการปกครองที่ดูเท่ห์อย่าง “ประชาธิปไตย”

เมื่อเราเปิดตำราเรียนหรือฟังคำกล่าวอ้างของนักการเมือง เรามักจะได้ยินถึงระบอบประชาธิปไตยอันสวยหรู ที่ซึ่งอำนาจถูกแบ่งสรรอย่างสมดุล ผู้นำทำงานเพื่อประชาชน และความยุติธรรมครอบคลุมทุกชนชั้น แต่นั่นเป็นเพียงภาพลวงตาที่ถูกวาดขึ้นเพื่อปกปิดความจริงอันโหดร้าย

ซีรีส์อย่าง “House of Cards” จากสหรัฐอเมริกา “Borgen” จากเดนมาร์ก “The Whirlwind” จากเกาหลีใต้ และ “Anatomy of a Scandal” จากอังกฤษ ได้เปิดเผยให้เห็นถึงความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังม่านการเมือง นักการเมืองที่เราเห็นบนหน้าจอไม่ได้ต่างจากตัวละครในซีรีส์เหล่านี้มากนัก พวกเขาต่างแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน พร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อก้าวขึ้นสู่อำนาจ

แม้แต่คนที่เคยมีอุดมการณ์สูงส่ง เมื่อได้ลิ้มรสชาติของอำนาจ ก็มักจะเปลี่ยนไป อำนาจกลายเป็นยาเสพติดที่น่ากลัวที่สุด ทำให้ผู้คนยอมทำทุกอย่างเพื่อรักษามันไว้ การต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจกลายเป็นเกมที่ไม่มีวันจบสิ้น

ระบบการถ่วงดุลอำนาจที่เราเรียนรู้มา ไม่ว่าจะเป็นอำนาจตุลาการ นิติบัญญัติ หรือบริหาร แทบจะไม่มีประสิทธิภาพในโลกแห่งความเป็นจริง เพราะผู้ที่มีอำนาจสามารถสั่งการและแต่งตั้งพรรคพวกของตนเองเข้ามาครอบครองตำแหน่งสำคัญได้ทั้งหมด

แม้ภาพที่เห็นจะดูมืดมน แต่การที่ซีรีส์เหล่านี้ได้รับความนิยมและถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง แสดงให้เห็นว่าผู้คนเริ่มตระหนักถึงปัญหาที่แท้จริงในระบบการเมือง และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

เราในฐานะประชาชนต้องเรียนรู้ที่จะมองทะลุภาพลวงตาที่นักการเมืองพยายามสร้างขึ้น ต้องเข้าใจว่าการเมืองไม่ได้สวยงามอย่างที่เห็นในตำรา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราทุกคนต้องยอมจำนนต่อสภาพที่เป็นอยู่

การรับรู้ถึงปัญหาคือก้าวแรกของการแก้ไข ต้องมีการร่วมกันสร้างระบบตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน และสร้างวัฒนธรรมการเมืองที่โปร่งใสมากขึ้น

แม้ว่าประชาธิปไตยในอุดมคติอาจไม่มีอยู่จริง แต่สามารถที่จะสร้างระบบที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ได้ ด้วยการเรียนรู้จากข้อผิดพลาดในอดีตและร่วมกันสร้างอนาคตที่ดีกว่า

ซีรีส์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิง แต่ยังเป็นกระจกสะท้อนสังคม ทำให้เราได้เห็นปัญหาที่แท้จริงและกระตุ้นให้เกิดการถกเถียงที่สร้างสรรค์ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคต

References : Netflix

Singha Online พัฒนาเว็บไซต์ เพิ่มฟังก์ชั่นทันสมัย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ มอบประโยชน์สูงสุดลูกค้า

เว็บไซต์ช้อปปิ้ง “Singha Online“ ใหม่ ได้รับการพัฒนา และอัพเกรดเวอร์ชั่น ชูคอนเซ็ปต์ “Deliver Happiness“ จัดเต็มฟังก์ชั่นทันสมัยให้ลูกค้าเลือกใช้ตามต้องการ จะซื้อสินค้าแบบส่งประจำด้วยราคาเดิม หรือจะเป็นการซื้อสินค้าปกติที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นแบบ Personalize เพื่อสิทธิประโยชน์สูงสุดแก่นักช้อป

คุณวรภัทร ชวนะนิกุล Chief Strategy Officer and Chief Financial Officer บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ในยุคดิจิทัลที่ผู้บริโภคมีความต้องการเฉพาะตนหรือ Personalize มากขึ้น และการช้อปปิ้งออนไลน์ตอบสนองไลฟ์สไตล์การซื้อสินค้าของกลุ่มเป้าหมายของเรา ทำให้สิงห์ออนไลน์ได้ปรับโฉมเว็บไซต์ ครั้งใหญ่ ด้วยการพัฒนาให้การใช้งานมีความสะดวกสบาย ง่ายยิ่งขึ้น และมีการเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆ เพื่อตอบสนองการซื้อสินค้าและบริการของลูกค้า

สำหรับจุดเด่นของการพัฒนาเว็บไซต์ช้อปปิ้ง Singha Online โฉมใหม่ ได้มีการเพิ่มเมนูการซื้อสินค้ารูปแบบใหม่ สำหรับลูกค้าที่ต้องการสั่งสินค้ารายการเดิมให้ส่งตามรอบเป็นประจำ โดยผู้บริโภคสามารถวางแผนการซื้อสินค้า และกำหนดความถี่ในการจัดส่งได้เอง ผ่านเมนูที่มีชื่อว่า “Singha Online Easy Plan“ (สั่งง่าย ส่งประจำ ถึงมือคุณ) โดยราคาจะเป็นราคาเดิม (Fix Price) ไม่ว่าจะซื้อตอนไหน ก็ได้ราคาเดิม พร้อมความสะดวกด้วยการชำระค่าบริการผ่านบัตรเครดิต ลูกค้าก็สามารถรับสินค้าที่บ้านได้อย่างต่อเนื่อง

ส่วนโปรโมชั่น มีการสร้างสรรค์มาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบ Personalize มากขึ้น เช่น โปรโมชั่นที่สร้างสรรค์มาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ โปรโมชั่นส่วนลดเดือนเกิดโดยเฉพาะ และสิทธิ์แลกซื้อสินค้าในราคาพิเศษ

นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถติดตามการสั่งซื้อสินค้าได้ด้วยตัวเอง รวมถึงสามารถขอและติดตามใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือ E-Tax ผ่านเว็บไซต์ได้เลย ที่สำคัญผู้บริโภคสามารถช้อปปิ้งได้ตลอดเวลาผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือ คอมพิวเตอร์ ได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งมีการปรับเปลี่ยนโกโล้ใหม่ให้มีความทันสมัยสร้างอัตลักษณ์แบรนด์ (Brand Identity) ให้โดดเด่น ช่วยสร้างการจดจำให้กับผู้บริโภคได้ง่ายมากยิ่งขึ้น  

ปัจจุบันแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ของสิงห์ มีหลายช่องทาง ได้แก่ www.singhaonline.com, เฟสบุ๊ก Singha Online, ช่องทางอีคอมเมิร์ซ ทั้ง Shopee และ Lazada รวมถึง Call Center 1245 Singha Online ให้บริการแก่ลูกค้าเป็นเวลากว่า 12 ปี มีลูกค้าใช้บริการช้อปปิ้งออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทคาดว่าลูกค้าจะได้รับความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้นจากการปรับโฉมครั้งนี้ Singha Online พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ และมอบประโยชน์สูงสุดให้แก่ลูกค้า ตามพันธกิจ Deliver Happiness ของเรา